:::     :::

คุยกับ โดมินิก คาร์ทไรท์ : ครูฝรั่งผู้หลงรักสิงห์เจ้าท่าและบอลไทย

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
6,461
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
คงคุ้นตากันดีสำหรับแฟนบอล "สิงห์เจ้าท่า" ที่มักจะเห็นฝรั่งตาน้ำข้าวกลุ่มใหญ่เข้ามาเชียร์ที่แพท สเตเดี้ยม อยู่เป็นประจำ หลายคนอาจไม่ทราบว่า หนึ่งในฝรั่งกลุ่มนั้นไม่ใช่เพียงแฟนบอลธรรมดา แต่ต้องใช้ คำว่าแฟนพันธุ์แท้ที่ซึมซับความเป็นสายเลือด "แสด-น้ำเงิน" แบบหยั่งรากฝังลึกเลยทีเดียว ผมรู้สึกสนใจเรื่องนี้และมีโอกาสได้คุยกับ โดมินิก คาร์ทไรท์ ชายวัยกลางคนชาวอังกฤษที่มาอาศัยอยู่บนแผ่นดินสยามกว่า 10 ปีแล้ว และยิ่งทึ่งไปกว่านั้น เมื่อรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีความรอบรู้เกี่ยวกับทีมที่เขารักมากๆ ถึงขนาดทำบล็อกขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารและบทความเกี่ยวกับสโมสเป็นภาษาอังกฤษ บทสนทนาจะสนุกและน่าสนใจเพียงใด ติดตามกันได้เลย (หมายเหตุ ผมคุยทางโทรศัพท์กับเขาทั้งภาษาไทยและอังกฤษ และขอรวบรวมแปลมาเป็นภาษาไทยให้ได้ อ่านกันง่ายๆ)

แมน : สวัสดีครับดอม ผมรู้สึกว่าเรื่องของคุณน่าสนใจมาก เลยอยากจะลองคุยเพื่อนำมาเขียนเป็นคอลัมน์สนทนาหน่อยครับ

โดมินิก : ได้เลยครับ ถ้าเป็นเรื่องฟุตบอลผมชอบคุยอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องการเมือง หรือเรื่องซีเรียสๆ อื่นผมก็ไม่ค่อยชอบคุยเท่าไหร่

แมน : แฟนบอลไทยส่วนใหญ่รวมถึงผมเองอาจจะยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ กับการที่เห็นชาวต่างชาติเข้ามาดูบอลไทยลีก โดยเฉพาะที่ติดตามเข้ามาดูเป็นประจำแบบคุณ มันมีที่มาที่ไปยังไงครับ คุณถึงชอบดูบอลไทย

โดมินิก : ผมดูมานานมากแล้วครับ เป็น 10 ปีแล้ว ครั้งแรกผมเข้าไปดูเพราะเพื่อนชวน เป็นชาวต่างชาติด้วยกันนี่แหละ ไปดูเกมระหว่าง ชลบุรี พบกับ เมืองทอง แล้วผมก็พบว่ามันสนุกมาก 


แมน : ความประทับใจแรกคือเกมชลบุรี กับ เมืองทอง แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงกลายเป็นแฟนบอลของการท่าเรือ ไปได้ครับ

โดมินิก : การท่าเรือเป็นทีมที่อยู่ใกล้ที่พักผมครับ แต่ก่อนผมเคยอยู่สุขุมวิท 50 อยู่นาน 17 ปี แล้วตอนนี้ก็ย้ายมาที่ สาธร ใช้เวลาเดินทางไปสนามประมาณ 15-20 นาทีครับสนามที่ผมเดินทางไปสะดวกที่สุดแล้ว

แมน : คุณมาจากที่ไหนนะครับ 

โดมินิก : ผมเป็นชาวอังกฤษครับ มาจากลอนดอน จริงๆ ผมเกิดที่ไอร์แลนด์เหนือ พอดีคุณพ่อผมเป็นทหาร แล้วก็ย้ายไปอยู่อังกฤษ อยู่หลายที่เลย แต่ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ที่ลอนดอนมากกว่า 

แมน : แล้วมาอยู่เมืองไทยได้นานแค่ไหนแล้วครับ 

โดมินิก : มาอยู่ได้ประมาณ 17-18  ปีได้ครับ เริ่มแรกผมเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่ ECC language school อยู่ 2 ปี แล้วก็มาเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษอยู่ที่เทคนิคกรุงเทพ 14 ปีแล้วครับ 


แมน : ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่นะ

โดมินิก : 44 ปีครับ

แมน : โห แสดงว่าก็มาตั้งแต่ยังหนุ่มๆ เลย แล้วตั้งใจมาอยู่เมืองไทยเพื่อทำงานเป็นอาจารย์แต่แรกเลยหรือเปล่าครับ

โดมินิก : ไม่ครับ ตอนแรกผมก็มาเที่ยวแบบแบ็คแพ็คเฉยๆ แต่พออยู่สักพักก็เริ่มหางานทำครับ 

แมน : คิดว่าอะไรคือสเน่ห์ของไทยลีกหรือทีมการท่าเรือ ที่ทำให้คุณหลงรักครับ

โดมินิก : ในตอนแรก ผมชอบเพราะที่นี่เชียร์บอลไปแล้วก็ดื่มเบียร์ กระโดดโลดเต้นไปด้วยได้ครับ (หัวเราะ)

แมน : อ้าว แล้วที่อังกฤษเขาห้ามหรือครับ

โดมินิก : ที่อังกฤษดื่มได้แต่จะต้องเป็นโซนที่เขาจัดไว้ด้านนอกครับ ถ้าคุณลองสังเกตตอนถ่ายทอดสดจะเห็นว่าพรีเมียร์ลีกอังกฤษจะไม่มีแฟนบอลดื่มเบียร์ในสนามเลย แล้วที่นั่งเขาจะห้ามไม่ให้ยืนเพราะจะบังคนอื่น แต่ที่ไทยก็จะมีบางโซนที่แฟนบอลแทบไม่นั่งเลย เพราะจะกระโดดร้องเพลงเชียร์กันตลอดทั้งเกม


แมน : นั่นคือเหตุผลในตอนแรก แล้วตอนนี้ล่ะ 

โดมินิก : ผมเป็นคนชอบฟุตบอลอยู่แล้วครับ แล้วพอดูไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกสนใจในทีมการท่าเรือ จนอยากรู้เรื่องราวมากไปกว่านั้น ผมเห็นนักเตะของการท่าเรือหลายๆ คนมีความทุ่มเทสูงมาก ส่วนตัวผมชื่นชอบเกมรับมากเป็นพิเศษนะ และผมก็ประทับใจแฟนบอลของการท่าเรือด้วย แฟนบอลทีมนี้มีพาสชั่นในการเชียร์สูงมากๆ 

แมน : หลายๆ คนตราหน้าแฟนบอลท่าเรือว่า ดุดัน เถื่อน มักมีเรื่องทะเลาะวิวาท และแพท สเตเดี้ยม คือนรกสำหรับทีมเยือน คุณเป็นชาวต่างชาติที่ได้สัมผัสคลุกคลีด้วยตัวเอง คิดว่าจริงๆ แล้วเป็นอย่างที่ใครๆ ว่ามั้ย

โดมินิก : ถ้าสำหรับทีมที่มาเยือน ผมคิดว่าพวกเขาต้องเจอความยากลำบากแน่ๆ ครับ เพราะกองเชียร์กดดันได้ดีมากๆ เรื่องทะเลาะวิวาท ผมก็เคยเห็นเหตุการณ์นะ แต่ทุกๆ ครั้งผมไม่ได้เห็นว่าสาเหตุมาจากแฟนบอลท่าเรือฝ่ายเดียวเลยครับ จริงๆ แล้วสนามแพท สเตเดี้ยม ผมมองเห็นพ่อแม่จูงลูกหลานเข้ามาเชียร์ฟุตบอลกัน มันดูเป็นแฟมิลี่ไทม์ ที่ผมชอบมากๆ ครับ

แมน : คุณเป็นแฟนบอลชนิดที่เข้าเส้นอยู่แล้่วตั้งแต่ที่อังกฤษหรือเปล่าครับ แล้วทีมที่อังกฤษคุณเชียร์ทีมอะไร

