:::     :::

มาตรฐานที่ยกระดับ

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2562 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
5,824
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลิเวอร์พูล ณ เวลานี้ มาไกลจากวันแรกที่เจอร์เก้น คล็อปป์เข้ามาทำงานในวันแรกเยอะมากจริงๆ นะครับ

          แม้จะมีเกมใหญ่รออยู่ข้างหน้า และมีความกดดัน (แถมปนเปื้อนด้วยความผิดหวังนิดๆ ) กลับมาถาโถมใส่ลิเวอร์พูลแบบนี้ ลิเวอร์พูลในชั่วโมงนี้ก็ดูจะรับมือกับเรื่องเหล่านี้ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียวนะครับ  ยิ่งกับคู่ต่อสู้ที่ค่อนข้างห่างชั้นกันแบบนี้ ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่า ลิเวอร์พูล ณ วันนี้กับลิเวอร์พูลในสมัยก่อนๆ นั้น ช่างแตกต่างกันมากมายเหลือเกิน ผลงานกับการดวลแข้งกับในวันนี้ก็ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนมากเลยทีเดียว สถิติต่างๆ ที่เคยทำมาหลายๆ อย่างทั้งกัปทีมตัวเอง กับพรีเมียร์ลีก ทั้งหลายถูกทำลายย่อยยับในวันนี้มากมายเลยทีเดียวครับ



ห่างชั้น

           ลิเวอร์พูลในเกมนี้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นเล็กน้อยครับ อาจจะเพราะฟีร์มีโน่ มีอาการบาดเจ็บรบกวนเล็กๆ น้อยๆ หรืออยากรักษาความฟิตไว้หรือเปล่าก็มิอาจทราบได้ แต่นั่นทำให้แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงอย่างเซอร์ไพรซ์ และอีกคนที่ได้รับโอกาสก็คือ เดยัน ลอฟเรน ที่ลงมาแทนตำแหน่งของโชเอล มาติป ที่ได้พักในเกมนี้ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ นั้นก็ยังเป็นหน้าเดิมๆ แต่สิ่งที่เราเห็นชัดเจนขึ้นมา คือ แผงกลางของลิเวอร์พูล ณ ปัจจุบันนี้ ดูจะลงล๊อคและหาจุดลงตัวได้ดีมากๆ แล้ว ทุกคนที่อยู่ในตำแหน่งมิดฟิลด์ของทีมนี้สามารถสลับสับเปลี่ยนได้ และผลงานที่ออกมาก็ดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย ไม่ว่าจะจับใครลงมาก็ตาม

           และเกมก็กลายเป็นเกมที่ไม่ยากเย็นสำหรับลิเวอร์พูลไปเลย เมื่อพวกเขาได้ประตูปลดล๊อคตั้งแต่วินาทีที่ 15 แล้วจากการผิดพลาดของผู้เล่นฮัดเดอร์สฟิลด์ ที่ไปโดนเกอิต้าบล๊อกลูกส่งได้และทำให้บอลไปถึงซาลาห์แทงให้เกอิต้าที่ขยันสุดๆ หลุดเดี่ยวและยิงเข้าไปตั้งแต่ไก่โห่ และตั้งแต่นั้นมาเกมนี้ก็กลายเป็นการ “โชว์” ของลิเวอร์พูลไปเลย พวกเขาครองเกมไว้ได้แทบจะทั้งหมด และก็ได้ประตูเพิ่มมาเรื่อยๆ จากจังหวะการเข้าทำที่สวยงามทั้งประตูที่ 2 ที่โรเบิร์ตสันเปิดอย่างแม่นยำให้มาเน่ได้โหม่งเหน่งๆ เข้าประตูไป และลูก 3 ก็เป็นเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์วางบอลยาวให้ซาลาห์กระดกบอลข้ามผู้รักษาประตูไปได้อย่างเฉียบขาด

