:::     :::

เมื่อ 'เคน' กลายเป็นนักเตะเบอร์ 9.5

วันพุธที่ 03 เมษายน 2562 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
1,848
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หากคุณเป็นแฟนบอลของ สเปอร์ส คุณคงมีรอยยิ้มไม่มากนักกับหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

    แต่การเปลี่ยนแปลงบทบาทของนักเตะคนสำคัญมากที่สุดของพวกเขานั้นถือเป็นเรื่องน่ายินดี

    ก่อนเกมที่จะเปิดสนามใหม่เผชิญหน้า คริสตัล พาเลซ เมื่อวันพุธ ไก่เดือยทองต้องพุ่งชนผลงานเลวร้ายที่สุดภายใต้การคุมทัพของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

    ด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า บวกกับการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ดันสะดุดขาตัวเองล้มทำให้ สเปอร์ส ยังคงยึดท็อปโฟร์ได้ในปัจจุบันพร้อมความหวังว่าจะได้กลับไปเล่นในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้งในฤดูกาลหน้า

    แต่นั่นก็ไม่ใช่เพียงแง่ร้ายที่เกิดขึ้นกับทีมแห่งนอร์ธลอนดอน

    เมื่อวันพุธ พวกเขาได้เปิดตัวที่สนามเหย้าใหม่มูลค่ากว่า 1 พันล้านปอนด์เป็นครั้งแรก และคนสำคัญอย่าง แฮร์รี่ เคน ก็เพิ่งจะได้รับรางวัลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเอ็มบีอี จากเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์

    ถึงฟอร์มของทีมในช่วงนี้จะไม่น่าปลาบปลื้มมากนัก แต่เราก็ได้เห็นนักเตะอย่าง เคน ปรับเปลี่ยน และพัฒนาการเล่นของเขาด้วยตาของเราเอง

    การพลาดของ มุสซ่า ซิสโซโก้ จากลูกยิงด้วยซ้ายที่แอนฟิลด์คือโมเมนต์ที่สำคัญในนัดนั้น

    คนส่วนใหญ่มักพากันยกย่องถึงความชาญฉลาดของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่หากมองให้ดี ลูกผ่านบอลของ เคน นั้นสร้างโอกาสให้ทีมได้หลุดไปดวลกับคู่แข่งแบบสองต่อหนึ่ง

    ขณะที่เขายังหันหลังให้กับประตู ดาวเตะวัย 25 ปีได้กระแทกบอลจังหวะเดียวไปสู่เท้าของ ซน ฮึง-มิน

    การเคลื่อนที่ของ เคน ได้ลากเอา โฌแอล มาติป ให้หลุดจากตำแหน่งมาไกลเกินเส้นกลางสนาม ซึ่งนั่นเป็นการเปิดพื้นที่ให้ ซิสโซโก้ ได้ควบบอลเข้าหาหน้าปากประตู

    ส่วนความยอดเยี่ยมก่อนหน้านั้นก็คือประตูตีเสมอของไก่เดือยทองที่มาจากจังหวะฉวยโอกาสเล่นฟรีคิกเร็ว ซึ่งบอลโด่งไปถึง คีแรน ทริปเปียร์ จนกระทั่งเป็นผลให้ ลูคัส มูร่า กระทุ้งบอลผ่านตัว อาลิสซง เบ็คเกอร์ ในระยะที่ต้องบอกว่าเผาขน

    น่าเสียดาย หากดาวเตะเฟร้นช์แมนสามารถเปลี่ยนโอกาสจากลูกหลุดเดี่ยวเป็นประตูได้ วิชั่นของ เคน คงจะได้รับเสียงชื่นชมมากกว่านี้สำหรับการสร้างสรรค์โอกาสที่นำมาด้วย 2 ประตูสำคัญ และนั่นเท่ากับเพิ่มโอกาสที่ สเปอร์ส จะพาตัวเองไปจบในกลุ่มท็อปโฟร์ได้มากยิ่งขึ้น

    แต่!!!