โดมินิก : ผมก็ชอบดูฟุตบอลตามประสาผู้ชายทั่วไปครับ ที่อังกฤษผมเชียร์ เวลลิ่ง ยูไนเต็ด คุณรู้จักมั้ย เป็นทีมเล็กๆ

แมน : เคยได้ยินชื่ออยู่ครับ น่าจะอยู่คอนเฟเรนซ์ ดิวิชั่น (นอกลีก) ใช่มั้ย ทำไมคุณอยู่ลอนดอนถึงไม่เชียร์ทีมสโมสรใหญ่ๆ ล่ะ

โดมินิก : ตอนนี้กำลังจะแข่งเพลย์ออฟของ คอนเฟเรนซ์ เซาธ์ เพื่อลุ้นเลื่อนชั้นอยู่ครับ ผมไม่ได้เชียร์ทีมใหญ่ครับ คนอังกฤษมักจะเลือกเชียร์ทีมที่ตัวเองชอบไม่จำเป็นต้องเป็นทีมใหญ่ก็ได้ครับ


แมน : สมมติเล่นๆ นะ ถ้าวันนึง เวลลิ่ง ยูไนเต็ด ต้องมาแข่งกับ การท่าเรือ คุณจะเลือกเชียร์ทีมไหน

โดมินิก : ผมคงจะตกใจมากกว่า เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ผมก็คงเชียร์พร้อมกันทั้งสองทีมนั่นแหละครับ

แมน : ลูกศิษย์ที่เรียนหนังสือกับคุณ เขารู้มั้ยว่าคุณคือแฟนบอลพันธุ์แท้ของการท่าเรือ

โดมินิก : (หัวเราะ) ก็มีบ้าง พวกลูกศิษย์ที่เป็นแฟนบอลท่าเรือด้วยกัน เขาก็จะเคยเห็นผมไปเชียร์ เขาก็จะชอบมาชวนผมคุยเรื่องฟุตบอลครับ 

แมน : ท่าทางคุณน่าจะเป็นครูที่ใจดีมากๆ เลยนะเนี่ย

โดมินิก : ถ้าเป็นเรื่องฟุตบอล ก็คุยกับผมได้เลยครับ แต่เวลาผมสอนผมก็จะจริงจังมากในเรื่องการตรงต่อเวลา ถึงเวลาส่งการบ้านก็ต้องส่ง มาเรียนก็ต้องเข้าตรงเวลา 


แมน : ในทีมท่าเรือ คุณมีนักเตะที่ชื่นชอบเป็นพิเศษมั้ย

โดมินิก : โอ้ว เป็นคำถามที่ยากมากๆ เพราะจริงๆ แล้วผมชอบทั้งทีมเลย แต่ถ้าชอบเป็นพิเศษก็จะเป็นเกมรับ ผมชอบ วัชระ (บัวทอง) ผมเคยได้คุยกับเขา ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่น่ารักเลยนะ กองหลัง เอเลียส (ดอเลาะห์) ก็แข็งแกร่งและพัฒนาขึ้นเยอะมาก แล้วก็ นิติพงษ์ (เสลานนท์) ผมว่าเขาสมควรได้รับโอกาสในทีมชาติบ้างนะ เขาทำผลงานได้ดีสม่ำเสมอและแต่ละเกมก็วิ่งเยอะมากๆ ตอนที่เขาติดโทษแบน อดิศร (แดงเรือง) ลงเล่นแทน ก็ถือว่าทำได้โอเคนะ แต่มันไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา ถ้าเป็น นิติพงษ์ ก็จะดีมากกว่า 

แมน : คนที่กำลังฟอร์มดีอย่าง เควิน (ดีรมรัมย์) หรือ บดินทร์ ผาลา ล่ะ

โดมินิก : อ๋อ เควิน น่ะหรอ ก็ดีเลยนะ เขาเป็นนักเตะที่ชอบเล่นเกมรุก ผมก็อยากเห็นเขาเล่นเกมรับได้ดีมากขึ้นอีก บดินทร์ก็เป็นผู้เล่นที่วิเศษมากเลย ผมชอบดูเขาเล่นนะ 

แมน : คุณได้ติดตามดูทีมชาติไทยด้วยหรือเปล่าครับ 

โดมินิก : ไม่ค่อยได้ไปดูที่สนามครับ เคยดูตอนซูซูกิ คัพ อยู่ ก็สนุกดีนะครับ เพราะทีมชาติไทยเล่นได้ดีด้วย 

แมน : เชียร์ใครในทีมการท่าเรือให้ติดทีมชาติอยู่บ้างมั้ย 

โดมินิก : ก็คงจะเป็น นิติพงษ์ นี่แหละครับ อาทิตย์ (บุตรจินดา) ก็ดีนะ แต่เข้าใจล่ะว่าตอนนี้เขายังไม่ค่อยได้ลงเล่นเท่าไหร่ เพราะตำแหน่งของเขา ดราแกน บอสโควิช ยังดีกว่า ผมเองก็เคยทำคอลัมน์สัมภาษณ์ ดราแกน ลงในเว็บไซต์ของผมอยู่นะ ดาวิด โรเชลา ด้วย ตอนนี้คนที่ผมอยากคุยด้วยมากเลยก็คือ มาโน่ โพลกิ้ง คุณติดต่อเขาได้มั้ย ผมชอบแนวทางการทำทีมของเขามาก 

แมน : ผมไม่มีช่องทางติดต่อเลย ถ้าคุณเจอเขาก็ลองคุยดูไม่น่าจะมีปัญหานะครับ อ้าวแล้วแนวทางของ จเด็จ มีลาภ ล่ะ

โดมินิก : จเด็จ หรอครับ เขากำลังมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม เขามีนักเตะคุณภาพสูงให้เลือกใช้ และปีนี้ก็คงมองถึงการคว้าแชมป์ได้อย่างจริงจังแล้ว

แมน : คุณมั่นใจว่าปีนี้ การท่าเรือ จะคว้าแชมป์ไทยลีกหรอ

โดมินิก : โอ้ว ไม่ๆ พูดอย่างนั้นไม่ได้ ไม่มีใครหรอกที่พอได้ขึ้นไปอยู่ตำแหน่งจ่าฝูงแล้วจะออกมาพูดว่า ปีนี้เราจะเป็นแชมป์ ฤดูกาลมันยังอีกยาวมากๆ ครับ  

แมน : คุณเชียร์ท่าเรือมากี่ปีแล้วนะครับ

โดมินิก : น่าจะประมาณ 7 ปีแล้วครับ


แมน : แสดงว่าคุณก็อยู่ที่นี่ตอนที่ทีมเคยตกชั้นลงไปดิวิชั่น 2 ตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้าง

โดมินิก : โอ้ว เป็นช่วงเวลาที่แย่และรู้สึกผิดหวังมากๆ แต่ในทางกลับกัน ผมกลับรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่ผมเห็น มีแฟนบอลคนหนึ่งเป็นผู้ชายอายุน่าจะประมาณ 50 กว่าๆ ร้องไห้ตอนที่ทีมตกชั้น แต่ก่อนผมเคยคิดว่าพอทีมตกชั้นเดี๋ยวแฟนบอลก็จะหันไปเชียร์ทีมอื่นแทน แต่มันไม่ใช่เลย วันนั้นพอบอลจบแฟนบอลร้องเพลงเชียร์กันนานมาก ผมก็ร่วมร้องเพลงไปด้วย และในปีต่อมาแฟนบอลก็ยังตามเชียร์ทีมในดิวิชั่น2เหนียวแน่นเหมือนเดิม มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขารักทีมจริงๆ 


แมน : คุณชอบดูบอลไทย แล้วเคยติดตามดูนักเตะไทยที่ไปเล่นต่างประเทศมั้ยครับ

โดมินิก : ไม่ค่อยนะ แต่ผมพอจะรู้อยู่ว่ามี ผู้รักษาประตูที่ไปอยู่เบลเยียม (กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กับ โอเอช ลูเวิร์น), ธีรศิลป์ แดงดา เคยไปเล่นให้อัลเมเรีย ที่สเปน แล้วก็มีนักเตะไทยอีกหลายคนไปเล่นที่ญี่ปุ่น จริงๆ แล้วทีมท่าเรือก็มีนักเตะที่ไปเล่นเบลเยียมมาเหมือนกันนะ 