                                                 จบครึ่งแรกแบบสบายใจกันสุดๆ
ชื่นมื่น

           เกมนี้เป็นของลิเวอร์พูลอยู่แล้ว พวกเขานำถึง 3-0 แบบนี้แถมเล่นในบ้านของตัวเองด้วย แทบไม่มีโอกาสพลิกล๊อคให้เห็นแน่นอน ฮัดเดอร์สฟิลด์ อาจจะมีโอกาสตอบโต้เล็กๆ แต่นั่นก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงที่จะผ่านเกมรับอันเหนียวแน่นของลิเวอร์พูลไปได้ ยิ่งเกมนี้มีกองหลังที่เก่งที่สุดในโลกอย่างเดยัน ลอฟเรน ลงสนามมา กองหน้าของฮัดเดอร์สฟิลด์ จะเอาอะไรไปสู้ได้ (ฮา) และพวกเขาก็เล่นเกมไปตามจังหวะของพวกเขา จนมาได้ประตูเพิ่มอีกลูกจากลูกโหม่งของมาเน่ ที่ได้ลูกโยนอันเหมาะเจาะจากเฮนเดอร์สันกัปตันคนเก่ง ทำให้ลิเวอร์พูลนั้นผ่อนคลายได้สุดๆ แล้ว จนทำให้คล็อปป์เปลี่ยนตัวเอา อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด- แชมเบอร์เลน ลงมา ทำให้ทั้งสนามพร้อมใจกันปรบมือต้อนรับการกลับมาของเขา และอีกคนที่ได้กลับมาลงสนามหลังจากได้หายหน้าหายตาไปนานก็คือ เซอร์ดาน ชากิรี่ นั่นเอง ทำให้บรรยากาศของทีมลิเวอร์พูลในวันนี้ มันอบอวลไปด้วยความสุขมากมายจริงๆ แถมทั้ง 2 คนที่ลงมา ก็ทำผลงานได้ค่อนข้างดีเสียด้วย อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด- แชมเบอร์เลน นั่นได้โอกาสยิงไปครั้งหนึ่งซึ่งเกือบจะบวกเป็นสกอร์เพิ่มให้ทีมได้ ส่วนชากิรี่นั้นเกือบได้แอสซิสต์ไปหนหนึ่งจากการตักให้มาเน่ได้โขกจ่อๆ แต่ก็ดันไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย แต่ก็มาทำผลงานได้อีกครั้งจากการจ่ายบอลทะลุช่องให้โรเบิร์ตสันตบเข้ากลางให้ซาลาห์ชาร์จจ่อๆ เข้าไปเป็นประตูปิดท้าย 5-0 เรียกได้ว่าแฟนลิเวอร์พูลหลังจบเกมนี้นั้นนอนยิ้มแป้นหลับฝันดีแน่นอน หรืออาจจะอิ่มเอมความสุขจนนอนไม่หลับไปเลยก็เป็นได้ (ฮา)

                                                นักเตะที่แฟนๆ คิดถึงที่สุดได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง

ทำลายสถิติเพียบ!!!


           อย่างที่กล่าวไว้ครับ ว่าลิเวอร์พูลนั้นยกมาตรฐานตัวเองขึ้นมาได้สูงมากจริงๆ และหลายๆ สถิติก็มาถูกทำลายในเกมนี้หลายสถิติเลยทีเดียว มีอะไรบ้างที่พวกเขาทำได้ลองมาดูกันครับ
    -  นาบี เกต้า ทำประตูได้ใน 15 วินาทีแรกของเกม เป็นประตูที่เร็วที่สุดในประวัติศาตร์ของ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก
    -  ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรแรกที่มีนักเตะสองคนยิงประตูถึง 20 ลูกในพรีเมียร์ลีกหนึ่งฤดูกาลนับตั้งแต่ปี 2013-14
    -  โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นผู้เล่นลิเวอร์พูลที่ลงสนามครบ 100 เกมยิงประตูมากที่สุดที่ 69 ประตู
    -  แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทำสถิติแอสซิสต์ไปแล้ว 11 ครั้ง มากที่สุดในตำแหน่งแบ็กซ้ายร่วมกับ เลห์ตัน เบนส์  และ แอนดี้ ฮินช์คลิฟฟ์
    -  ลิเวอร์พูลเก็บได้ 91 คะแนน มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม (นับเฉพาะาพรีเมียร์ลีก)
    -  อลีสซง เบ็คเกอร์ เก็บคลีนชีตได้แล้ว 20 เกม เทียบเท่ากับสถิติของ เปเป้ เรน่า





                                                     เกมนี้นักเตะลิเวอร์พูลดาหน้าพังสถิติต่างๆ กันรัวๆ

           เห็นได้ชัดๆ ครับว่าลิเวอร์พูลในซีซั่นนี้นั้นใช้คำว่า”ก้าวกระโดด” ยังอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ กับพัฒนาการของพวกเขาจากวันแรกทีคล็อปป์เข้ามาคุมทีมหรือแม้แต่จะเทียบกับซีซั่นก่อนหน้านี้ก็ยังได้  พวกเขาสามารถเก็บแต้มได้มากถึง 91 แต้มมากเท่ากับอาร์เซน่อลยุคไร้พ่ายเลย ทั้งๆ ที่ยังไม่จบซีซั่นด้วยซ้ำ ถึงตรงนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแฟนๆ ลิเวอร์พูลสามารถยิ้มและภูมิใจกับทีมได้อย่างไม่เคอะเขินเลยครับ เพราะทีมนี้มาได้ไกลมากแล้วจริงๆ และรากฐานเหล่านี้จะกลายเป็นสิ่งค้ำจุนที่ทำให้ลิเวอร์พูลนั้นเดินหน้าต่อไปในอนาคตอย่างสวยงามแน่นอน แต่ในซีซั่นนี้นั้นลิเวอร์พูลจะถึงฝั่งฝันหรือไม่ก็ต้องมารอดูตอนจบนัดที่ 38 จนกว่ากรรมการจะเป่านกหวีดนั่นแหละครับ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดครับ ที่เหลือก็แล้วแต่โชคชะตาฟ้าจะลิขิตนั่นแหละครับ  ว่าแต่ .... พวกคุณเชื่อใน”ปาฏิหาริย์” ไหมล่ะครับ ?

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด