การเซ็นสัญญานักเตะในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ หลายทีมเลือกจ่ายเงินก้อนเล็กเพื่อยืมตัวก่อน แล้วทำเงื่อนไขซื้อขาดหลังจากนั้น เปรียบเสมือนการทดลองอยู่ก่อนแต่ง มากกว่าที่จะเสี่ยงทุ่มจ่ายหนักทีเดียวเหมือนสมัยก่อน

จาก 20 ทีมพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ มีหลายสโมสรที่มีการทำลายสถิติค่าตัวแพงสุดเกิดขึ้นในซีซั่นนี้ ลองไปดูนักเตะทั้ง 20 คน ว่ามีใครเป็นใคร ใครประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลวกันบ้าง (เริ่มจาก 10 ทีมแรก)

ดาวยิงทีมชาติกาบอง อำลา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาอยู่กับ อาร์เซน่อล เมื่อช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายเดือนมกราคมปี 2018 ด้วยค่าตัว 56 ล้านปอนด์ เฉือนสถิติค่าตัวแพงสุดของ อเลซ็องด์ ลากาแซ็ตต์ ที่ย้ายมา 52.7 ล้านปอนด์ ก่อนหน้านั้นราวๆ 6 เดือน ถึงตอนนี้ โอบาเมยัง ตอบแทน เดอะ กันเนอร์ส ไปแล้ว 32 ประตูจาก 54 เกม และจะผลิตประตูต่อไปเรื่อยๆ

ค่าตัว 25 ล้านปอนด์สำหรับทีมใหญ่ถือว่าจิ๊บจ๊อย แต่สำหรับ บอร์นมัธ ถือว่ามหาศาลมาก และกลายเป็นสถิติค่าตัวแพงสุดของสโมสรตอนซื้อกองกลางโคลอมเบียมาจาก เลบานเต้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ซึ่งมิดฟิลด์วัย 24 ปีถือว่าปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้เร็ว โดยเฉพาะเรื่องเกมหนัก และการเข้าปะทะแบบหนักหน่วง จนถึงตอนนี้โดยใบเหลืองไปมากที่สุด 11 ใบ

ปีกอิหร่านสร้างชื่อเอาไว้ในลีกฮอลแลนด์ ด้วยการเป็นปีกยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล 2016-17 จากนั้นก็กลายเป็นดาวซัลโว 21 ประตูในเอเรดิวิซี่ฤดูกาล 2017-18 จน ไบรท์ตัน ต้องยอมทุบกระปุกจ่ายค่าตัว 17 ล้านปอนด์เป็นสถิติใหม่สโมสร ดึงตัวมาจาก อาแซด อัลค์มาร์ แต่ปัญหาใหญ่คืออาการบาดเจ็บในช่วง 2 เดือนแรก และพอฟิตกลับมาก็ยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งได้

แม้เป็นทีมที่กระมิดกระเมี้ยนในเรื่องการใช้จ่าย แต่ เดอะ คลาเรตส์ ก็ยอมเสี่ยงลงทุน 15 ล้านปอนด์ให้กับ กิ๊บสัน อย่างไรก็ตาม โชคร้ายของ ชอน ไดช์ คือการส่งเซนเตอร์แบ็กเด็กปั้นของ มิดเดิลสโบรช์ เข้ารับการผ่าตัด และพลาดช่วยทีมไปนาน จนถึงตอนนี้เพิ่งลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกไปเพียงนัดเดียว เพราะไม่อาจแย่งตัวจริงจาก เบน มี กับ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ได้

ถึงตอนนี้ยังเป็นปัญหาคาราคาซังว่าการเซ็นสัญญา 15 ล้านปอนด์ซื้อ เอมิเลียโน่ ซาล่า มาจาก น็องต์ เสร็จสิ้นสมบูรณ์หรือยัง ก่อนเหตุการณ์เครื่องบินตก ดังนั้นสถิติค่าตัวแพงสุดของสโมสรยังอ้างอิง 11 ล้านปอนด์ของ การี่ เมเดล ฮาร์ดแมนชาวชิลี ที่ย้ายมาจาก เซบีย่า เมื่อปี 2013 แต่อยู่กับทีมได้ซีซั่นเดียว เพราะล้มเหลวทั้งผลงานส่วนตัว และผลงานของทีมที่ตกชั้น

เชลซี, ซาร์รี่ และ เกปา ออกสตาร์ตฤดูกาลนี้ได้ดี ทำให้สถิติค่าตัวแพงสุด 71 ล้านปอนด์ที่ซื้อมาจาก แอธเลติก บิลเบา ซัมเมอร์ปีที่แล้ว ดูเหมือนน่าจะคืนทุนในไม่ช้า แต่เล่นไปเล่นมาผลงานของทีมก็ตกลง และ เกปา ก็สร้างชื่อโด่งดังจากเหตุการณ์ปฏิเสธการเปลี่ยนตัวของ ซาร์รี่ ในรอบชิง คาราบาวคัพ ถึงกระนั้น นายประตูวัย 24 ปี ก็จะเป็นอนาคตในถิ่น เดอะ บริดจ์ ไปอีกนาน

หลังจากล้มเหลวกับ ลิเวอร์พูล คริสตัล พาเลซ ยอมเสี่ยงจ่าย 27 ล้านปอนด์ฉุด เบนเตเก้ มาพิสูจน์ตัวเองในถิ่น เซลเฮิร์สท์ พาร์ค และทำได้ดีในซีซั่นแรกที่ยิงกระจาย 15 ประตูในลีก แต่ปัญหาบาดเจ็บบ่อยครั้งก็พรากฟอร์มที่ดีที่สุดของกองหน้าเบลเยียม เพราะมีเพียง 3 ประตูซีซั่นก่อน ขณะที่ซีซั่นนี้ยังคลำเป้าไม่เจอเลย นับตั้งแต่ฟิตสมบูรณ์กลับมา

เด็กหนุ่มจากบราซิลแจ้งเกิดในเวทีพรีเมียร์ลีกในปีแรกได้แบบไม่มีเคอะเขินกับ วัตฟอร์ด จนทำให้ เอฟเวอร์ตัน ต้องยอมทุ่มค่าตัวเป็นสถิติใหม่สโมสรดึงตัวมาร่วมทัพ เริ่มต้นที่ 35 ล้านปอนด์และจะไปจบที่ 50 ล้านปอนด์หากเข้าตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ และถึงตอนนี้ ดาวยิงวัย 21 ปีที่เล่นได้ทั้งกองหน้าและปีก สอยไป 13 ประตูจาก 33 นัดให้ ทอฟฟี่

ฟูแล่ม ลงทุนมหาศาลก่อนเริ่มต้นซีซั่นนี้ หลังจากเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก โดย เซรี่ คือหนึ่งในนักเตะใหม่ที่เข้ามาด้วยค่าตัวเป็นสถิติใหม่ของสโมสร 27 ล้านปอนด์จาก นีซ แต่ถือเป็นการลงทุนที่ล้มเหลวเช่นเดียวกับอีกหลายคน เพราะด้วยปัจจัยต่างๆ ทำให้ทีมต้องตกชั้นภายในฤดูกาลเดียว และคงต้องจำใจขายมิดฟิลด์ไอวอรี่โคสต์ในราคาที่ถูกกว่าตอนย้ายมา

กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ล้มเหลวในการย้ายไป โมนาโก เมื่อปี 2017 แต่ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ลองเสี่ยงยืมใช้งานในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง และผลงานน่าพอใจจนต้องซื้อขาดเมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติใหม่ของสโมสร 17.5 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม ด้วยผลงานที่้ย่ำแย่กันทั้งทีมจนต้องตกชั้น ทำให้ เดอะ เทอร์เรียร์ส อาจต้องยอมขายทิ้งซัมเมอร์นี้