แมน : โบ้ท อนนท์ สมากร หรอครับ แล้วก็มีคนอื่นอีกที่เป็นเด็กฟ็อกซ์ ฮันท์

โดมินิก : ใช่ ผมว่าโครงการฟ็อกซ์ฮันท์ เป็นโครงการที่ดีมาก โบ้ทจริงๆ ผมว่าเป็นนักเตะที่ดีมากๆ คนหนึ่งเลย แต่ปีนี้เขาไม่ค่อยได้ลงเล่นเท่าไหร่ เพราะกองกลางตอนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ การไปเล่นต่างประเทศมันดีมากนะ ทำให้พวกเขาเติบโตขึ้นและมีประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป 

แมน : แล้วคุณคิดว่านักเตะคนไหนในทีมการท่าเรือที่น่าจะมีโอกาสได้ไปเล่นต่างประเทศอีกบ้างครับ

โดมินิก : ผมคิดว่า นิติพงษ์ นะ เขาเล่นดีมาก สม่ำเสมอด้วย แต่ก่อนอื่น เขาต้องรับโอกาสในทีมชาติบ้าง ผมมองว่าเขาจะทำได้ดี และต่อจากนั้นอาจจะเป็นโอกาสที่เขาจะได้ไปเล่นที่ต่างประเทศอย่างเช่นที่ญี่ปุ่น


แมน : เคยเห็นชนาธิป (สรงกระสินธุ์) เล่นมั้ยครับ คิดว่าเขาไปยุโรปไหวมั้ย

โดมินิก : โอ้ว ชนาธิป หรอ เขาเก่งมากนะ แต่ถ้าถามเรื่องไปยุโรป ผมคิดว่าก็คงเป็นระดับที่ไม่สูงมากก่อนดีกว่า  ถ้าอย่าง โปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์, เบลเยียม อะไรประมาณนี้ก็น่าจะพอไหว คนไทยมักจะคิดว่าต้องไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แต่ผมว่าเริ่มจากไปญี่ปุ่นก่อนดีกว่ามันต้องสเต็ปบายสเต็ป เพราะระดับจากญี่ปุ่นไปลีกระดับสูงของยุโรปมันก็ยังมีช่องว่างอยู่มากเหมือนกัน

แมน : เป็นเหตุผลเรื่องความสามารถ หรือฝีเท้า เท่านั้นหรอครับ

โดมินิก : มันมากกว่านั้นอีกครับ ยังไงดีล่ะ อาหารการกิน การใช้ชีวิต ทุกอย่างมันแตกต่างหมดเลย คุณจะกินอะไร จะมีคนเลือกให้คุณหมดเลยนะ อย่างตอนที่ อาร์แซน เวนเกอร์ เข้ามาที่อาร์เซนอล เขาก็เปลี่ยนแปลงภายในทีมหมดทุกอย่างเลย ซึ่งต่อมา หลายๆ ทีมก็ปฏิบัติตามกัน สโมสรเขาจะดูแลนักเตะดีมากๆ ในเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา และโภชนาการ


แมน : เกี่ยวกับเรื่องความรับผิดชอบต่างๆ ด้วยรึเปล่า

โดมินิก : ไม่ๆ ความรับผิดชอบน่าจะเป็นเรื่องของนักเตะ แต่อันนี้เป็นเรื่องของระดับสโมสรเลย การท่าเรือเขาก็ทำอยู่นะในตอนนี้ ถือเป็นพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลย

แมน : เท่าที่ติดตามบอลไทยมาหลายปี เห็นพัฒนาการอะไรเกิดขึ้นบ้าง และคิดว่าอะไรที่อยากให้ปรับปรุงมากขึ้นไปอีก

