:::     :::

อีก 90 นาทีที่เมสตาย่า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ประตู 3-1 ในนาทีสุดท้ายของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ช่วยให้อาร์เซน่อลอุ่นใจได้ระดับพอสมควรหลังผ่านนัดแรกกับบาเลนเซีย แต่ภารกิจในรอบตัดเชือกยูโรปา ลีก ยังไม่จบ

อูไน เอเมรี่ เฮดโค้ชปืนใหญ่รู้ดีว่าภารกิจในนัดสองยังคงยากและจะยากกว่านัดแรกแน่นอนเพราะเล่นกันที่เมสตาย่า สเตเดี้ยม บ้านของบาเลนเซีย

"บาเลนเซียเป็นทีมที่ดี พวกเขาเล่นด้วยผู้เล่นที่แข็งแกร่งในเกมรับและในแดนกลาง อันตรายในการเล่นลูกเซตพีซ พวกเขายิงประตูได้และก็ทำให้เราเจอปัญหาในลูกเซตพีซ" 

"เราต้องการชนะและไม่เสียประตูที่ 2 แต่เราก็จำเป็นต้องเล่น ประตูที่ 3 (ของเรา) มาในตอนท้ายซึ่งสำคัญมาก ทว่าโอกาสยังคงอยู่ที่ 50-50" เอเมรี่ ให้สัมภาษณ์หลังเกม

การเก็บชัยชนะในบ้านให้ได้คือสิ่งที่อาร์เซน่อลควรทำ และก็ทำสำเร็จ แม้ในรายละเอียดจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเสียประตูด้วยซึ่งกลายเป็นจุดที่สร้างความกังวลใจระดับหนึ่ง

เอเมรี่ ต้องพาทีมลงสนามในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่พอสมควรหลังพ่ายในลีกมา 3 นัดติดต่อกันและเสียไปถึง 9 ประตู

จากสถานการณ์ที่ดูดีอย่างมากกับการติดท็อปโฟร์กลายเป็นต้องฝากชะตาชีวิตตัวเองเอาไว้กับทีมอื่นใน 2 นัดสุดท้ายเพราะต่อให้เก็บชัยชนะได้หมดก็ไม่การันตีการได้ไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลหน้า

ตอนนี้ อาร์เซน่อลตามหลังอันดับ 4 เชลซี 2 คะแนน หากเชลซีชนะใน 2 นัดสุดท้ายก็จบ ลูกทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ จะเป็นฝ่ายที่ติดท็อปโฟร์แน่นอน 


ลากาแซ็ตต์ มองตาลูกโขกตัวเองที่ข้ามเส้นหวุดหวิด

ยูโรปา ลีก จึงกลายเป็นเส้นทางแห่งความหวังของอาร์เซน่อล

เอเมรี่ กลับมาเล่นระบบหลัง 3 อีกครั้งด้วยการเรียก โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ กลับคืนตัวจริงยืนแนวรับร่วมกับ โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส และ ชโคดราน มุสตาฟี่ โดยมี เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์ เป็นวิงแบ็กร่วมกับ เซอัด โคลาซินัช 

คู่มิดฟิลด์ตัวกลางปรับให้ มัตเตโอ เก็นดูซี่ ลงก่อน ลูคัส ตอร์เรร่า ในการประสานงานร่วมกับ กรานิต ชาคา และมี เมซุต โอซิล เป็นจอมทัพปั้นเกมอยู่ข้างหลัง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กับ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ 

บาเลนเซียออกสตาร์ตได้ดีกว่ากับการโจมตีลูกกลางอากาศซึ่งเป็นสิ่งที่อาร์เซน่อลไม่ทันระวังตัวเพราะส่วนใหญ่มักเป็นทีมจากอังกฤษที่มักใช้เล่นงานทีมจากชาติอื่น

เจ้าค้างคาวส่งสัญญาณเตือนตั้งแต่จังหวะครอสส์บอลจากด้านข้างที่หลุดไปถึง เอเซเกล การาย ได้แปโล่งระยะไม่ถึง 6 หลา แต่ว่างัดบอลข้ามคานอย่างไม่น่าเชื่อ

แต่ไม่กี่อึดใจถัดมา บาเลนเซียก็นำสำเร็จจากลูกเซตพีซที่ ดาเนียล ปาเรโฆ เปิดเตะมุมเลยไปเสาไกล โรดรีโก้ โมเรโน่ โหม่งย้อนกลับมาเสาแรก มุกตาร์ เดียกาบี้ ขึ้นโขกเหนือกว่าทุกคนก่อนขวิดบอลจ่อๆ เข้าไป

โอบาเมย็อง ยอมรับว่าอาร์เซน่อลเริ่มเกมได้ไม่ดีเลยและเป็นผลมาจากสัปดาห์นรกแตกที่เพิ่งแพ้ 3 นัดติดต่อกัน 

"เรากังวลเล็กน้อยตอนเริ่มเกมเพราะว่าแพ้มา 3 นัดติด ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้เพราะเราก็คือมนุษย์" 

แต่อาร์เซน่อลก็ตามตีเสมอได้เร็วซึ่งสำคัญมากเพราะความมั่นใจในการเล่น จังหวะตีเสมอเป็นการเข้าทำที่สุดยอดและเป็นอีกครั้งที่คู่หัวหอกตัวเก่ง 


คู่หัวหอก "โอบา-ลากา" ประสานงานกันได้ดีอีกครั้ง

อาร์เซน่อลจะไปถึงเป้าหมายในฤดูกาลนี้หรือไม่ หนึ่งในจุดแข็งที่พวกเขาต้องพึ่งพามากที่สุดก็คือฟอร์มการเล่นของ "โอบา-ลากา" ซึ่งเกมนี้ทั้งคู่ก็ช่วยทีมได้อีกครั้ง

ลากาแซ็ตต์  ได้บอลในแดนตัวเองก่อนไหลขึ้นหน้าให้ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง สปีดเข้าเขตโทษก่อนล็อกหนีตัวประกบแล้วจ่ายย้อนเข้ากลางมาให้ ลากาแซ็ตต์ ตามมายิ่งโล่งๆ เข้าไป

โมเมนตัมของเกมเปลี่ยนเข้าทางเจ้าถิ่นต่อเนื่องเมื่อสามารถพลิกนำได้ใน 8 นาทีหลังตีเสมอ และเป็น ลากาแซ็ตต์ คนเดิมที่โหม่งลูกเปิดของ กรานิต ชาคา เข้าไป

รูปเกมค่อนข้างเปิดทีเดียว บาเลนเซีย มีโอกาสโต้และเกือบตีเสมอได้ ขณะเดียวกันอาร์เซน่อลก็มีโอกาสยิงเพิ่มในหลายครั้งโดยเฉพาะจาก ลากาแซ็ตต์ ที่น่าจะทำแฮตทริกได้ แต่ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย

สกอร์ 2-1 ในบ้านยังถือว่าอุ่นใจไม่ได้กับการเล่นฟุตบอลยุโรปในระบบเหย้า-เยือนแบบนี้เพราะประตูอะเวย์โกลของผู้แพ้ถือว่าล้ำค่ามาก

อาร์เซน่อลต้องรอจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนได้ประตูฝังบาเลนเซีย 3-1 จาก โอบาเมย็อง ที่ซัดประตูที่ 25 ในฤดูกาลนี้ และเป็น 5 ฤดูกาลติดต่อกันแล้วที่ยิงได้อย่างน้อย 25 ประตู (รวมสมัยค้าแข้งกับดอร์ทมุนด์)

ประตูของ โอบาเมย็อง สำคัญมากเพราะสกอร์ 3-1 ช่วยให้อุ่นใจได้มากกว่า 2-1 พอสมควรซึ่งในอดีต อาร์เซน่อลเคยมีฝันร้ายมาแล้วเพราะบาเลนเซียมาแล้ว

ย้อนไปในรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2000/01 อาร์เซน่อลเปิดบ้านชนะบาเลนเซียได้ก่อน 2-1 ทว่าก็ถูกเจ้าค้างคาวเอาคืน 1-0 ที่เมสตาย่า ทำให้ทีมดังจากสเปนเป็นฝ่ายเข้ารอบด้วยกฎอะเวย์โกล

ทีมปืนใหญ่ตกรอบอย่างน่าผิดหวัง ขณะที่ทัพค้างคาวในยุคของ เอคตอร์ คูเปร์ โบยบินไปถึงรอบชิงชนะเลิศก่อนพ่ายจุดโทษต่อบาเยิร์น มิวนิค 

โอบาเมย็อง กล่าวต่อถึงประตูของตัวเองว่า "ผมหวังว่าประตูที่ 3 จะสำคัญต่อทีม เราเริ่มเกมไม่ดีแต่ก็มีการตอบโต้ที่ดี และผมคิดว่าวันนี้เราเล่นกันได้ดีมากๆ"

"เรามีคุณภาพมากมายในทีมชุดนี้และสามารถไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ เรารู้ดีว่านัดหน้าจะเป็นงานยากแต่หากเรามีการผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวเหมือนเดิม เราก็จะผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้" 

"เป้าหมายของเราคือเข้าชิงชนะเลิศและคว้าแชมป์ให้ได้ นี่คือโอกาสสำหรับการผ่านไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าหลังจากตกรอบตัดเชือกในฤดูกาลที่แล้ว"

ชัยชนะนัดนี้เป็นการแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า อูไน เอเมรี่ ยังคงเก่งกาจกับการคุมทีมลงเล่นยูโรปา ลีก ซึ่งเคยมีดีกรีเป็นแชมป์ 3 สมัยกับเซบีย่า

เขาพาทีมกลับมาชนะได้อีกครั้งในเกมสำคัญและเป็นเกมที่เรียกความมั่นใจกลับได้พอสมควรหลังผ่านช่วงเวลาเลวร้ายในลีก 


อูไน เอเมรี่ พาทีมกลับมาชนะได้อีกครั้งในเกมสำคัญ

อย่างไรก็ตาม โอกาสเข้ารอบของอาร์เซน่อลก็ยังต้องลุ้นต่อในอีก 90 นาที (เป็นอย่างน้อย) ที่เมสตาย่า ความเป็นไปได้ก็คงอยู่ที่ "50-50" อย่างที่เอเมรี่ว่าเอาไว้เพราะการไปเยือนนัดสองไม่ใช่เกมที่ง่ายแน่นอน

อาร์เซน่อลมีผลงานนอกบ้านที่แย่กว่าในบ้าน อย่างในรายการนี้ก็เคยแพ้บาเต้ บอริซอฟ 0-1 ในรอบ 32 ทีม และพ่ายต่อแรนส์ 1-3 ในรอบ 16 ทีม 

สิ่งที่อาร์เซน่อลต้องเจอในนัดสอง ไม่ใช่เพียงเซตพีซที่ต้องระวังเช่นเดิมแล้ว บาเลนเซียยิ่งน่าจะเล่นในสไตล์ตัวเองได้ดีขึ้นทั้งการ "พาสซิ่ง" เจาะด้วยระบบ และเพิ่มการ "เพรสซิ่ง" ไล่บีบเพื่อชิงบอลเล่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

เงื่อนไขง่ายๆ ของบาเลนเซียคือหากชนะ 2-0 จะเป็นฝ่ายพลิกเข้ารอบด้วยอะเวย์โกลอีกครั้ง ขณะที่อาร์เซน่อลก็ต้องไม่แพ้เกิน 1 ประตู 

พฤหัสฯหน้ารู้กันว่าใครจะทำสำเร็จกับการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโรปา ลีก ในปีนี้ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด