:::     :::

นาบี เกอิต้า กุญแจสำคัญที่มาทันเวลา !

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2562 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
9,585
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เมื่อคุณสวมใส่เสื้อเบอร์เดียวกับสตีเว่น เจอร์ราด เป็นไปไม่ได้เลยครับที่จะหลีกหนีพ้นกับความคาดหวังและความกดดันไปได้ !

          เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา นาบี  เกอิต้า ได้ย้ายเข้ามาสู่ทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวราวๆ 50 ล้านปอนด์จาก RB Leipzig ซึ่งค่าตัวจำนวนมหาศาลดังกล่าว แถมยังเปรี้ยวใส่เบอร์เดียวกับอดีตยอดกัปตันทีมอย่างสตีเว่น เจอร์ราดอีกซะด้วย ก็ทำให้แฟนๆ ต่างคาดหวังกับตัวของมิดฟิลด์ชาวกาน่าผู้นี้อยู่มากพอสมควร ซึ่งตอนเริ่มต้นในทีมของเขาก็ทำให้แฟนๆ ลิงโลดอยู่พอสมควรกับการเปิดตัวที่สวยสดงดงามของเขา แต่แล้วหลังจากที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ก็ทำให้เขาค่อยๆ หายไปจากทีมชุดใหญ่ของคลอปป์ทีละน้อยๆ แต่ถ้าคลอปป์ทำให้เขากลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างเหมือนตอนที่เขาอยู่ทีมเก่าได้ นี่อาจจะเป็นกุญแจสำคัญของทีมในโปรแกรมที่เหลือของทีมที่จะทำให้ลิเวอร์พูลถึงฝั่งฝันก็ได้นะครับ 

  

                                                    ย้ายมาพร้อมความคาดหวังที่สูงลิบลิ่ว

ปัญหาที่ผ่านมา

          นาบี้ เกอิต้านั้นแรกเริ่มเดิมที เขาน่าจะถูกนำเข้ามา เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในแดนกลางให้กับทีมในตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวกลางหรือ Box2Box ที่วิ่งห้อไม่หยุดช่วยทั้งเกมรุกเกมรับได้ จากพลังอันเหลือเฟือของเขา โดยการมาของเขานั้น ทำให้แฟนลิเวอร์พูลเอง มโนกันไปต่างๆ นาๆ ว่าจะจัดทีมยังไง หรือลงเล่นคู่กับใคร ซึ่งช่วงแรกที่เขาได้รับมอบหมายในตำแหน่งดังกล่าวเขาก็ทำออกมาได้ดีพอสมควรเช่นกัน แต่เมื่อเขามีอาการบาดเจ็บรุมเร้าเรื่อยๆ ก็ทำให้เขาหลุดออกจากทีมแบบที่กล่าวไปแล้วในข้างต้นนั่นล่ะครับ  และพอเขากลับมาอะไรๆ ก็ไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว เมื่อตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางที่เขาถนัดนั้นไม่มีที่ว่างให้เขาจับจองง่ายๆ อีกต่อไป จากการก้าวกระโดดในฟอร์มการเล่นของ จีนี่ ไวนัลดุ้ม ที่ตอนนี้ได้รับการสถาปณาจากแฟนบอลให้เป็นมิดฟิล์ดอันดับ 1 ของทีมไปแล้ว และการปรับตัวที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ของฟาบินโญ่อีก แล้วยังมีเจ้าของสัปทานเดิมอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ และกัปตันเฮนโด้อีก  ทำให้เขานั้นหาโอกาสกลับมาเล่นในตำแหน่งที่ตัวเองชื่นชอบ และถนัดยากมากจริงๆ และมีช่วงหนึ่ง คลอปป์ได้ค้นพบแผนการเล่นใหม่อย่าง 4-2-3-1 แบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ผู้เล่นที่ศักยภาพทางด้านร่างกายด้อยกว่าเพื่อนร่วมทีมอย่างเขากลับเข้าสู่ทีมได้ยากมากขึ้นไปอีก




                                                       ปัญหาใหญ่คืออาการบาดเจ็บที่รบกวนตลอดทั้งปี


ผิดที่ผิดตำแหน่ง 

          จากปัญหาข้างต้น ทำให้บางครั้งที่มีการโรเตชั่น คลอปป์ต้องส่งเกอิต้า ลงมาเล่นในตำแหน่ง “มิดฟิลด์ด้านซ้าย แบบที่บอก ซึ่งก็ทำให้เขานั้นโชว์ฟอร์มไม่ออกเอาเสียเลย การร้างสนามไปช่วงนึงของเขาส่งผลต่อการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมอย่างเห็นได้ชัดเจน แถมที่นี่ยังเป็นเวทีพรีเมียร์ลีก ที่ยังไงก็ต้องยอมรับว่า ระดับน่าจะสูงกว่าบุนเดสลีกาอยู่ระดับหนึ่งเลย ทำให้เขาเล่นไม่ออกในตำแหน่งนี้เลย แต่จริงๆ แล้วตำแหน่งนี้ ไม่ใช่ตำแหน่งใหม่ของ นาบี เกอิต้า นะครับ ตอนอยู่ ไลป์ซิกส์ เขาเองก็ได้รับมอบหมายให้เล่นในตำแหน่งนี้อยู่บ่อยๆ ในบุนเดสลีกากับตำแหน่งนี้ เขามีสถิติอยู่ที่ ผ่านบอล 35.95 ครั้ง/ เกม ด้วยอัตราการผ่านบอลสำเร็จที่ 80.40% เลยทีเดียว ซึ่งก็ถือว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเขาเลย แต่ที่มีปัญหาจริงๆ น่าจะเกิดจากความมั่นใจ ของเจ้าตัวเองมากกว่า ด้วยความกดดันต่างๆ และอาการบาดเจ็บที่รบกวนตลอดช่วงที่ผ่านมากของเขา ก็ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด ที่เขาจะโชว์ฟอร์มไม่ออกในช่วงที่ผ่านมานี้



                         โดดเด่นสุดๆ กับ RB Leipzig ในฐานะจอมทัพ  จนคล็อปป์ลงทุนรอเขามาตลอด 1 ปี


กุญแจสำคัญยังไง?


          ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลนั้นมีการเรียกร้องหาผู้เล่นตำแหน่ง ”เบอร์ 10” อยู่เรื่อยๆ และยิ่งเมื่อทีมมีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่น เสียงเหล่านี้ก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ แต่จริงๆ แล้ว ผู้เล่นตำแหน่งเบอร์ 10 ของลิเวอร์พูลนั้นถ้าคลอปป์ต้องการใช้ที่ว่าจริงๆ ก็มีเซอร์ดาน ชากิรี่  ที่สามารถเล่นได้อยู่แล้ว เพราะในทีมชาติสวิสเซอร์แลนด์ของเจ้าตัวแชค ก็เล่นตำแหน่งนี้มาตลอดในช่วงหลังๆ แต่ดูเหมือนว่า ถ้าเป็นแผน 4-3-3 คลอปป์เองดูจะไม่ค่อยไว้วางใจที่จะเอามิดฟิลด์ที่เน้นเกมรุกเพียวๆ ลงมาในตำแหน่งมิดฟิล์ดตัวกลางในแผนซักเท่าใดนัก  แต่ถ้าเป็นมิดฟิลด์ที่พลังสูง วิ่งไม่หมด เพรสซิ่งไม่หยุดอย่างเกอิต้า จะทำให้แผน 4-3-3 ของคลอปป์สมบูรณ์แบบและไม่มีจุดอ่อนอะไรเหมือนใช้เพลเมกเกอร์ลงมาในตำแหน่งนี้แบบที่กล่าวไว้ข้างต้น ถ้าคิดไม่ออก ก็ลองคิดภาพของลิเวอร์พูลช่วงปลายฤดูกาลก่อน ที่มีอ๊อกเลด เชมเบอร์เลนอยู่ในทีมดูครับ ตอนนั้นลิเวอร์พูลเหมือนติดปีก เพรซซิ่งสู้ใส่ทุกทีม และมีอาวุธในการสวนกลับที่น่ากลัวสุดๆ ซึ่งถ้าได้ลองติดตามฟอร์มของนาบี เกอิต้าที่เล่นให้กับไลป์ซิกส์มาบ้างแล้วล่ะก็  ก็จะเห็นได้เลยครับ ว่าอะไรที่เชมเบอร์เลนทำได้ เกอิต้า ก็สามารถทำได้อย่างดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย     สถิติตอนอยู่กับไลป์ซิกในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางเขาผ่านบอล 52.79 ต่อเกม และสำเร็จถึง 83.10%. และที่สำคัญคือ เขามีอันตราการเลี้ยงอยู่ที่ 7.7 ครั้งต่อเกม และสามารถเลี้ยงผ่านคู่ต่อสู่สำเร็จถึง 63.40% เลยทีเดียว จากตัวเลขดังกล่าวก็น่าจะคิดเอาได้ว่า คลอปป์นั้นคาดหวังการเล่นแบบทะลุทะลวงจากการเลี้ยงและการผ่านบอลของเกอิต้าแบบที่เห็นกันล่าสุดในตอนนี้ มากกว่าการเล่นริมเส้นด้านซ้าย แบบที่คลอปป์เคยใช้เขาอยู่อย่างแน่นอน



                                    เริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้ แถมมาในจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะด้วย

          ตอนนี้คลอปป์เริ่มสามารถทำให้เกอิต้า กลับมาสู่ฟอร์มเดิมๆ ของเขาได้อีกครั้งแล้ว ทำให้ลิเวอร์พูลเหมือนได้ “อาวุธใหม่” แบบที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อมาเลยซักแดงเดียว และจะทำให้คู่ต่อสู้รับมือพวกเขายากมากขึ้นไปอีกขั้นนึง เพราะนี่คือของใหม่ที่ยังไม่มีตำราอะไรมาเขียนถึงวิธีรับมือเขาได้ และยิ่งบวกกับการกลับมาเล่นในตำแหน่ง Box to Box ของเฮนโด้ด้วยแล้ว คู่ต่อสู้น่าจะมึนงงกันยกใหญ่เลยทีเดียว ลิเวอร์พูลของคลอปป์ในตอนนี้นั้นดูเหมือนกับช่วงปลายของฤดูกาลที่แล้วอีกครั้งหนึ่ง และอาจจะดีกว่าชุดของปีที่แล้วด้วยซ้ำ เพราะแนวรับของทีมได้รับการปรับปรุงให้สุดยอดแล้ว ถ้าเกอิต้ากลับมาโชว์ฟอร์มและเรียกความมั่นใจได้เหมือนตอนที่อยู่กับไลป์ซิกส์ได้ ใกล้เคียง 100% อีกครั้ง บันไดสู่แชมป์ของลิเวอร์พูลจะสั้นขึ้นอย่างแน่นอนครับ
 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด