มันสามารถสร้างเรื่องราวที่คุณไม่สามารถหาคำอธิบายได้อยู่บ่อยๆ
หากทุกคนลองมองย้อนกลับไปยังฤดูกาลที่แล้ว ดิว็อก โอริกี้ ยิงไปเพียง 9 ประตูในสัญญายืมตัวกับ โวล์ฟสบวร์ก และเกือบที่จะถูกส่งตัวไปเล่นให้ไม่กับ วูล์ฟส์ หรือ ฮัดเดอร์สฟิลด์
หากทุกอย่างดำเนินไปตามทาง เกมของสุดมหัศจรรย์ของหงส์แดงในวันที่ 7 พฤษภาคม 2019 จะเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ได้ออกสตาร์ทตัวจริง ขณะที่หัวหอกเบลเยียมเต็มที่คงได้เป็นตัวสำรองอยู่ข้างสนามเท่านั้น
แต่ไม่ว่าจะด้วยกรณีใด โอริกี้ กลายเป็นพรจากฟ้าของสาวกหงส์แดง
นั่นก็เพราะเรื่องราวของอันแสนน่าทึ่งเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาในสนามแอนฟิลด์นั้นจะกลายเป็นตำนานที่ถูกบันทึกให้ทุกคนซึ่งสัมผัสจดจำถึงมันไปจนวันตาย
นี่คือชายที่ได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะยอดแย่ของศึกลีก เอิง ในช่วงปีสุดท้ายที่เขาเล่นกับ ลีลล์ และก็แทบไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรเลยในช่วงปรีซีซั่น รวมถึงการเล่นกับทีมระดับยู-23
เขาก็เพียงแค่ตั้งใจจะวัดดวงกับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้เป็นครั้งสุดท้าย โดยที่หลายคนแทบไม่เห็นหัวทรงไม้ม็อบของ โอริกี้ เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่เลยก็ว่าได้
แต่!!!
ใครจะเชื่อ ว่าถัดมาเกือบ 9 เดือน ตอนนี้ชื่อของ โอริกี้ กลายเป็นที่พูดถึงมากที่สุดในโลกลูงหนัง โดยที่บางคนแทบอยากจะให้สร้างรูปปั้นของเขาหน้าถิ่นแอนฟิลด์เลยทีเดียว
การเรียกร้องเหล่านั้นก็เป็นเพียงมุขขำๆ ที่ต่อเติมรอยยิ้มบนแก้มของสาวกเดอะ ค็อป ซึ่งความสำคัญทั้งหมดของ ลิเวอร์พูล นั้นเหลืออีก 180 นาทีเพื่อต่อเติมฝันของพวกเขาให้กลายเป็นความจริงขึ้นมา
ในบรรดาคนเหล่านั้น ใครจะเชื่อว่าเวลานี้ โอริกี้ กลายเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญของหงส์แดงไปแล้ว
กับ 2 ประตูของเขาในเกมที่แสนเหลือเชื่อกับ บาร์เซโลน่า นั้นทำให้เขายิงรวมในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 6 ลูก
โอเค...มันอาจเป็นจำนวนที่น้อยนิด หากเรามัวแต่พูดถึงสถิติของกองหน้าจอมถล่มประตู ทว่าหากคุณลองมองถึงจำนวนนาทีที่เขามีโอกาสสัมผัสฟลอร์หญ้า รวมถึงความสำคัญของแต่ละลูกที่เขาทำได้ คุณจะยอมรับเขาอย่างเต็มใจ
นอกเหลือจากสกอร์ที่ทำได้ในนัดแพ้ วูล์ฟส์ ตกรอบเอฟเอ คัพ ตั้งแต่ไก่โห่ และลูกที่สามของเกมถล่ม วัตฟอร์ด 5-0 นอกจากนั้น แต่ละประตูของเขาจะให้คำว่าฮีโร่มอบให้เลยก็ได้
เขาได้เขียนเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นกับประตูชัยในนาทีที่ 96 เกมดาร์บี้แมตช์ที่เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนธันวาคม
ชื่อของเขาทำให้เหล่าเด็กหงส์ได้เริงร่ากันอีกครั้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หัวหอกเบลเยียมจัดการโหม่งลูกฟรีคิกของ เซอร์ดาน ชากิรี่ เพื่อให้หงส์แดงคว้าชัยเหนือ นิวคาสเซิ่ล เมื่อวันเสาร์ ซึ่งนั่นส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ยังคงได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกไปจนนัดสุดท้ายของซีซั่น
และตอนนี้ เขาก็ช่วยทีมสร้างเทพนิยาย เพื่อจะได้แก้ตัวจากความผิดหวังในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกของฤดูกาลก่อน
"ผมคิดว่ามันมาจากผลงานของทั้งทีมมากกว่า เราเล่นได้ดีมาก เราต่อสู้อย่างหนัก และรู้ว่ามันจะต้องเป็นค่ำคืนที่พิเศษ เราต้องการต่อสู้เพื่อนักเตะที่บาดเจ็บด้วย"
"มันพิเศษจริงๆ มันยากที่จะอธิบายคำนี้ คุณรู้สึกได้ และได้ยินมันได้ มันไม่น่าเชื่อจริงๆ"
"เราต่อสู้กันอย่างหนัก ร็อบโบ้ คือนักสู้ และเรารู้ว่ามันอาจส่งผลกระทบต่อนักเตะ แม้แต่ผมเองในตอนท้ายก็ยังเป็นตะคริว"
"เราทำได้แล้ว มันแสดงให้เห็นว่าเรามีการผสมผสานที่ดีระหว่างความสามารถและการทำงานหนัก มันพิเศษสำหรับเรา เพราะเราก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในปีนี้"
เป็นไง ไม่เอาเครดิตเข้าตัวด้วย หล่อไหมล่ะ...
เวลานี้ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ในเวทียุโรปของหงส์แดงยังคงดำเนินต่อไปบนปาฏิหาริย์อันน่าหลงไหลของพวกเขา
ค่ำคืนที่อิสตันบูลอาจเป็นสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ แต่สำหรับกองเชียร์รุ่นใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสถึงบรรยากาศในอดีตอย่างแท้จริงจะมีเกมเมื่อคืนวันอังคารเป็นสิ่งพิเศษ
บางที มันอาจจะยิ่งใหญ่กว่าปี 2005 ก็ได้หลังจากพวกเขาได้อวสานโลกสวยไปตั้งแต่เกมนัดแรก แถมยังไม่มีใครหวังว่าเรื่องราวจะพลิกผันในนัดสอง
การกลับมามีชีวิตชีวาของ โอริกี้ ช่างน่าอัศจรรย์
นั่นคือค่ำคืนของเขา และเรื่องราวของรหัส 07/05/2019 จะตราตรึงอยู่ในใจของเราตลอดไปอย่างแน่นอน
พาสต้า
