???

    บรรดากองเชียร์ แมนฯ ซิตี้ หรือพวกคุณทั้งหลายเคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่าปีกทีมชาติเยอรมันนั้นเก่งเกินไปจนเป็นเหตุให้เขาไม่สามารถลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ

    มีนักเตะ 3 คนที่จบพรีเมียร์ลีกซีซั่น 2018-19 ด้วยการมีตัวเลขสองหลักทั้งเรื่องของสถิติพังประตู และแอสซิสต์

    นั่นก็คือ เอแด็น อาซาร์, ราฮีม สเตอร์ลิง และ ซาเน่

    แต่มีหนึ่งคนในนั้นที่ดูไม่ปกติเหมือนกับแข้งรายอื่น

    มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียมมีซีซั่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขากับ เชลซี ซึ่งนั่นเหมือนเป็นการสั่งลาสิงห์บลูส์ พร้อมเรียกแขกรายใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด ให้เดินหน้าเข้าหา

    มันก็ไม่ได้ต่างจากนักเตะหมายเลข 7 ของถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ที่เพิ่งคว้าสองรางวัลใหญ่อย่างดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอ และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าว ซึ่งวัดจากชื่อเสียง และการยอมรับแล้วถือว่าดีกว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาเองถึงสองเท่าเลยทีเดียว

    แล้วพอมองมาที่เพื่อนของเขาอย่างซาเน่ ดาวเตะหัวฟูชาวเยอรมันมีพรสววรค์อันร้ายกาจ แต่มันก็ละลายหายไปไม่ต่างจากฝุ่นในอากาศดีๆ นี่เอง

    ซาเน่ ดูจะมีความสุขมากพอสมควรในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่แล้ว เนื่องจากเหล่านักเตะเรือใบผลัดกันถ่ายรูปกับถ้วยพรีเมียร์ลีกที่สนามเอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ล่วงเลยมาถึงช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ กับโทรฟี่เอฟเอ คัพ ที่เวมบลีย์

    แต่ทำไมเราจึงคิดว่าในใจเขาอาจไม่ได้มีความสุขกับเวลานี้เหมือนที่ควรจะเป็น

    ???

    พลพรรคเรือใบได้ยืนยันให้เห็นถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาบนเกาะอังกฤษ และสถิติ ยิง 10 แอสซิสต์ 11 ในลีกปีนี้ของ ซาเน่ ก็เป็นหลักฐานชิ้นเอกว่าเขาน่าจะประสบความสำเร็จส่วนตัวสำหรับฤดูกาลที่เพิ่งผ่านพ้นมาขนาดไหน

    แต่เขาดันไม่ใช่ช้างเท้าหน้าในห้องแต่งตัว

    แม้แข้งเมืองเบียร์จะเป็นนักเตะที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของ ซิตี้ แต่เวลาส่วนใหญ่ของปีกวัย 23 ปีนั้นมาจากซุ้มม้านั่งสำรอง

    ซาเน่ มีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนตัวถึง 20 ครั้งในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีฤดูกาลนี้ (เข้า 10 ออก 10)

    นับเวลาที่อยู่บนฟลอร์หญ้าในลีกของเขาเพียงแค่ 1,867 นาที ซึ่งน้อยกว่า สเตอร์ลิง ถึง 909 นาที และน้อยกว่า แบร์นาร์โด้ ซิลวา ช้อยส์แรกในตำแหน่งตัวริมเส้นของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึง 986 นาที

    ทีนี้เลยรุกลามมาถึงคำถามว่าอะไรคือปัญหาของ ซาเน่ ทั้งที่เอาเข้าจริงผลงานจากสถิติต่างๆ มันเข้าตามากขนาดนี้

    สเตอร์ลิง, แบร์นาร์โด้, ซาเน่ และ ริยาด มาห์เรซ ได้สลับสับเปลี่ยนเหมือนเก้าอี้ดนตรีสำหรับตำแหน่งปีกที่สามารถลงเล่นตัวจริงได้เพียงเกมละ 2 คน (เหลือ สเตอร์ลิง, ซาเน่ และ มาห์เรซ ถ้า แบร์นาร์โด้ ถูกโยกไปเล่นในแผงมิดฟิลด์)

    หากจะมองหามุมที่ปลอบใจตัวเองได้สักหน่อยก็คงด้วยคุณภาพที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของทั้ง สเตอร์ลิง และ แบร์นาร์โด้ ที่ต้องยอมรับว่ามันเหนือกว่าเขา

    แต่เขาก็ดูจะดีเกินกว่าที่จะมานั่งจับเจ่าอยู่บนม้านั่งอุ่นๆ ข้างสนาม

    แน่นอน กับเหตุการณ์แบบนี้คุณอาจคิดว่า แมนฯ ซิตี้ นั้นไม่มีความสามารถที่จะรีดฟอร์มอันสุดยอดของเขาออกมา

    แฟนบอลเองก็ไม่ได้หนุนหลัง หรือชื่นชมเขาเท่าคนอื่นๆ กับการที่เรือใบประสบความสำเร็จกวาด 3 แชมป์ใหญ่ในประเทศภายในซีซั่นเดียวอย่างลีก คัพ, พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์

    อย่างไรก็ตาม พวกเราที่อยู่นอกสโมสรอาจจะไม่ได้เห็นถึงความซับซ้อนโดยแท้จริงที่เกิดขึ้นกับสถานการณ์เช่นนี้

    ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นฤดูกาล เป๊ป เคยวิจารณ์ถึงทัศนคติของดาวเตะเยอรมัน ซึ่งความไม่ลงรอยนี้คือเหตุผลที่เขามักหายหน้าไปจากทีมตัวจริงอยู่บ่อยๆ

    โทนี่ โครส เองก็เคยตั้งคำถามต่อสาธารณชนเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ ซาเน่ จากภาษากายที่แสดงออกมาของปีกวัยรุ่นผู้นี้

    หลายคนเองก็เชื่อว่าการที่ ซาเน่ หลุดจากทีมชาติเยอรมันชุดทำศึกฟุตบอลโลก 2018 มาจากการที่ โยอัคคิม เลิฟ ไม่เชื่อมั่นใจแคแรคเตอร์ของเขา

    และจากนี้ไป ในฤดูกาลหน้า ซาเน่ จะกลับมาทวงบทบาทการเป็นคีย์แมนของเขาคืนได้หรือไม่

    ???

    อันนี้คือเรื่องที่น่าสน

    หรือว่าบางที เอเยนต์ของเขาอาจชักชวนเหล่าทีมอย่าง บาเยิร์น, ยูเวนตุส หรือยักษ์ใหญ่อื่นๆ บนเวทียุโรปให้กล้าทุ่มเงินกว่า 100 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัวเขาออกจากถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม

    ตอนนี้ ซิตี้ เองก็เก่งแค่ไหนเราก็เห็นกันหมดแล้ว และทีมจะเชื่อว่าพวกเขาน่าจะดีขึ้นกว่านี้หากไม่มี ซาเน่ หรือไม่

    ???

    นั่นคือสิ่งที่ยังไม่มีใครตอบได้

    แต่หนึ่งในสิ่งที่มันชัดเจนมาตลอดว่าเป็นปัญหาเลยก็คือทัศนคติของเจ้าตัว

    พูดแล้วก็น่าเสียดายฝีเท้า และความเก่งกาจของ ซาเน่ จริงๆ

    พาสต้า