กับรายชื่อ 23 ช้างศึกชุดคิงส์คัพ ครั้งที่ 47
กระบวนความคิดการพาสเจอร์ไรซ์ขุนพลชุดสุดท้ายของ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กับแฟนบอลไปในทิศทางต่างกัน ถึงกระนั้นท่ามกลางรายชื่อที่คลอดออกมา ยังปรากฏคำถามชวนสงสัยหลายข้อ
"โค้ชโต่ย" เลือกนักเตะที่ฟอร์มการเล่น ?
ช่วงที่ผ่านมากุนซือทีมชาติไทยยกตูดเดินสายชมเกมไทยลีกนับไม่ถ้วน เพื่อเฟ้นหาผู้เล่นเข้ามาเติมเต็มในรั้วทีมชาติ จนรายชื่อล็อตแรกผุดออกมา เราพบแข้งที่ทำผลงานดีกับสโมสรอย่างมากมายมีชื่อติดทีม ถึงกระนั้นพอถึงขั้นตอนนัดตัวหา 23 คนสุดท้าย พ่อค้าแข้งเหล่านั้นกลับถูกคัดทิ้งหายเกือบเกลี้ยงแผง
บนความข้องใจของใครหลายคน นักเตะที่ทำผลงานได้ดีอย่าง ศศลักษณ์ ไหประโคน, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล หรือ พิชา อุทรา กลับหลุดจากทีม
กลับกันผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่ในฟอร์มเฟี้ยวเหมือนเก่า บางคนเป็นเพียงตัวสำรองส่วนใหญ่ แต่ดันมีชื่อ สิ่งเหล่านี้สร้างความเคลือบแคลงใจให้แฟนบอลไม่น้อย ซึ่งพวกเขาเหล่านี้มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้
ว่าที่สุดแล้วโค้ชเลือกนักเตะที่ฟอร์มการเล่นปัจจุบันขณะ หรือชื่อเสียง ประสบการณ์เก่า
เคมีลูกหนังที่ตรงกัน
ไม่ใช่แค่กับทีมชาติไทย ทว่าในวงการลูกหนังหลายประเทศ ต่างมีข้อถกเถียงกันถึงการเรียกผู้เล่นติดทีมชาติ หรือส่งลงสนาม แม้พ่อค้าแข้งเหล่านั้นอาจไม่ได้อยู่ในช่วงฟอร์มการเล่นดีที่สุด แต่กุนซือมีคู่มือ “ดึงความสามารถ” ออกมาได้ จนเป็นแข้งโปรดปรานของโค้ช ที่เลือกหยิบจับใช้งานตลอด
สิ่งที่โค้ชโต่ยกำลังทำอยู่ คงคล้ายกัน เพราะแต่ละคนต่างต้องการวัตถุดิบหยิบจับถนัดมือ มองตาก็รู้ใจ ปกครองได้ ใส่ไว้ในทีมแล้วตอบโจทย์แท็คติกตนเอง ถึงแม้โชว์ผลงานกับต้นสังกัดไม่เอาอ่าว แต่เมื่อมาอยู่ในแวดล้อมทีมชาติ กลับฉายแสงหล่อยออร่าจนไม่อาจปฏิเสธได้
บางประเทศเรียกว่า “เข้าระบบ”
เข้าตากุนซือ แต่ไม่ถูกใจแฟนบอล
ใดๆในโลกลูกหนัง วัดกันที่ผลการแข่งขัน
สิ่งที่ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ทำไม่ใช่เรื่องผิด เมื่อเขาคือผู้มีสิทธิขาดในการคัดสรรนักเตะ และ “เราต่างมีใครในใจเสมอ” แม้แข้งเหล่านั้น แฟนบอลอีกหลายคนจะไม่เห็นด้วย
หน้าที่โค้ชคือคุมทีม ไม่ใช่แคร์แฟนบอลทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้คือ “ดาบสองคม” ในอีกทาง การเลือกผู้เล่นที่ดีสุด นั่นหมายความว่าโค้ชได้วาง “เดิมพัน” กับทีมชุดนี้ไว้แล้วว่าต้องแลกมาด้วยความสำเร็จ หรือผลงานจับต้องได้
เพราะฟุตบอลวัดกันที่ผลสกอร์เป็นหลัก หาก “โค้ชโต่ย” ใช้ทรัพยากรที่เรียกมาให้เกิดประโยชน์ และนักเตะเหล่านั้นสามารถทำตามแท็คติกได้อย่างไร้ปัญหา เชื่อว่าเสียงวิจารณ์เหล่านั้น จะหายไปเองในเร็ววัน
แต่หาก “หกล้ม” พังพลาดไม่เป็นท่า จากนักเตะที่เรียกมา ขบวนผ้าป่าโซเชียลพร้อมแท็กมือรุมขย้ำเช่นกัน
เกมพบ เวียดนาม นัดแรกจะเป็นคำตอบชั้นดี