โดมินิก : มีพัฒนาการในหลายๆ ด้านเลยครับ สโมสรก็ดีขึ้น ทีมชาติก็ดีขึ้นเหมือนกัน สิ่งที่ยังไม่ค่อยดีนักก็คือผู้ตัดสิน ผมมองว่ายังเป็นปัญหาใหญ่ของฟุตบอลในอาเซียนและเอเชียเลยล่ะ แต่บางคนก็ไม่ไหวจริงๆ ผมคิดว่าวิธีการแก้ไขก็น่าจะขยับค่าจ้างของผู้ตัดสินให้สูงขึ้นกว่านี้ เขาจะได้ทำเป็นอาชีพ มีรายได้ที่เพียงพอ 

แมน : ผมเคยคุยกับผู้ตัดสิน ในมุมมองของเขาก็บอกว่า การเป็นผู้ตัดสิน ต่อให้ดีแค่ไหน แต่ฝ่ายที่เสียประโยชน์ก็ด่าเขาอยู่ดี ทั้งที่เขาอาจจะไม่ได้ผิดพลาด หรือบางครั้งการตัดสินใจเสี้ยววินาที มันก็มีโอกาสพลาดกันได้

โดมินิก : ก็จริงครับ การเลือกมาเป็นผู้ตัดสินก็ต้องเจออะไรแบบนี้อยู่แล้ว คนที่ตัดสินดีๆ ก็มีอยู่นะ ผมจำชื่อไม่ได้ ทำงานด้วยกันนี่แหละครับ ผมเคยเจอเขามาคุมสอบ แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกัน ผมเคยเห็นข่าวว่ามีผู้ตัดสินถูกยิงที่ภาคใต้ด้วย หรือผู้ตัดสินบางคนเคยต้องคดีอาชญากรรม แต่ก็กลับมาตัดสินฟุตบอลอีก วงการฟุตบอลในอาเซียน บางทีจะมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องในการควบคุมอะไรบางอย่าง ซึ่งเรื่องแบบนี้มันก็ไม่ใช่เร่ืองดีเลย

แมน : ถามเรื่องนี้ดีกว่า ถ้าท่าเรือเป็นแชมป์ไทยลีกปีนี้ คุณจะฉลองยังไง มีอะไรพิเศษมั้ย

โดมินิก : ยังไงนะครับ ผมไม่เข้าใจคำถาม

แมน : คือแฟนบอลบางคนอาจจะโกนหนวด, โกนผม, แก้ผ้าวิ่งรอบสนามบอล หรืออย่าง แกรี่ ลินิเกอร์ ก็เคยท้าพนันว่าจะใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวจัดรายการทีวีถ้าเลสเตอร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แล้ว อาจารย์โดมินิก ล่ะ จะทำอะไรมั้ย

โดมินิก : อ๋อ ฮ่าๆๆๆ ผมคงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ ผมคงจะขอดื่มฉลองแบบ 24 ชม. ที่แพท สเตเดี้ยม กับแฟนบอลของท่าเรือ ฉลองแบบทั้งวันทั้งคืนไปเลยครับ


แมน : โอเคครับ ขอบคุณมากๆ อ.ดอม วันนี้คุยกันนานมากเลย คุณจะเอาบทความที่ผมลงไปแปลเป็นภาษาอังกฤษก็ได้นะครับ เหมือนที่เอาเรื่อง "กัปตันกลิ้ง" ไปแปล คนน่าจะสนใจอ่านเยอะเลย

โดมินิก : ครับ แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติด้วยกัน เรื่องของผมเขาอาจจะไม่ได้มองว่าน่าสนใจขนาดนั้นหรอกครับ เว็บไซต์ที่ผมทำ มีเพื่อนอีกสองคนคือ ทิม รัสเซลล์ และ ทอม เอิร์ลส์ เป็นคนเซ็ตอัพเว็บไซต์เป็นหลัก ผมจะคอยช่วยเขาหาข้อมูลเกี่ยวกับภาษาไทย และมีเพื่อนแฟนบอลที่เป็นฝรั่งคนอื่นๆ ช่วยเขียนพรีวิวและแมตช์รีพอร์ทเป็นภาษาอังกฤษด้วยครับ

แมน : เยี่ยมเลยครับ ยังไงก็ขอบคุณมากๆ  ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วไว้คุยกันอีกนะครับ

โดมินิก : ขอบคุณเช่นกันครับ ไว้ถ้าเจอกันที่สนามมาทักกันด้วยนะครับ 


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)





ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด