:::     :::

ลิโอเนล เมสซี่ เทียบ'ท็อปทรี'บัลลง ดอร์ 2018

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2562 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,912
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มาถึงตอนนี้บ่อนรับพนันถูกกฎหมายทุกสำนักยังคงยกให้ ลิโอเนล เมสซี่ คือเต็งหนึ่งที่จะคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ในปีนี้ไปครอง
แม้ว่าในปีนี้จะมีแค่แชมป์ลา ลีกา สเปน เพียงใบเดียวมาประดับ แทนที่จะเป็น "3 แชมป์" อย่างที่คาดหวัง แต่ผลงานส่วนตัวกับการตะบัน 51 ประตูจาก 50 เกม ก็คงไม่อาจมองข้ามกันได้
และเมื่อกลางปีนี้ไม่มีทัวร์นาเม้นต์ที่คนจับตามองอย่าง ฟุตบอลโลก หรือฟุตบอลยูโร ก็ทำให้กัปตันทีมเจ้าบุญทุ่มมีภาษีดีกว่าเพื่อนกับการก้าวไปคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมที่ใครต่างก็ใฝ่ฝันจะได้มาครอบครอง
เจ้าของตำแหน่งรางวัลบัลลง ดอร์ 5 สมัย ห่างหายไปจากรางวัลนี้นับตั้งแต่ได้มาครอบครองหนล่าสุดเมื่อปี 2015 โดยเฉพาะในปีล่าสุดที่หลุดจากสามอันดับแรกเป็นครั้งแรกเลยนับตั้งแต่ปี 2007
หากวิเคราะห์ให้ลึกลงไปอีกทั้ง 5 ครั้งนั้นในปี 2009, 1010, 2011, 2012 และ 2015 มี 2 ครั้งที่ตรงกับเวิลด์ คัพและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยในบอลโลก 2010 ที่สเปนได้แชมป์ไปครอง คะแนนโหวตเป็น อันเดรียส อีเนียสต้า กับ ชาบี เอร์นานเดซ ที่ไปแย่งคะแนนกันที่ 17.36% และ 16.48% ตามลำดับ ทำให้ เมสซี่ มีมีคะแนนโหวตที่ 22.65% เข้าป้ายได้รางวัลไปแบบหวุดหวิด

ส่วนในปี 2012 ที่แชมป์ยูโรเป็นของทัพกระทิงดุ ในปีนี้นักเตะทุกคนในทีมไม่มีใครที่โดดเด่นขึ้นมาเป็นพิเศษเลย ขนาดดาวซัลโวประจำทีมอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส ยังยิงไปแค่ 3 ลูกเท่านั้น ทำให้ เมสซี่ที่ซัดถึง 73 ลูก มากที่สุดในหนึ่งปีของอาชีพค้าแข้งคว้ารางวัลไปครอง
มาในปีนี้สถานการณ์ไม่ต่างจากที่ผ่านมามากนัก ผลงานส่วนตัวทำได้ดีเป็นปกติ ในขณะที่คู่แข่งที่เบียดแย่งกันมาตลอดอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส อาจจะมีแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา แต่ผลงานผลิตสกอร์แตกต่างจากสมัยที่ค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด เยอะอยู่มำให้ถูกมองว่าโอกาสยังห่าง
ส่วน ลูก้า โมดริช เจ้าของรางวัลคนล่าสุดแทบไม่เหลือสภาพเลยกับผลงาน "ราชันชุดขาว" ในฤดูกาลนี้ที่หมดลุ้นแชมป์ทุกรายการตั้งแต่หัววัน
คนที่โดดเด่นอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ถูกยกให้ตามมาเป็นอันดับสอง แต่เรตที่ทางบ่อนเมืองนอกเปิดออกมานั้นถือว่าห่างกันอย่างมากเลยทีเดียว

ราคาของ เมสซี่ ถูกเปิดอยู่ที่ 1/2 (แทง 2 จ่าย 1 ไม่รวมทุน) ต้องบอกว่าการเปิดแบบที่แทบจะฟันธงให้สตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่าได้รางวัลไปเลย ส่วน ฟาน ไดค์ อยู่ที่ 7/4 อันดับสามสองกองหน้าของ ลิเวอร์พูล อย่าง ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาล่า ตามมาห่างๆที่ 16/1 เท่ากัน ส่วน โรนัลโด้ อยู่ในอันดับห้าที่ราคา 25/1
แม้ว่าจะล้มเหลวไม่เป็นท่าในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แถมยังมาช้ำอีกในเกมชิงถ้วยโกปา เดล เรย์ แต่รางวัลดาวซัลโวลา ลีกา รวมถึงรองเท้าทองคำก็พอปลอบใจได้บ้าง
วันนี้ลองเทียบผลงาน 51 ประตู 19 แอสซิสต์ของ เมสซี่ เทียบกับ 3 อันดับแรกของรางวัลบัลลง ดอร์ในปีที่แล้วทั้ง ลูก้า โมดริช, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ อองตวน กรีซมันน์ ดูว่าเป็นยังไง
อันดับ 3 : อองตวน กรีซมันน์

ถือเป็นปีที่ไม่ได้เปรี้ยงปร้างอะไรมากนัก หรือจะบอกว่านี้คือปีที่แย่ที่สุดของ อองตวน กรีซมันน์ นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด เลยก็ว่าได้
ต่างจากเมื่อปีก่อนที่นอกจากจะพา "ตราหมี" คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก มาครอง แถมยังช่วยให้ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกที่รัสเซียมาครองอย่างยิ่งใหญ่
เค้าลางแห่งความแย่เริ่มมาตั้งแต่เกมแรกของซีซั่นอย่างนัดชิงถ้วยยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ที่ แอต.มาดริด จัดการเอาชนะ เรอัล มาดริด คู่ปรับทีมสำคัญ 4-2 แต่ฟอร์มส่วนตัวกลับไม่ดีนัก
ตลอดทั้งฤดูกาลนี้ กรีซมันน์ ยิงได้เพียง 21 ประตูจาก 48 เกม น้อยที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับทีมเมื่อปี 2014 
เมื่อเทียบกับ ลิโอเนล เมสซี่ แล้ว สตาร์ตราไก่ยิงน้อยกว่าถึง 30 ลูก หากจะเทียบแอสซิสต์ที่ทำไป 11 หน ก็ยังต่างกันอีก 8 ครั้งอยู่ดี เรียกได้ว่าไม่มีอะไรเทียบกันได้เลย 
เรียกได้ว่ากัปตันทีมบาร์เซโลน่ากินขาดในเรื่องของผลงานส่วนตัว
อันดับ 2 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ดาวยิงวัย 34 ปี ทำเอาแฟนบอล เรอัล มาดริด ช็อคตาตั้งด้วยการย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ยุติเส้นทางค้าแข้งในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบวไว้ที่ 9 ปี
ตลอดระยะเวลาเกือบทศวรรษในชุดสีขาวของยอดทีมจากแดนกระทิง โรนัลโด้ กวาดความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทั้งกับสโมสรและส่วนตัว โดยเฉพาะตัวเลขประตูที่ยิง 450 เกมจาก 438 นัด เฉลี่ยแล้วเกินกว่านัดละ 1 ลูก ซึ่งต้องบอกว่า "บ้าไปแล้ว"
ในขณะที่ ลิโอเนล เมสซี่ อยู่ที่เดิม (และคงไม่ไปไหน) โรนัลโด้ เผชิญความท้าทายครั้งใหญ่กับการย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ในอิตาลี ลีกที่ได้ชื่อว่าแท็คติคเกมรับแข็งแกร่งที่สุดในโลก แม้ว่าในทุกวันนี้จะไม่ได้เหนียวแน่เหมือนก่อนก็ตาม
แต่การเริ่มต้นปีแรกกับทีมให่ เพื่อนร่วมทีมใหม่ สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสก็ต้องเจอกับงานยากอยู่บ้าง แต่ผลงาน 21 ประตูจาก 31 เกมในลีกสูงสุดของอิตาลีก็ไม่ได้ขี้เหร่ โดยรวมทุกรายการก็ยิงไป 28 ลูกจาก 43 เกม
โรนัลโด้ ช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกมาครอง อันนี้แน่นอนอยู่แล้วเพราะ "ม้าลาย" ก็เหนือกว่าคู่แข่งมาแต่ไหนแต่ไร แต่ก็ยังพ่วงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอย่างไร้ข้อกังขา
28 ประตูกับอีก 10 แอสซิสต์ เมื่อเทียบกับคู่กัดตลอดกาลอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ยังถือห่างกันเยอะอยู่ และไม่แปลกที่บ่อนรับพนันถูกกฏหมายจะมองข้ามเขาไป เพราะในซัมเมอร์ก็ไม่มีทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ให้ได้เรียกคะแนนอีกแล้ว
อันดับ 1 : ลูก้า โมดริช

เจ้าของรางวัลเมื่อปีที่แล้วจากผลงานอันโดดเด่นทั้งกับต้นสังกัดอย่าง เรอัล มาดริด และทีมชาติโครเอเชียในฟุตบอลโลกที่รัสเซีย
ปี 2018 ถือเป็นปีทองของ ลูก้า โมดริช อย่างแท้จริงตั้งแต่เปิดฤดูกาล สตาร์ทีมชาติโครเอเชียยืนบัญชาเกมของ "ราชันชุดขาว" ได้อย่างยอดเยี่ยมช่วยทีมคว้าโทรฟี่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาครอง แถมยังนำทัพ "ตราหมากรุก" กรุยทางถึงรอบชิงชนะเลิศเวิลด์ คัพที่แดนหมีขาว น่าเสียดายที่พ่าย ฝรั่งเศสไป
แต่ในปีนี้กับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสโมสรถือเป็นอีกหนึ่งปัจจุบัยที่ทำให้ผลงานส่วนตัวของ โมดริช หดหายไป การที่อำลาทีมของ ซีเนดีน ซีดาน รวมถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลดทอนประสิทธิภาพของดาวเตะรายนี้ลงตามไปด้วย
จำนวนประตูอาจจะหยิบยกขึ้นมาวัดกันไม่ได้เพราะยืนกันคนละตำแหน่ง แต่ดูจากฟอร์มแล้วปีนี้ โมดริช ไม่ควรจะติดแม้แต่ 10 อันดับแรกด้วยซ้ำไป
4 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ในปีนี้อาจจะเป็นตัวเลขที่ดีกว่าในช่วงหลายปี โดยเฉพาะประตูที่ทำได้ถือว่ามากที่สุดในการเล่นให้กับ เรอัล มาดริด เลย
แต่เมื่อฟอร์มไม่ได้โดดเด่น สโมสรก็ไม่ได้มีแชมป์อะไรติดมือ ยังไงก็ถูกมองข้ามไป แต่ความสำเร็จในปีที่แล้วก็คุยได้ชั่วลูกชั่วหลานแล้ว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด