:::     :::

รองแชมป์ที่ควรค่าแห่งการจดจำ !

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2562 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,574
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้ลิเวอร์พูลจะไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างที่พวกเขาหวังไว้ แต่ฤดูกาลนี้ก็ยังเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาและสมควรค่าแก่การจดจำอยู่ดีนั่นล่ะครับ

          ในที่สุด บทสรุปของพรีเมียร์ลีกก็สิ้นสุดลงเสียทีนะครับ และก็อย่างที่ทุกคนทราบกันว่า ลิเวอร์พูลที่เก็บแต้มได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรถึง 97 คะแนน แต่ก็ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ได้เพียงแค่รองแชมป์เท่านั้น สุดท้ายแมนฯซิตี้ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่ง และเหมาะสมกับตำแหน่งแชมป์ครั้งนี้ มากกว่าลิเวอร์พูล จริงๆ  เมื่อพวกเขาได้คะแนนสูงถึง 98 แต้ม หลายๆ คนอาจจะล้อหรือบอกว่า “ไม่มีใครจดจำรองแชมป์” นั่นก็อาจจะจริงส่วนหนึ่งครับ แต่การเป็น รองแชมป์ของลิเวอร์พูลครั้งนี้ มันแตกต่างกันออกไปและพวกเขาก็ทำอะไรไว้หลายอย่างชนิดที่ว่า อยากจะลืมก็ลืมไม่ลงกันทีเดียวเลยล่ะ


                                   แชมป์เก่ายังรักษาแชมป์ไว้ได้ และต้องยอมรับว่าพวกเขายอดเยี่ยมจริงๆ

ลบล้างภาพเก่าๆ

          ลิเวอร์พูลนั้นมีภาพจำที่ไม่ค่อยดีซักเท่าไรครับ ถึงพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นทีมใหญ่ก็จริงแต่ถ้าว่ากันตามตรงแล้วพวกเขายังไม่ได้แข็งแกร่งหรือเป็นที่น่าเกรงขามอะไรขนาดนั้นเลย และออกจะมีภาพพจน์ว่าพวกเขาไม่ได้มีความสม่ำเสมอหรือคงเส้นคงวาแต่อย่างใด หลายๆ คำที่กองเชียร์ฝั่งตรงข้ามหยิบยกมาเช่น “ทีมโรบินฮู้ด” ที่หมายความถึงว่า เวลากับทีมใหญ่เล่นดี สู้ได้ ชนะได้ แต่ก็มาพลาดท่าเสียแต้มหรือพ่ายแพ้กับทีมเล็กๆ อย่างเหลือเชื่อบ่อยครั้งไป และมันเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนเหมือนกลายเป็นภาพลักษณ์ของลิเวอร์พูลไปแล้ว และมันก็ชวนให้สงสัยว่า ลิเวอร์พูลจะกลับไปเป็นแชมป์ได้จริงๆ น่ะหรือ จนเมื่อชายที่ชื่อเจอร์เก้น คล็อปได้ก้าวเข้ามา พร้อมบอกว่า ““สิ่งแรกที่ผมต้องทำในการคุมสโมสรแห่งนี้ นั่นคือการเปลี่ยนแฟนบอลที่กำลังลังเล สงสัย หรือไม่มั่นใจในทีม กลับมาเป็นผู้ที่เชื่อและศรัทธาต่อทีมอีกครั้ง” (We have to change from doubters to believers, Now !!)  จากวันนั้นสู่วันนี้ ผมว่าหลายๆ คนก็รับรู้ได้ไม่ยากครับ ว่าลิเวอร์พูลนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจริงๆ แม้ว่าปีนี้พวกเขาจะไม่ได้แชมป์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาแพ้ภัยตัวเอง หรือแพ้แรงกดดัน แบบที่กองแช่งหลายๆ คนดูแคลนเอาไว้ ช่วงที่การแย่งแชมป์นั้นกำลังบดบี้กันอย่างโหดเหี้ยม ทั้งลิเวอร์พูลและแมนฯซิตี้ ผลัดกันนำ ผลัดกันตามอยู่ร่วมๆ 4 เดือน ซึ่งหลายๆ คนก็คิดว่า”เดี๋ยวลิเวอร์พูลก็ไปทิ้งแต้มกับทีมเล็กๆ แล้วก็หลุดวงโคจรไปเองนั้นแหละ”  แต่เปล่าเลย  พวกเขาตอกกลับคำครหาเหล่านั้นได้อย่างยอดเยี่ยม และสามารถทำให้การตัดสินต้องมาจบลงที่เกมสุดท้ายของซีซั่น แม้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะพลาดแชมป์ไป แต่เชื่อว่าหลายๆ คนมองลิเวอร์พูลในมุมที่เปลี่ยนไปแน่นอน

                                         เจอร์เก้น คล็อปป์เข้ามาเปลี่ยนแปลงลิเวอร์พูลได้อย่างสุดยอด

ผู้สร้างสถิติ   

          ลิเวอร์พูลชุดนี้นั้นยอดเยี่ยมเพียงใด เราสามารถดูได้จากสถิติและรางวัลต่างๆ ที่พวกเขาทำได้ในซีซั่นนี้ครับ ซึ่งหลายๆ อย่างถือเป็นสถิติใหม่ของสโมสรเอง และของพรีเมียร์ลีกเลยด้วยซ้ำ   

          - อลีสซง เบ็คเกอร์  นายทวารทีมชาติบราซิลจบฤดูกาลด้วย 21 คลีนชีต ได้รับรางวัลถุงมือทองคำ และนี่คือสถิติของสโมสรลิเวอร์พูลทำลายสถิติเก่าที่เปเป้ เรน่าทำไว้ได้ ซึ่งถ้านับว่านี่เป็นฤดูกาลแรกของอลีสซงด้วยแล้วล่ะก็ ต้องถือว่าเขาเริ่มต้นได้ยอดเยี่ยมและมีอนาคตที่สดในกับลิเวอร์พูลอย่างแน่นอนครับ   



          -  เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สร้างสถิติเป็นกองหลังที่แอสซิสต์เยอะที่สุดในเกมลีก ด้วยจำนวน 12 แอสซิสต์ด้วยกัน

          -  โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้รับรางวัลรองเท้าทองคำ 2 ปีติดต่อกัน เป็นสถิติของสโมสรที่ครองร่วมกับไมเคิล โอเว่น
          -  ได้รับรางวัลดาวซัลโวประจำฤดูกาลถึง 2 คนร่วมกัน คือซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ 22 ประตู
          -  เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทั้งพรีเมียร์ลีก, พีเอฟเอ, บีบีซี และโฟร์โฟร์ทู   
          - และปิดท้ายด้วยสถิติที่ไม่ค่อยน่าพิศมัยเท่าไร คือ การเป็นรองแชมป์ที่คะแนนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ คือมีแต้มถึง 97 คะแนน




                                                          รับรางวัลส่วนตัวกันอย่างมากมาย

อนาคตของหงส์แดง

          สิ่งที่ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ได้ทำไว้ในปีนี้ จะกลายเป็นรากฐานและแรงผลักดันที่ดีในปีข้างหน้าต่อไปแน่นอนครับ อย่างที่คล็อปป์กล่าวไว้ว่า “นี่ยังไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่เป็นเพียงครั้งแรกเท่านั้น” แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาพลาดไปเล็กๆ น้อยๆ ในปีนี้นั้นจะถูกนำมาพิจารณาและแก้ไขในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน และทีมที่สุดแกร่งในฤดูกาลนี้นี่แหละครับ ที่จะเป็นรากฐานสำคัญในการเดินหน้าพัฒนาให้มากขึ้นกว่าเดิมของเจอร์เก้น คล็อปป์ แม้ว่าเจอร์เก้น คล็อปป์นั้นจะคุมทีมมา 4 ฤดูกาลแล้ว แต่ว่าก็ต้องไม่ลืมครับ ว่าเขานั้น “สร้าง” ทีมลิเวอร์พูลใหม่แทบจะทั้งหมด และค่อยๆ ประคบประหงมทีมจนทีมนั้นมีรากฐานที่ดีอย่างในทุกวันนี้ ผิดกับเป็ป กวาดิโอล่าที่ว่า เขานั้นได้รับมรดกตกทอดที่ยอดเยี่ยมมากอยู่แล้วจากเปเยกรินี่ และยิ่งบวกกับปรัชญาและการทำทีมของเป๊ปมันก็ยิ่งยอดเยี่ยมมากขึ้นไปอีก แต่อย่าลืมว่านี่คือจุดสูงสุดของเป๊ปแล้วครับ แต่กับทีมของเจอร์เก้น คล๊อปป์นั้น ผมว่าเขายังมีไฟและไอเดียในการเพิ่มเติมความแข็งแกร่งและความยอดเยี่ยมให้ทีมของเขาได้มากขึ้นกว่าในปีนี้อีกมากเลยทีเดียวล่ะครับ  และเชื่อว่าปีหน้า การแข่งขันพรีเมียร์ลีก น่าจะดุเดือดไม่แพ้ปีนี้อย่างแน่นอน



                                         การแย่งชิงแชมป์แบบนี้ของเป็ปกับคล๊อปป์ ไม่จบลงแค่ครั้งนี้อย่างแน่นอน

          พวกเขาอาจจะไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ ว่าพวกเขาเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่สิ่งที่พวกเขาทำมาทั้งฤดูกาล จะถูกบันทึกและจดจำไว้ในความทรงจำของกองเชียร์หรือคนที่รักฟุตบอลทุกคน ว่านี่คือ ทีมที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งและดีที่สุดทีมหนึ่งที่เคยมีมาทีมหนึ่ง ทีมที่มีแนวรับที่แข็งแกร่งดังภูผา เกมรุกดุดันเฉียบคบ ทีมที่มีเกมโต้กลับที่อันตรายอันดับต้นๆ ของยุโรป  และที่สำคัญคือทีมนี้มีหัวจิตหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ไม่ว่าในถถานการณ์ไหนก็ตาม รองแชมป์อาจจะไม่มีใครจดจำ แต่ผมเชื่อว่าการได้รองแชมป์ของลิเวอร์พูลในปีนี้ ไม่มีใครลืมลงแน่นอนครับ

   



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด