หลายสโมสรมีงบประมาณจำกัดจำเขี่ยจึงต้องคิดอย่างรอบคอบในการลงทุนซื้อนักเตะเสริมทัพแต่ละครั้ง 

บางสโมสรมีงบเสริมทัพจำนวนมหาศาลจึงอาจไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อนมากนักในการดึงนักเตะมาร่วมทีม

ทั้งสองแนวทางมีความเป็นไปได้ทั้งประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับสายตาการมองนักเตะของผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ 

แต่ในทีนี้จะกล่าวถึงการลงทุนของสโมสรยักษ์ใหญ่เมืองน้ำหอม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมเศรษฐีหน้าใหม่ที่สร้างความฮือฮาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 

นับจากกลุ่มทุนจากกาตาร์เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรตั้งแต่ฤดูกาล 2011-2012 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อกวาดต้อนผู้เล่นดาวดังเข้าร่วมทีมในแต่ละปีอย่างต่อเนื่อง 

ที่สร้างความตื่นตะลึงให้วงการลูกหนังมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการจ่ายเงิน 222 ล้านยูโรเป็นค่าฉีกสัญญาของ เนย์มาร์ ดา ซิลวา จูเนียร์ เพื่อดึงซุปตาร์บราซิเลียนจาก บาร์เซโลน่า ไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2017

ในช่วงซัมเมอร์เดียวกัน เปแอสเช ยังดึง คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้าดาวโรจน์ของวงการลูกหนังฝรั่งเศสไปจาก โมนาโก ด้วยสัญญายืมตัวพร้อมทำอ็อปชั่นซื้อตัวร่วมทีมถาวรมูลค่า 145 ล้านยูโรบวกแอดออนอีก 35 ล้านยูโร แต่หลายคนคงทราบกันดีว่านั่นคือการทำสัญญาเพื่อหลบเลี่ยงการทำผิดกฎ'ไฟแนลเชียล แฟร์ เพลย์'ของทีมดังเมืองน้ำหอม

เกือบหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา เปแอสเช ยังจ่ายเงินเพื่อเซ็นสัญญากับบรรดาแข้งดังอย่าง ติอาโก้ ซิลวา, มาร์กินโญส, เอดินสัน กาวานี, อังเคล ดิ มาเรีย, มาร์โก แวร์รัตติ, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์, เลย์แว็ง กูร์กซาว่า ฯลฯ นับเฉพาะการลงทุนซื้อนักเตะเสริมทัพของทีมดังเมืองน้ำหอมมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านยูโร 

นั่นเป็นแนวทางการเรียนทางลัดของ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสร เปแอสเช ที่ต้องการความสำเร็จเข้ามาเติมเต็มความยิ่งใหญ่โดยเฉพาะการนำทีมสัมผัสแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรก แต่ยังคงไปไม่ถึงฝั่งฝันเท่านั้น 

อัล-เคไลฟี่ มอบหน้าที่รับผิดชอบในการดึงบรรดาแข้งดาวดังเข้ามาเสริมทัพให้ พาทริค ไคลเวิร์ต ต่อด้วย อันเตโร่ เอ็นรีเก้ แต่ผู้อำนวยการชาวโปรตุกีสทำงานไม่ค่อยตรงตามเป้าหมายโดยเฉพาะการพลาดหวังในการเซ็นสัญญากับ เฟรงกี้ เดอ ย็อง มิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์ของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม จนท่านประธานนาสเซอร์ต้องหาผู้อำนวยการคนใหม่ที่ทำงานดีกว่าเข้ามารับช่วงต่อ 

นักเตะหลายคนที่ เปแอสเช เซ็นสัญญาร่วมทีมทำผลงานคุ้มค่าการลงทุนของสโมสร แต่มีจำนวนไม่น้อยที่ล้มเหลวแบบไม่เป็นท่า จากข้อมูลของ'เลอ ปารีเซียง'ระบุว่ามี 5 นักเตะที่แย่สุดในการเซ็นสัญญาของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 

1.เอริก มักซิม ชูโป โมติง

เปแอสเช เซ็นสัญญากับกองหน้าชาวแคเมอรูนวัย 30 ปีจากตลาดฟรีเอเจนต์ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังแยกทางกับ สโต๊ค ซิตี้ หลังจบซีซั่น 2017-18 

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเปแอสเชหรือไม่ ต่างก็ตั้งคำถามเดียวกันว่าทีมที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผู้เล่นระดับโลกอย่าง เปแอสเช เซ็นสัญญากับ ชูโป โมติง เพื่ออะไร? ซึ่งคงต้องไปถาม อันเตโร่ เอ็นรีเก้ ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นการดึงเข้ามาเพื่อเป็นอะไหล่ในแผงกองหน้าก็ตาม 

ชูโป โมติง กลายเป็นข่าวพาดหน้าหนึ่งของสื่อกีฬาเมืองน้ำหอมทุกสำนักเมื่อวันจันทร์ที่่ผ่านมา หลังมีส่วนทำให้ เปแอสเช พลาดการฉลองแชมป์ลีกเอิงเมื่อทำได้แค่เสมอ สตราส์บูร์ก 2-2 เมื่อวันอาทิตย์

จากจังหวะชิพบอลผ่านนายทวารสตราส์บูร์กของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู บอลกำลังจะข้ามเส้นประตู แต่ ชูโป โมติง ทะลึ่งหยุดบอลไว้ก่อนจะเด้งชนเสาจนกระทั่งนักเตะทีมเยือนสกัดบอลทิ้งสำเร็จ นั่นเป็นจังหวะที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พลาดโอกาสได้ประตูอย่างเหลือเชื่อจนมีการตั้งคำถามถึงกองหน้าชาวแคเมอรูนว่า'เมิงคิดอะไรของเมิงที่ทะลึ่งเล่นบอลจังหวะนั้นทั้งที่ควรจะปล่อยให้ลูกยิงของเอ็นคุนคูข้ามเส้นประตูเข้าไป?'

บีบีซี สื่อดังเมืองผู้ดียกให้เป็นหนึ่งในชอตผิดพลาดแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังเลยทีเดียว

ชูโป โมติง ลงเล่นทุกรายการกับ เปแอสเช 27 เกม ยิง 3 ประตู แต่คงเป็นซีซั่นเดียวที่แฟนปารีสจะได้เห็นกองหน้าชาวแคเมอรูนพร้อมคำถามที่ยังคงฝังใจว่า'เซ็นหมอนี่มาทำไม?'และกองหน้าชาวแคเมอรูนก็ขึ้นแท่นเป็นการเซ็นสัญญาที่ห่วยแตกสุดในยุคของท่านประธาน นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ไปโดยปราศจากข้อโต้แย้ง 

2.เฆเซ่ โรดรีเกซ 

อดีตเด็กปั้นของ เรอัล มาดริด ถูกดึงมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโรช่วงซัมเมอร์ปี 2016 พร้อมเซ็นสัญญายาว 5 ปีในยุคของ อูไน เอเมรี ซึ่งทีมดังเมืองน้ำหอมยังจ่ายค่าจ้างสุดงามให้นักเตะสูงถึงสัปดาห์ละ 420,000 ยูโร หลัง ไคลเวิร์ต มองว่านักเตะรายนี้จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพการเล่นเกมรุกของ เปแอสเช 

แต่ เฆเซ่ มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตในเมืองหลวงของฝรั่งเศส เขามีโอกาสลงเล่นเพียง 15 เกม รวมเวลา 358 นาที โดยยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว ก่อนถูกปล่อยไปเล่นกับ ลาส ปัลมาส ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงเดือนมกราคมปี 2017 ก่อนระเห็จไปอยู่กับ สโต๊ค ซิตี้ ในซีซั่นถัดมาและย้ายมาเล่นกับ เรอัล เบติส ในซีซั่นนี้ด้วยสัญญายืมตัวเช่นเดียวกัน

แม้จะทำผลงานน่าผิดหวัง แต่อย่างน้อย เฆเซ่ ยังไม่ทำให้ตัวเองถูกแฟนปารีสด่าไล่หลังเหมือน เอริก ชูโป โมติง แน่ 

3.เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค 

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ดึง เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค เด็กเก่าของ อูไน เอเมรี่ จาก เซบีย่า มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 โดยไม่เปิดเผยค่าตัว แต่สื่อหลายสำนักระบุว่ามีมูลค่า 30 ล้านยูโร หลังมิดฟิลด์ทีมชาติโปแลนด์ทำผลงานโดดเด่นกับทีมเซบียาโน่ 

แต่มันเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าเลย ครีโชเวียค ไม่สามารถสอดแทรกลงเล่นตัวจริงได้อย่างที่คาดหวังและได้โอกาสออกสตาร์ทเพียง 19 เกม ก่อนถูกปล่อยไปเล่นกับ เวสต์บรอมวิช ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงซีซั่น 2017-2018 และย้ายมาเล่นกับ โลโคโมทีฟ มอสโก ด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่นนี้ 

4.ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า

ดิยาร์ร่า เซ็นสัญญาหนึ่งปีครึ่งกับ เปแอสเช ในช่วงกลางเดือนมกราคมปี 2018 ซึ่งเป็นผู้เล่นดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสคนที่ 436 ที่เล่นกับทีมเมืองหลวงหลังนักเตะยกเลิกสัญญากับ อัล จาซีร่า ในช่วงปลายเดือนธันวาคมทั้งที่ลงเล่นรายการ ยูเออี โปร-ลีก เพียง 5 นัด 

มิดฟิลด์วัย 34 ปีแฮปปี้แน่นอนในการเซ็นสัญญากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งจ่ายค่าจ้างให้เขาถึงปีละ 4 ล้านยูโร แต ดิยาร์ร่า เป็นเพียงส่วนประกอบส่วนหนึ่งในทีมของ เอเมรี เท่านั้น 

เขาลงเล่นกับ เปแอสเช เพียง 19 เกม ก่อนจะยกเลิกสัญญาด้วยความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่ายเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ทและดิยาร์ร่าประกาศอำลาวงการลูกหนังหลังจากนั้น 

5.ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา 

เบน อาร์กฟา เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ ลียง ในปี 2004 ก่อนย้ายมาอยู่กับ มาร์กเซย อีก 4 ปีต่อมา จากนั้นจึงย้ายมาเล่นในอังกฤษกับ นิวคาสเซิ่ล ในช่วงปี 2011-2015 จนกระทั่งหวนคืนสู่เวทีลีกเอิงหลังการเซ็นสัญญากับ นีซ

เขาโชว์ฟอร์มเด่นในช่วงฤดูกาล 2015-16 ด้วยการยิง 18 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 37 เกมกับ นีซ ผลงานดังกล่าวเตะตา ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จนดึงร่วมทีมด้วยสัญญา 2 ปีในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 

เบน อาร์กฟา ลงเล่นทุกรายการ 32 เกมและยิง 4 ประตูในซีซั่น 2016-17 ก่อนมีปัญหาไม่ลงรอยกับ เอเมรี จนถูกจับแขวนตลอดช่วงฤดูกาลต่อมา ก่อนจะถูกปล่อยมาค้าแข้งกับ แรนส์ ในซีซั่นนี้หลังการเซ็นสัญญา 2 ปี แม้จะเป็นนักเตะฝีเท้าดีแต่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นการเซ็นสัญญาแย่สุดของ เปแอสเช เช่นกัน 

นั่นคือ 5 การเซ็นสัญญาแย่สุดของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง นับตั้งแต่มีประธานสโมสรชื่อ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทีมดังเมืองหลวงฝรั่งเศสยังไปไม่ถึงจุดหมายโดยเฉพาะการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ที่พลาดท่าร่วงตกรอบ 16 ทีมมาตลอด 3 ซีซั่นที่ผ่านมา