ในจำนวนนี้ทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่งนักเตะเข้าประกวดถึง 3 คนได้แก่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ส่วนอีก 3 คนแบ่งเป็นจาก ลิเวอร์พูล สองคนคือ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กับ ซาดิโอ มาเน่ และ เอแด็น อาซาร์ จาก เชลซี
ในบรรดาคนที่โชว์ฟอร์มทะลุเข้ามาสู่รอบ 6 คนสุดท้ายนี้ มีแค่ เอแด็น อาซาร์ คนเดียวเท่านั้นที่เคยได้รางวัลนี้ไปครองย้อนกลับไปเมื่อปี 2014/15 และถือเป็นนักเตะจากเบลเยี่ยมคนแรกที่ได้รางวัลด้วย ส่วนที่เหลือยังไม่เคยมีใครได้รางวัลนี้มาก่อน
ที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครที่ได้รางวัลนี้เกินสองครั้งมาก่อน โดยบรรดาคนที่เคยได้รางวัลนี้ถึงสองหนหากเอ่ยชื่อมาไม่มีใครไม่รู้จักทั้ง มาร์ค ฮิวจ์ส, อลัน เชียร์เรอร์, เธียร์รี่ อองรี, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ แกเร็ธ เบล
เรียกได้ว่าคนที่จะก้าวไปถึงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันเพราะขนาดพวกยอดแข้งอย่าง ไรอัน กิ๊กส์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เอริก คันโตน่า, เวย์น รูนี่ย์ และ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ที่เจนจัดในเวทีฟุตบอลลีกผู้ดียังได้ไปเพียงแค่คนละสมัยเดียวเท่านั้น
ส่วนในปีล่าสุดหากจำกันได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือคนที่ได้รางวัลไปครองและเป็นคนแรกที่กวาดเรียบทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม, รางวัลนักยอดเยี่ยมจากการโหวตของนักข่าว และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจากการโหวตของแฟนบอล มีแค่รางวัลดาวรุ่งแห่งปีที่ไม่ได้เพราะอายุเกินไปเท่านั้น
แต่ในฤดูกาลนี้ฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไรเลยไม่ติดโผแต่ฝั่ง "หงส์แดง" ก็ยังส่งแข้งเข้าประกวดสองคน
ดูกันว่าแต่ละคนทำผลงานได้ดีแค่ไหนและมีโอกาสแค่ไหนกับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปี 2018/19
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
สโมสร : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
อัตราต่อรอง : 20/1
ถือเป็นนักเตะที่ทำผลงานได้คงเส้นคงวามากที่สุดคนหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และหากไม่นับ เอแดร์ซอน ที่ยืนตำแหน่งผู้รักษาประตู เขาคือนักเตะที่ลงสนามมากที่สุดให้กับทัพ "เรือใบ" ในฤดูกาลนี้
สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสเข้ามาทดแทนการขาดหายไปของ เควิน เดอ บรอยน์ ในยามที่บาดเจ็บและโชว์ฟอร์มไม่ออกในซีซั่นนี้ได้เป็นอย่างดี โดยซีซั่นนี้ยิงไป 6 ลูก แอสซิสต์อีก 8 ครั้ง
ด้วยฝีเท้าที่ยกระดับขึ้นมาอย่างยอดเยี่ยมจากซีซั่นที่แล้วมาถึงฤดูกาลนี้ นอกจากการเชื่อมเกมที่ยอดเยี่ยม ดาวเตะวัย 24 ยังมีวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมแบบ ดาบิด ซิลบา อย่างที่แสดงให้เห็นในเกมหลายต่อหลายครั้ง
นอกจากทีเด็ดในการปั้นเกมรุกแล้ว แบร์นาร์โด้ ยังมีความฟิตและความขยันช่วยทีมทั้งเกมรุกและเกมรับ โดยเฉพาะในยามที่ไม่มีบอลก็วิ่งไม่หยุด ซึ่งหลายต่อหลายเกม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ชื่นชมไม่ขาดปาก
แม้ว่าโอกาสในการลุ้นรางวัลในปีนี้จะมีน้อยกว่าใครเพื่อน แต่เขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามีพัฒนาการที่ดีเยี่ยมและพร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ดีกว่านี้ในอนาคต
ซาดิโอ มาเน่
สโมสร : ลิเวอร์พูล
อัตราต่อรอง : 28/1
ถ้าปีที่แล้วเป็นปีของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีนี้ก็ต้องยกให้เป็นปีของ ซาดิโอ มาเน่ กันบ้างกับการยืนเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้
จากผลงานยิง 10 ประตูเมื่อซีซั่นที่แล้ว ดาวยิงทีมชาติเซเนกัลตะบันแล้วถึง 18 ประตูในพรีเมียร์ลีกปีนี้ พร้อมกับแอสซิสต์อีก 2 หน แม้ด้วยตัวเลขแล้วยังเป็นรอง ซาลาห์ อยู่ แต่ดูจากผลงานโดยรวมแล้วต้องบอกว่า มาเน่ มีปีที่ยอดเยี่ยมกว่าปีที่แล้วมากทีเดียว
และหากไม่นับลูกจุดโทษแล้ว สตาร์วัย 27 ปีนี่แหละจะนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ถึงกระนั้นเขาก็ยังตามหลังบรรดาผู้นำอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ที่ยิงไปคนละ 19 ประตูอยู่แค่ลูกเดียวเท่านั้น
เรียกได้ว่ายังมีลุ้นตำแหน่งดาวยิงสูงสุดในปีนี้ยาวๆในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้
ในช่วงเวลาที่ทั้ง ซาลาห์ รวมถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ อยู่ในช่วงที่เล่นไม่ออก ซาดิโอ มาเน่ นี่เองที่โผล่ขึ้นมาและยิงประตูช่วยให้ทีมยืนหยัดอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ของปีนี้
เรียกได้ว่าฤดูกาลนี้ถือเป็นปีที่ดีที่สุดในเส้นทางอาชีพของ มาเน่ เลยก็ว่าได้
เซร์คิโอ อเกวโร่
สโมสร : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
อัตราต่อรอง : 12/1
ดาวยิงหมายเลขหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และผู้นำดาวซัลโวอยู่ในขณะนี้ เขาคือหัวหอกที่ยืนระยะในพรีเมียร์ลีกมายาวนานถึง 8 ปีแล้ว
ด้วยจำนวนประตูที่กล่าวมานั้นทำให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ เป็นนักเตะยิงหนึ่งประตูในทุก 109 นาทีในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นเรตที่ดีเหนือกว่านักเตะทุกคน (ลงเล่นอย่างน้อย 5 เกม) แถมมีช่วงเวลาที่น่าจดจำในซีซั่นนี้ที่กดแฮตทริคใส่ อาร์เซน่อล และ เชลซี สองเกมติดต่อกัน
ปีนี้ถือเป็นปีที่สองที่ "กุน" มีโอกาสที่จะได้ลุ้นดาวซัลโวเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่เคยได้รางวัลมาแล้วเมื่อปี 2014/15 ซึ่งเจ้าตัวขออีกแค่ประตูเดียวจะแตะหลัก 20 ประตู ซึ่งจะเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันที่ยิงถึงหลักนี้ในพรีเมียร์ลีก
ในวัย 30 ปี แม้ว่าความปราดเปรียวจะไม่ได้เหมือนแต่เก่าก่อน แต่ที่ทดแทนก็คือประสบการณ์และการเล่นที่ฉลาดขึ้น ในแต่ละเกม "กุน" ไม่ต้องใช้แรงเยอะ แต่ใช้สมองมากกว่า การอ่านเกมและรู้ว่าควรจะอยู่ในจุดไหนสำหรับการยิงประตู
หากทะลวงตาข่ายคว้าดาวซัลโวพร้อมกับพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าป้ายคว้าแชมป์ไปครอง ก็มีโอกาสที่จะพุ่งพรวดปาดหน้าคู่แข่งไปคว้ารางวัลกับเค้าได้เหมือนกัน
เอแด็น อาซาร์
สโมสร : เชลซี
อัตราต่อรอง : 33/1
แม้ว่าฤดูกาลนี้จะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับ เชลซี แต่ก็ยังมี เอแด็น อาซาร์ ที่เจิดจรัสและทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมประคองทีมให้อยู่กับร่องกับรอยมาจนถึงตอนนี้
16 ประตูกับ 12 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ ทำให้ อาซาร์ เป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับการทำประตูมากที่สุดในลีกเวลานี้ และถ้าจะบอกว่าเขาคือตัวรุกที่ดีที่สุดในลีกซีซั่นนี้ก็คงไม่เกินไปนัก
ตลอดซีซั่นนี้หากใครติดตามฟุตบอลลีกสุงสุดของเมืองผู้ดี โดยเฉพาะกับ "สิงห์บลูส์" ด้วยแล้ว ต้องยอมรับว่าสตาร์ทีมชาตเบลเยี่ยมแบกทีมไว้บนสองบ่าจนไหลทรุดไปหมดแล้ว หากเป็นคนอื่นก็คงจะท้อแท้แน่
แต่ อาซาร์ ยังคงก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป และยังคงโชว์ฟอร์มได้ดีด้วย แม้ว่าคู่แข่งแต่ละทีมจะรู้อยู่แล้วว่าเขาคือคนเดินเกมของ เชลซี แต่ก็เอาตัวรอดมาได้ตลอด
แน่นอนว่าเขาเองก็มีโอกาสที่จะก้าวไปคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในปีนี้ไปครองไม่น้อยกว่าใครเหมือนกัน
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
สโมสร : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
อัตราต่อรอง : 5/2
ถ้าหาก เซร์คิโอ อเกวโร่ คือคนที่ยิงประตูเยอะที่สุดในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก็คือคนที่ทำผลงานได้โดดเด่นไม่แพ้กันหากมองโดยรวม
17 ประตูกับ 11 แอสซิสต์ในซีซั่นนี้ ถือเป็นปีที่สตาร์ทีมชาติอังกฤษทำผลงานได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาสู่เวทีพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2011 แม้จะยังยิงไม่เท่ากับเมื่อปีที่แล้ว (18 ประตู) ก็ตาม
สเตอร์ลิ่ง มีสถิติยิงหรือแอสซิสต์ในทุก 90 นาทีในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มีแค่ "กุน" เพื่อนร่วมทีม (79 นาที) ที่มีค่าเฉลี่ยดีกว่าเขาในลีก แต่อย่างที่บอกไปว่าในภาพรวมแล้ว ดาวเตะวัย 24 ปีมีส่วนร่วมกับเกมของทีมมากกว่าอย่างชัดเจน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นในซีซั่นนี้ที่มีความหลากหลายสามารถเล่นได้ทั้งในตำแหน่งตัวรุกริมเส้นหรือขึ้นไปยืนเป็นกองหน้า เห็นได้จากการเล่นที่สอดเข้าสู่กรอบเขตโทษหลายต่อหลายครั้ง
นอกจากนี้ สเตอร์ลิ่ง ยังพัฒนาในเรื่องของการยิงประตูโดยเฉพาะการส่องจากนอกกรอบช่วยให้ทีมมีอาวุธในการเข้าทำหลากหลายมากขึ้น
หากปีนี้ชื่อของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จะถูกยกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีก็ถือว่าเหมาะสมไม่แพ้ใครเหมือนกัน
เฟอร์กิล ฟานไดค์
สโมสร : ลิเวอร์พูล
อัตราต่อรอง : 1/3
บ่อนถูกกฏหมายของทางฝั่งอังกฤษทุกสำนักต่างยกให้ เฟอร์กิล ฟานไดค์ คือคนที่จะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ไปครองเลย
จากที่ถูกค่อนขอดว่าค่าตัว 75 ล้านปอนด์นั้นแพงเกินเหตุ มาวันนี้เซนเตอร์ทีมชาติฮอลแลนด์แสดงให้เห็นแล้วว่าค่าตัวทุกบาททุกสตางค์ที่ "หงส์แดง" จ่ายไปนั้นคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
ฟาน ไดค์ นำความแข็งแกร่งมาสู่เกมรับของ ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบบเป็นทีมหรือการดวลแบบตัวต่อตัว ล้วนทำได้อย่างสุดยอด ทั้ง 35 เกมในฤดูกาลนี้ที่ลงคุมเกมช่วยให้ทีมเสียแค่ 20 ประตูเท่านั้น น้อยที่สุดในลีก
ดาวเตะวัย 27 ปีเล่นได้อย่างแข็งแกร่งไม่ว่าจะลูกบนภาคพื้นดินหรือว่าลูกกลางอากาศ กลายเป็นกองหลังที่ไม่มีใครอยากดวลด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเป็นทีเด็ดให้กับทีมในจังหวะเล่นลูกตั้งเตะได้อีกด้วย
ถึงตอนนี้สามารถพูดได้อย่างเต็มปากตำคำว่าเขาคือกองหลังที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก หรืออาจจะบอกว่าดีที่สุดในยุโรปก็คงจะไม่เกินไป และ ฟาน ไดค์ อาจจะเป็นกองหลังคนแรกที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมไปครองในรอบ 14 ปี นับตั้งแต่ จอห์น เทอร์รี่ ทำได้เมื่อปี 2004/05
