แม้จะเหลือหนทางที่ต้องพิสูจน์ และพัฒนาตัวเองอีกมาก ทว่าการก้าวมาจากทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่ ด้วยวัยเพียง 22 ปี ถือว่าน่าชื่นชมไม่น้อย

ก่อนหน้านี้ ผู้มอบโอกาสให้เขาอย่างโชเซ่ มูรินโญ่ และผู้จัดการทีมคนปัจจุบันอย่างโอเล่ กุนนาร์ โซชา ต่างมองเหมือนกันว่า ดาวรุ่งทีมชาติสกอตแลนด์ รายนี้ จะเป็นอนาคตที่สดใส ภายใต้ชายคาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างแน่นอน 

ด้วยสไตล์การเล่นที่บู๊ไม่ถอย และใจสู้ ส่งผลให้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนบอลได้อย่างไม่ยาก ช่วงนี้ เรามาย้อนถึงบทสัมภาษณ์ที่เขาเคยให้เอาไว้ ผ่านความรู้สึกกับการเล่นทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับเป้าหมาย รวมถึงแรงบันดาลใจ กับการเล่นให้สโมสรแห่งนี้ 

การต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไป คุณภาคภูมิใจมากน้อยแค่ไหน ทั้งต่อตัวคุณเอง และครอบครัว ?

"ครอบครัวของผมภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก เพราะนี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ต่อตัวผม ผมมีความสุขที่ได้รับอนาคตในระยะยาวจากสโมสร อย่างไรก็ตาม การเซ็นสัญญาฉบับใหม่ผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้ผมต้องการที่จะมีสมาธิ ผ่านการทำงานหนักในทุกวัน พร้อมกับมีส่วนร่วมในเกมมากขึ้น ผมต้องการพัฒนาตัวเอง พร้อมกับหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผมจะได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระยะยาวของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"

ช่วยบอกถึงความคาดหวังหน่อยซิ ?

"ผมเป็นคนที่ตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองเสมอ นอกจากนี้ ผมยังมีความทะเยอทะยานตลอดเวลาเช่นกัน คุณไม่สามารถรู้หรอกว่า อะไรจะเกิดขึ้นในตอนต้นของฤดูกาล แต่คุณต้องเดินไปด้วยสองขาของตัวเอง ทุกอย่างยังคงดำเนินไป ผมได้มาเล่นทีมชุดใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยมมาก ผมต้องการอยู่กับทีมชุดใหญ่ต่อไป โอกาสในการลงสนาม จึงเป็นเรื่องสำคัญต่อผม มันจะช่วยพัฒนาคุณในแง่ของการเป็นนักฟุตบอล และทำให้คุณก้าวไปอีกระดับได้"

รู้สึกอย่างไร เกี่ยวกับการเติบโต ทั้งใน และนอกสนาม ?

"ผมรู้สึกเหมือนกับอยู่บ้าน คนอื่นจะคอยแนะนำคุณในห้องแต่งตัว เหมือนกับครอบครัวขนาดใหญ่ แน่นอนว่า ในสนามคุณจะได้เรียนรู้ และพัฒนาการเล่นของตัวเอง จากการลงเล่น และเฝ้ามองนักเตะระดับสูง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะกลายเป็นนักเตะในแบบเดียวกัน พร้อมกับแสดงให้เห็นว่า นักเตะดาวรุ่งสามารถก้าวมาถึงระดับนี้ ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูงที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการหาอยู่"

อะไรคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่คุณได้เรียนรู้มา จากการก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่ ?

"ผมอยากบอกว่าทุกอย่างเลย มันไม่ใช่แค่บางสิ่ง หรือบางเหตุการณ์เท่านั้น เพราะคุณจะได้รับหลายสิ่งหลายอย่าง พร้อมกับได้เรียนรู้จากสิ่งต่างๆ บางครั้ง มันอาจจะมาในรูปแบบของคำพูดจากปากผู้จัดการทีม คุณต้องเปิดการรับรู้ เนื่องจากเรื่องแท็คติกของเกม ถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งผมเริ่มเรียนรู้สิ่งนั้นแล้ว"

ย้อนเวลากลับไป คุณประเดิมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรก กับการเล่นกับเบนฟิก้า คุณสังเกตเห็นความแตกต่าง ในแง่ของความท้าทาย และสไตล์ของฟุตบอลหรือไม่ ?

"เห็นได้อย่างชัดเจนว่า คุณต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นต่างชาติ ผมมีประสบการณ์จากตรงนั้น จากการเล่นในรายการยูฟ่า ยูธ ลีก คุณจำเป็นต้องโฟกัสไปที่เรื่องของแท็คติก แน่นอนว่า การเล่นในยูฟ่า ยูธ ลีก ช่วยเหลือผมได้เลย เพราะคุณต้องลงเผชิญหน้ากับนักเตะระดับหัวแถวของยุโรป ประสบการณ์จึงเป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องเจอเองในสนาม"

เนมานย่า มาติช บอกว่าคุณคืออนาคตของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาคอยให้ความช่วยเหลือคุณยังไงบ้าง ?

"สำหรับผมแล้ว เขาถือเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก รวมถึงนอกสนามด้วยล่ะ ส่วนในสนาม เขาจะคุยกับคุณเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน ในฐานะที่ผมเป็นนักเตะอายุน้อย การได้นักเตะมากประสบการณ์มาคอยดูแล สามารถช่วยผมได้ โดยระหว่างเกมการแข่งขัน ผมพยายามเลียนแบบในสิ่งที่เขาทำ รวมถึงในแง่ของการป้องกัน ผมคิดว่า เราต่างทำได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการควบคุมจังหวะเกม ประสบการณ์เหล่านั้น ถือว่ายอดเยี่ยมมาก"

เส้นทางของปอล ป็อกบา สร้างแรงบันดาลใจให้คุณ และบรรดานักเตะดาวรุ่งอย่างไรบ้าง ?

"ปอล ป็อกบา เป็นแบบนั้นเลย เขาคือแรงบันดาลใจ นั่นถือเป็นระดับที่คุณปรารถนาจะไปถึง คุณสามารถไปถึงมันได้ ด้วยการเฝ้ามองนักเตะอย่างเขา พร้อมกับนำสิ่งเหล่านั้นไปปฏิบัติตาม เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมากสุดคนหนึ่ง เท่าที่ผมเคยเจอมาเลย เขาแสดงให้เห็นในสนามแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราต่างมองโลกในแง่ดี และเดินหน้าต่อไป เขาถือเป็นส่วนสำคัญของสโมสร ซึ่งผ่านการพิสูจน์ทางตัวตนของเขา"