    สุดท้ายแล้วเราก็รู้ว่ามันไม่ได้เป็นไปแบบนั้น

    อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปยังการเล่นส่วนตัวของ เคน ดาวเตะผู้คว้าตำแหน่งดาวซัลโว 2 สมัยก็ได้พัฒนาตัวเองในเรื่องของการผ่านบอลอย่างชัดเจน

    ย้อนกลับไปในช่วงเบรกทีมชาติ ลูกบอลซึ่งออกจากเท้าของเขาซึ่งตัดหลังแผงแนวรับของทีมชาติเช็กไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก และทิศทางต้องบอกว่าเหลือร้าย จนนำไปสู่การหลุดของ เจดอน ซานโช่ เปิดต่อไปให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้จบสกอร์

    ในตอนนี้ เคน ไม่ได้เป็นเพียง 'ฟ็อกซ์ อิน เดอะ บ็อกซ์' แต่เขาเป็นอะไรที่มากกว่านั้นไปแล้ว

    เขาเชื่อมาตลอดว่าเขาเป็นนักเตะที่มีความสามารถหลากหลายที่จะสร้างสรรค์โอกาสให้กับคนอื่นๆ ขณะที่สถิติการซัลโวประตูของเขาก็ยังยอดเยี่ยมอยู่เหมือนเดิม

    มันเป็นเรื่องจริงที่เราได้เห็นเขาใส่เสื้อหมายเลข 9 ให้ทีมชาติอังกฤษ และใส่เบอร์ 10 ให้กับ สเปอร์ส

    แน่นอน นักเตะตำแหน่งเบอร์ 9 ในความเข้าใจของคนลูกหนังก็คือกองหน้าตัวจบสกอร์ ส่วนตำแหน่งเบอร์ 10 ก็จะเป็นพวกเพลย์เมกเกอร์ที่คอยสร้างสรรค์โอกาสให้กับทีม

    ตอนนี้ เคน เหมือนจะมีทั้งสองบทบาทควบคู่กันไปแล้ว และในอนาคตเราคงจะเรียกเขาว่าเป็นนักเตะตำแหน่งหมายเลข 9.5 ซึ่งสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นทั้งตัวจบสกอร์ หรือเพลย์เมกเกอร์ได้อย่างตามใจชอบ

    ตัวอย่างที่ชัดเจนเลยก็คือ คาริม เบนเซม่า ซึ่งเคยหล่นคำพูดเอาไว้เมื่อต้นปีนี้ว่า "ผมเป็นนักเตะเบอร์ 9 ที่มีหัวใจเป็นนักเตะเบอร์ 10"

    มองกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว หน้าที่หลักที่เราได้เห็น เบนเซม่า เล่นกับ เรอัล มาดริด คือการเป็นลูกหาบของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

    มันจึงปรากฎผลงานของเขาว่ายิงได้เพียง 5 ประตูเท่านั้นในลีก แต่กลับทำแอสซิสต์ได้ถึง 10 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 4 ในลา ลีกา เมื่อปี 2017-18

    กับซีซั่นนี้ที่ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสเก็บข้าวของไปอยู่กับ ยูเวนตุส เราจึงได้เห็น เบนเซม่า ปรับบทบาทของตัวเขาเองกันอีกครั้ง

    เขาเปลี่ยนสถานะตัวเองมาเป็นตัวจบสกอร์ด้วยการยิงไปถึง 23 ประตูในทุกรายการ และก็ยังมีสถิติทำแอสซิสต์มากกว่านักเตะคนอื่นๆ ในทีมราชันชุดขาวอีกด้วย

    มีความเป็นไปได้สูงเหลือเกินที่ เคน จะเดินตามรอย เบนเซม่า ซึ่งนั่นคงทำให้แฟนบอลอังกฤษตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

    การรับบทบาทของตำแหน่งเบอร์ 9.5 จะทำให้เหล่าปีกอย่าง สเตอร์ลิง, ซานโช่, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, เจสซี่ ลินการ์ด หรือกระทั่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้วิ่งตามช่องของตัวเองได้อย่างสนุกสนาน

    ความกังวลเดียวของพวกเขาน่าจะมาจากเหล่ากองเชียร์ของ สเปอร์ส

    เพราะถ้า เคน เปลี่ยนจากการเป็นแค่ตัวจบสกอร์ชั้นยอดมาเป็นคนที่ทำอะไรได้หลากหลายอย่าง เบนเซม่า แล้วล่ะก็

    บางที เรอัล มาดริด อาจรู้สึกว่ากองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษคือสิ่งจำเป็นของทีมเมื่อวันหมดยุคของดาวเตะชาวฝรั่งเศสเดินทางมาถึง


    พาสต้า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})