หลายคนย่อมนึกถึงตำนานทีมชาติฮอลแลนด์, อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และเอซี มิลาน ผู้ผ่านการคว้าแชมป์ระดับสโมสรในรายการสำคัญมาอย่างมากมาย ซึ่งรวมถึงรางวัลส่วนตัว แบบนับไม่ถ้วนด้วย
ปัจจุบัน, เขาผันตัวเองมาเป็นผู้จัดการทีมแล้ว หลังจากไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรกับการคุมทีม “ปีศาจแดง-ดำ” เขาหันไปหาความท้าทายใหม่ ด้วยการคุมทีมชาติแคเมอรูน
ช่วงนี้ เราไปดูถึงมุมมองของเขาต่อการคุมทีมในทวีปแอฟริกา รวมถึงความรู้สึกต่อทีมชาติฮอลแลนด์, อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นโลกลูกหนังที่เขารู้สึกผูกพันมาตลอด
การคุมแคเมอรูน ถือเป็นการคุมทีมชาติเป็นครั้งแรกของคุณ ช่วยพูดถึงหน้าที่ความรับผิดชอบหน่อย โดยเฉพาะช่วง 9 เดือนแรก ?
“เราสามารถผ่านรอบคัดเลือก เข้าไปเล่นในแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2019 รอบสุดท้ายได้ เราจบรอบคัดเลือก ด้วยการมีคะแนนเท่ากับทีมชาติโมร็อคโก ซึ่งเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ เรามีเป้าหมาย 2 แบบ นั่นคือแนวทางที่เราเล่น และการเตรียมความพร้อมในเกม”
คุณเคยตกเป็นข่าวกับเรอัล มาดริด ในแง่ของการทำงาน ตอนนี้ คุณมาอยู่กับทีมชาติแคเมอรูน ได้อย่างไร ?
“เป็นเกียรติอย่างมาก สำหรับการตกเป็นข่าวกับสโมสรอย่างเรอัล มาดริด แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายครั้งใหญ่ ทีมชาติแคเมอรูน ถือว่าเป็นทีมที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา"
"การพลาดเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย ถือว่าเป็นความผิดหวังครั้งใหญ่ เราต้องมาเริ่มต้นใหม่ และผ่านการสร้างทีมใหม่ เพื่อการเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผมคิดว่าเราจะกลับไปประสบความสำเร็จ ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม”
หลังจากที่คุณเป็นนักฟุตบอล และเป็นโค้ช คุณมีวิธีฝึกสอนผู้เล่นชาวแอฟริกัน อย่างไร ?
“ผมว่าคล้ายกับผู้เล่นบราซิเลี่ยน มีความสนใจอย่างมากในตัวผู้เล่น แน่นอนว่า ฟุตบอลมีความหมายต่อคนในประเทศ นักฟุตบอลมีสภาพคือการเป็นไอดอล และต้นแบบของแฟนบอล ผู้คนทั้งประเทศจะหยุดการเคลื่อนไหว เพื่อมานั่งเฝ้าชมการแข่งขัน ฟุตบอลถือเป็นภาษาสากล มันเหมือนกันทุกที่ที่คุณไป”
ถือว่าเป็นการค้นพบวัฒนธรรมใหม่ ?
“นอกจากประสบการณ์ทางด้านวัฒนธรรมแล้ว ผมยังเปิดมุมมองต่อแอฟริกา ผ่านความรู้สึก และการใช้ชีวิต ยังคงมีปัญหามากมายที่นี่ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีศักยภาพ และพลังงานที่ยอดเยี่ยม มันเป็นเรื่องดี ในการเดินทางมายังประเทศเหล่านี้ เป็นเกียรติมากที่ได้เดินทางไปทั่วทวีป พร้อมกับได้ทำงานที่นี่”
คุณชวนอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่างพาทริค ไคลเวิร์ต มาร่วมงานด้วย ในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการทีม ช่วยเล่าความสัมพันธ์ของพวกคุณหน่อย ?
“เราเป็นคู่หูที่แข็งแกร่ง แน่นอนว่า เราต่างเข้าใจกันและกันเป็นอย่างดี มันคือการจับคู่ในแบบที่เราต้องการให้มันเป็น ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากในการทำงานร่วมกับเขา เรามีความสัมพันธ์ที่แสนยาวนาน”
ช่วยพูดถึงอดีตต้นสังกัดอย่างอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม หน่อยซิ ?
“ดีเอ็นเอ ปละประวัติศาสตร์ของสโมสร เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเสมอ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เต็มไปด้วยกลุ่มผู้เล่นอายุน้อย และผู้เล่นที่มีประสบการณ์ การรวมตัวกันแบบนี้ สามารถช่วยให้ผู้เล่นดาวรุ่งสามารถงัดฟอร์มการเล่นได้ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมแสดงให้เห็นถึงรสชาติของเมืองหลวงอีกครั้ง ซึ่งผมรักมันจริงๆ”
คุณรู้สึกอย่างไรกับทีมชาติฮอลแลนด์ ในการถ่ายเลือดใหม่ มาสู่กลุ่มนักเตะดาวรุ่ง ?
“ผมคิดว่ามันมีหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการฝึกสอนทั่วไป คุณสามารถสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมกับผู้เล่น และสร้างการทำงานร่วมกันได้ ผมคิดว่า องค์ประกอบเหล่านี้ถูกนำกลับมาโดยโรนัลด์ คูมัน (ผู้จัดการทีมชาติฮอลแลนด์) เขาสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ดูเหมือนว่า มันจะลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ผมหวังว่า อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และทีมชาติฮอลแลนด์ จะเดินหน้าแบบนี้ต่อไป เรามารอดูกันว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้า อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง”
