แน่นอนว่า รอบรองชนะเลิศ พวกเขาต้องพบกับความยากลำบากเป็นอย่างมาก ด้วยการพ่ายคาบ้านต่ออาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในเกมแรก 0-1 ก่อนที่จะบุกมาโดนนำก่อน 2-0 ในเกมที่สอง
ผลสุดท้าย พลพรรค “ไก่เดือยทอง” สามารถยิงคืน 3 ประตูรวด จากฝีเท้าของลูคัส มูร่า ที่เหมาคนเดียว ช่วยให้ทีมสามารถเข้าไปลุ้นแชมป์ ด้วยกฏประตูทีมเยือน
ช่วงนี้ เราไปดูบทสัมภาษณ์เล็กๆน้อยๆจากปากของดาวเตะชาวบราซิเลี่ยน ตั้งแต่ชีวิตวัยเด็ก และความหมายของฟุตบอลที่มีต่อตัวเขา
วัยเด็กของคุณเป็นยังไงบ้าง ?
“วัยเด็กของผมค่อนข้างดีนะ ผมมีความสุขกับวัยเด็กของตัวเองมาก ผมเล่นฟุตบอลเป็นประจำเลย กระทั่งอายุ 13 ผมก็ต้องออกจากบ้าน เนื่องจากต้องมาเป็นนักเตะเยาวชนของเซา เปาโล แม้ผมจะเติบโตในย่านที่ยากลำบาก โดยมีทั้งยาเสพติด และอาชญากรรม แต่ผมก็ยังเพลิดเพลินกับช่วงเวลานั้น”
ฮีโร่ลูกหนังในวัยเด็กของคุณคือใคร ?
“ผมไม่มีฮีโร่ที่เฉพาะเจาะจงมากนัก ผมเติบโตมาพร้อมกับนักเตะที่มีคุณภาพหลายคน ถ้าจะให้ผมบอกไอดอลสักคน ก็คงจะเป็นซีเนอดีน ซีดาน ทั้งคุณภาพยามเล่นบอล และความสง่างามที่เขามี เขาถือว่าเป็นนักเตะที่ผมชอบดูการเล่น อย่างไรก็ตาม ผมต้องการสร้างสไตล์ของตัวเอง พร้อมกับใช้คุณภาพของตัวเอง นอกจากตัวของซีดาน บรรดานักเตะอย่างโรนัลโด้ (R9) และโรนัลดินโญ่ ก็เป็นนักเตะที่ผมชอบดูเช่นกัน โดยเฉพาะช่วงที่ผมกำลังเติบโตมา”
การลงเล่นกับเซา เปาโล ซึ่งเป็นสโมสรที่คุณเชียร์มาตลอด ถือเป็นความฝันที่กลายเป็นความจริงหรือเปล่า ?
“ไม่ต้องสงสัยเลย การเล่นให้เซา เปาโล ถือเป็นความฝันที่กลายมาเป็นความจริง เป็นเกียรติกับผมเป็นอย่างมาก สำหรับการลงเล่นให้หนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่สุดในประเทศบราซิล พวกเขาเป็นสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ และประเพณีอย่างมากมาย ดังนั้น การเล่นให้พวกเขา จึงเป็นสิทธิที่พิเศษมาก เซา เปาโล เป็นสโมสรที่ออกแบบผมในการเล่นฟุตบอล ช่วยให้ผมสามารถเติมเต็มความฝันได้ ผมรักสโมสรจากก้นบึ้งของหัวใจ”
ยากแค่ไหน ในการย้ายจากเซา เปาโล มาร่วมทีมเปแอสเช ?
“การเปลี่ยนแปลง อาจนำมาซึ่งความยากลำบากบ้าง อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ กับการย้ายมาเล่นในลีกของยุโรป ร่วมกับเปแอสเช รวมถึงการเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เป็นรายการที่จะได้พบกับนักเตะชั้นยอดมากมาย โดยมันเป็นการยากนะ ในการย้ายออกจากบ้านเกิดตัวเอง ผมต้องห่างจากครอบครัว และเพื่อน แต่ทั้งหมด มันเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอล ทุกคนต่างแสวงหาความฝันที่ยิ่งใหญ่ อย่างที่ผมบอกไป ผมฝันเสมอมาว่า ตัวเองอยากจะมาเล่นในยุโรป”
ใครคือนักเตะที่เก่งที่สุด เท่าที่เคยเผชิญหน้าด้วย ?
“ผมได้รับเกียรติ ด้วยการลงสนามเจอกับนักเตะที่ยอดเยี่ยมหลายคน หากให้ผมเลือกคนเดียว ผมขอเลือกไปที่ลิโอเนล เมสซี่ สำหรับผม เขาคือนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก การดูเขาเล่นผ่านหน้าจอโทรทัศน์ กับการเจอกันในสนาม ถือว่าคนละเรื่องกันเลย ผมประทับใจในคุณภาพที่เขามี โเยเฉพาะคุณภาพด้านการสัมผัส และการเลี้ยงบอล เราเรียกเขาว่าเป็นปรากฏการณ์ก็ได้ เขามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้น ผมจึงชื่นชมเขาเป็นอย่างมาก”
จุดเด่นที่แท้จริงของคุณคืออะไร ?
“ผมไม่ชอบพูดถึงตัวเองว่า ผมมีดีอะไรบ้าง แต่ถ้าจะให้บอก มันคงเป็นความเร็วที่ไปกับลูกบอล ผมคิดว่า ตัวเองเป็นนักเตะที่ชอบเร่งให้เกมมีความเร็วมากขึ้น เพื่อสร้างสรรค์โอกาสในการยิงประตู นี่คือคุณสมบัติหลักของผม เลี้ยงบอลอย่างรวดเร็ว และช่วยเหลือบรรดาเพื่อนร่วมทีม นอกจากนี้ ผมยังมุ่งเน้นไปที่การลงไปช่วยเหลือเกมรับด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ทีมเสียประตู”
หลังจากเลิกเล่นไปแล้ว คุณอยากถูกจดจำในรูปแบบไหน ?
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นักเตะทุกคนย่อมอยากเป็นที่จดจำ จากทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำในสนาม รวมถึงความสามารถ และถ้วยรางวัล ผมก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมต้องการมากกว่าคือ การเป็นที่จดจำในฐานะของตัวอย่างที่ดี, คนของพระเจ้า และคนที่มีทัศนคติที่ยอดเยี่ยม ผมเชื่อเสมอว่า นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ในการแสดงออกผ่านตัวตน”
