ฤดูกาลจบลง แต่ความตื่นเต้นในช่วงซัมเมอร์ก็กลับมาเมื่อตลาดซื้อขายได้ฤกษ์เปิดทำการกันแล้ว
นักเตะที่มีชื่อคุ้นหูที่สุดแห่งหน้าร้อนนี้หนีไม่พ้น เอแด็น อาซาร์, มัทไธส์ เดอ ลิกต์, อองตวน กรีซมันน์, ปอล ป็อกบา, เนย์มาร์, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กลับมาอยู่ในหน้าข่าวแทบทุกสำนักอีกครั้ง อยู่ที่ว่าสื่อไหนจะเล่นคนไหน
สำหรับตลาดทางฝั่งของลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกโดยเฉพาะในบ้านเราอย่างพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จากเดิมที่เริ่ม 1 มิถุนายน จนถึง 30 สิงหาคม ได้เปลี่ยนเป็น 17 พฤษภาคม วันแรกที่ปิดฤดูกาลจนถึง 9 สิงหาคม ก่อนเริ่มเกมแรกของฤดูกาล หลังจากเริ่มต้นแบบนี้มาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
ทั้งบรรดาทีมใหญ่-น้อยจะได้เสริมทัพกันตามความต้องการและเม็ดเงินที่ตัวเองมือ โดยเฉพาะทีมที่ล้มเหลวก็ต้องเสริมความแข็งแกร่งกลับมาทวงตำแหน่งในลีก หรือทีมที่ดีอยู่แล้วก็ต้องรักษาสถานะของตัวเองให้ได้
หรือจะทีมน้องใหม่ที่ต้องยกระดับทีมให้สู้กับเหล่าสโมสรในลีกสูงสุดเพื่อความอยู่รอด ซึ่งมันหมายถึงเม็ดเงินมหาศาลกับการเล่นในลีกสูงสุด
บางครั้งนักเตะค่าตัวแพงไม่จำเป็นว่าจะเล่นดีเสมอไป เช่นเดียวกัน นักเตะค่าตัวถูกก็สามารถสร้างความตกตะลึกจากผลงานที่คุ้มค่าเกินเม็ดเงินที่แต่ละสโมสรลงทุนไป
ซึ่งต้องบอกว่าบางครั้ง สโมสรไม่จำเป็นไม่ต้องเสียเงินเลยแม้แต่บาทเดียวกับการได้นักเตะดีๆสักคนมาร่วมทีม
วันนี้จัดให้กับ 11 แหน่งอย่างครบครัน สำหรับนักเตะที่จะย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัวจากพรีเมียร์ลีกซัมเมอร์นี้
ผู้รักษาประตู : มิเชล ฟอร์ม
ผู้รักษาประตูวัยเก๋าแต่ฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา แม้ว่าจะไม่ได้เห็นหน้ากันบ่อยนักจากการเป็นแค่ตัวสำรองของ อูโก้ โยริส ในทีม สเปอร์ส
มิเชล ฟอร์ม ย้ายมาอยู่กับ "ไก่เดือยทอง" ตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นตัวสำรองต่อจาก โยริส แต่เจ้าตัวก็นอโอกาสอยู่ข้างสนามอย่างอดทนและพร้อมทำหน้าที่เสมอยามที่เจ้านายต้องการ
แต่ในเมื่อนายทวารตราไก่รักษาผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องก็เป็นเรื่องยากที่จะสอดขึ้นไปเป็นมือหนึ่งของทีม โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีกับทีมได้ลงเล่นเพียงแค่ 47 เกมเท่านั้นรวมทุกรายการ
ยิ่งทีมมี เปาโล กาซซานิก้า เข้ามาด้วยก็ทำให้ตัวเลขในการลงเล่นน้อยลงไปอีก แต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะ ฟอร์ม เตรียมที่จะหาสโมสรใหม่หลังจบฤดูกาลนี้อยู่แล้ว
ในฐานะผู้รักษาประตูอายุ 35 ปีไม่ได้ถือว่ามากมายอะไรนัก บางคนอยู่เฝ้าเสาได้ถึง 40 เรียกได้ว่ายิ่งแก่ ยิ่งเก๋า และประสบการณ์ของมือกาวรายนี้กับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษก็มีไม่น้อย
ถือเป็นทางเลือกที่ดีให้กับเหล่าสโมสรเล็กๆที่ต้องการผู้รักษาประตูมือดีที่เป็นตัวทั้งตัวจริงและคอยสแตนบายด์ให้กับสโมสรได้
กองหลัง
แบ็คซ้าย : เลห์ตัน เบนส์
อีกหนึ่งแข้งประสบการณ์สูงที่มีประสบการณ์คาแข้งในลีกอังกฤษมานานเกือบ 20 ปี โโยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกก็ปาเข้าไป 14 ปีแล้ว
จากสภาพร่างกายที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บในช่วงหลังทำให้หลุดจากตำแหน่งในทีม เอฟเวอร์ตัน ไปในฤดูกาลนี้ โดยมีโอกาสลงเล่นเพียงแค่ 8 เกมเท่านั้น
ครั้งหลัง เบนส์ เคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดของทีมชาติอังกฤษ โดยเคยอยู่ในทีมชุดยูโร 2012 และฟุตบอลโลก 2014 มาแล้ว
กองหลังที่อายุจะครบ 35 ปีในเดือนธันวาคมนี้ ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องอนาคต โดยทาง "ทอฟฟี่" ต้นสังกัดพร้อมยื่นข้อเสนอ 1 ปีตอบแทนความจงรักภักดีที่รับใช้ทีมมากว่า 12 ปี แต่เจ้าตัวเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ
แม้อายุจะมากแล้วและต้องเล่นในตำแหน่งที่ต้องใช้พละกำลังในการวิ่งอยากมาก แต่การได้นักเตะแบบนี้ไปร่วมทีมน้องจากจะช่วยทีมได้มากแล้ว ยังสามารถใช้ประสบการณ์ช่วยเหลือทีมรวมถึงการใช้ประสบการณ์สั่งสอนรุ่นน้องในทีมได้ด้วย โดยเฉพาะในตำแหน่งเดียวกันนี่แหละ
เซนเตอร์ : แกรี่ เคฮิลล์
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า แกรี่ เคฮิลล์ จะย้ายออกจาก เชลซี แบบไม่มีค่าตัวหลังจากที่เจ้าตัวออกมายืนยันด้วยตัวเอง
อันที่จริงอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษเป็นข่าวเรื่องย้ายทีมมาตลอดตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ที่รอมาถึงจุดนี้แล้วก็สามารถย้ายทีมได้แบบฟรีๆแล้ว
เนื่องจากไม่เป็นที่ชื่นชอบของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ จนกลายเป็นตัวเลือกอันดับ 4 ในตำแหน่งเซนเตอร์ และไม่ว่านายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ก็ตาม เจ้าตัวก็จะย้ายทีมแน่แล้ว
ในวัย 33 ปี เคฮิลล์ ถือเป็นหนึ่งในกองหลังที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คว้าแชมป์มาแล้วทุกรายการกับ "สิงห์บลูส์" ทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, ยูโรปา ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เรียกได้ว่าการได้อดีตเซนเตอร์โบลตันรายนี้ไปร่วมทีม และแถมไม่มีค่าตัวด้วย จะถือเป็นโบนัสของทีมนั้นเลย
เซนเตอร์ : ฟิล จากีลก้า
อีกหนึ่งกองหลังของ เอฟเวอร์ตัน ที่ร่วมหัวจมท้ายกับทีมมายาวนาน 12 ปีเช่นเดียวกับ เลห์ตัน เบนส์ แต่ที่แน่นอนก็คือเจ้าตัวออกมายืนยันว่าแยกทางกับสโมสรแน่นอนหลังหมดสัญญา
ด้วยวัย 36 ปีแล้วทำให้ทาง มาร์โก้ ซิลวา เลือกที่จะให้กัปตันทีมรายนี้นั่งอยู่ข้างสนามซะมากกว่า ก่อนจะเพิ่งได้มาลงสนามในช่วงท้ายฤดูกาล เหมือนกับว่าเป็นการเล่นสั่งลาแฟนบอล
เกือบ 400 เกมในสีเสื้อทอฟฟี่กับการช่วยทีมทำประตู 19 ลูก จากนักเตะระดับแชมเปี้ยนชิพก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีติดอันดับต้นๆของพรีเมียร์ลีก และติดทีมชาติอังกฤษมาแล้วถึง 40 เกม
ด้วยประสบการณ์ที่ล้นเหลือ และเจ้าตัวก็ยืนยันแล้วว่าจะยังคงโลดแล่นในสนามต่อไป ซึ่งคาดว่าอาจจะกลับไปอยู่กับต้นสังกัดเก่าอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้ในซีซั่น 2019/20
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงคงเป็นการปิดจ๊อบที่เหมือนฝันสำหรับ ฟิล จากีลก้า ที่เริ่มต้นอาชีพกับทีม "ดาบคู่" และไปปิดฉากเส้นทางลูกหนังที่นั่น
แบ๊คขวา : อันโตนิโอ วาเลนเซีย
แบ็คขวาจอมแกร่งเจ้าของฉายา "พี่แข็ง" ของเหล่าแฟนบอลที่นอกจากสไตล์การเล่นที่ทื่อๆแล้ว ความแข็งแกร่งของพี่เค้าก็ถือว่าไม่เป็นรองใครเหมือนกัน
แม้จะอยู่ในฐานะกัปตันทีมทัพ "ปีศาจแดง" แต่เมื่อสัญญากำลังจะหมดลงและไม่มีข้อเสนอจากต้นสังกัด เจ้าตัวก็ออกมายืนยันว่าจะอำลาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังอยู่รับใช้สโมสรมาครบทศวรรษพอดี
เรื่องประสบการณ์ไม่ต้องห่วงเพราะเล่นในลีกผู้มาเกินกว่า 10 แต่บวกพิเศษใส่ไข่เข้าไปกับการที่เคยเล่นในเวทีใหญ่ของยุโรปอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาแล้ว ถือว่าหากันไม่ได้ง่ายๆ
แม้อายุจะบอกไปบ้าง แต่สภาพร่างกายต้องบอกว่า "ฟิตปั๋ง" ใครได้ตัวไปร่วมทีมต้องบอกว่าไม่ผิดหวัง
กองกลาง
อันเดร์ เอร์เรร่า
ของดี เล่อค่า ที่ไม่ได้มีมาบ่อยๆสำหรับนักเตะอย่าง อันเดร์ เอร์เรร่า ที่ต้องบอกว่าถึงตอนนี้ยืนยันอำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรียบร้อยท่ามกลางเสียงบ่นเสียดายกันระงมของเหล่าสาวก "เร้ด อาร์มี่"
การที่ "ปีศาจแดง" ไม่ต่อสัญญากับตัวอย่างมิดฟิลด์ชาวสเปนนำมาซึ่งสโลแกน "ของดีปล่อยออก ของกระจอกต่อสัญญา" เพราะนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมจาก แอธเลติก บิลเบา ในปี 2014 เอร์เรเร่ ขยันแลพทุ่มเทเต็มที่เสมอยามอยู่ในสนาม
นอกจากจะอ่านเกมดี ตัดเกมได้ เขายังมีจังหวะสอดขึ้นมาลุ้นประตูได้อยู่เรื่อยๆ แต่เมื่อทีมมีกองกลางอย่าง ปอล ป็อกบา ที่ตอยสอดทะลุไปแล้ว ดูเหมือนว่าทีมจะมองว่าไม่จำเป็นต้องมี เอร์เรร่า
ในวัยเพียง 29 ปี สตาร์จากแดนกระทิงดุสามารถยืนระยะได้อีกสบาย แม้ว่าจะติดตรงที่ค่าเหนื่อยอาจจะสูงไปบ้าง แต่จากฟอร์มการเล่นที่แสดงออกมากับผีแดงต้องบอกว่า "เอามาเถอะ"
ฆวน มาต้า
อีกหนึ่งแข้งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สามารถใช้คำว่า "ยอดแข้ง" กับประสบการณ์ล้นหลาม กวาดแชมป์แทบทุกรายการ จะขาดหายไปก็แค่ถ้วยพรีเมียร์ลีกที่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา
กับตัวเลขอายุ 31 ปี ซึ่งถือว่ากำลังดีซึ่งทีเด็ดมีพร้อมทั้งการสอดเข้าไปยิง, แอสซิสต์ หรือ ฟรีคิก ก็พร้อมจัดให้ได้หมดและเคยทำให้เห็นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
แข้งชาวสเปนมาเล่นในลีกผู้ดีมาตั้งแต่ปี 2011 กับ เชลซี และเป็นขุนพลสำคัญของสโมสรจนกระทั่งย้ายมาอยู่กับ "ปีศาจแดง" ก็ยังเป็นนักเตะตัวหลักมาตลอดกับผลงานยิงประตูในแต่ละฤดูกาลที่ถือว่าไม่น้อยเลย
45 ประตูจาก 218 เกมทุกรายการ เป็นตัวเลขที่บ่งบอกว่าเขายังมีดีพอกับการค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก โดยในฤดูกาลที่ผ่านมาก็ฝากผลงาน 6 ประตูเอาไว้แม้จะเห็นหน้าบ้างไม่เห็นบ้าง
ของฟรีแบบนี้หายาก ใครต้องการเพลย์เมกเกอร์ระดับมันสมองติดต่อด่วน
ซามีร์ นาสรี่
หลังจากพ้นโทษแบนยาว 18 เดือน ซามีร์ นาสรี่ กลับมาเรียกความฟิตกับ เวสต์แฮม จนกระทั่งเซ็นสัญญาระยะสั้นเมื่อเดือนมกราคมจนจบฤดูกาลที่ผ่านมา
กับโอกาสลงเล่นเพียง 5 เกมในลีกกับอีก 1 เกมในเอฟเอ คัพ กับปัญหาอาการบาดเจ็บที่น่องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เพราะร้างสนามไปนาน แต่ก็ยังมีแอสซิสต์มาฝากแฟนๆอยู่สองครั้ง
ถ้าพูดถึงประสบการณ์ต้องบอกว่ามีล้นเหลือ เคยอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย รวมถึงเคยเล่นกับ อาร์เซน่อล และการค้าแข้งในบ้านเกิดกับ มาร์กเซย และ เซบีย่า ในสเปน
กับอายุหลัก 31 ปี ไม่เยอะไม่น้อย แม้อาจจะต้องฟื้นสภาพร่างกายให้กลับาเต็มที่เหมือนเดิม แต่หากได้โอกาสลงสนามอยู่เรื่อยๆก็คงกลับมาเหมือนก่อนได้
กองหน้า
ไรอัน บาเบล
กลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกเป็นหนที่สองหลังจากที่เคยร่วมเล่นกับ ลิเวอร์พูล ก่อนออกไปหาความท้าทายกับหลายทีมทั้ง ฮอฟเฟ่นไฮม์, อาแจ็กซ์, คาซิมปาซ่า, อัล ไน์, ลา กอรุนญ่า และ เบซิคตัส
เรียกได้ว่าย้ายทีมแทบทุกปีก่อนจะมาลงเอยกับ ฟูแล่ม ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วยสัญญาจนจบซีซั่น
ต้องบอกว่าตัวเลขผลงานถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวกับการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 16 เกม ยิงได้ 5 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้อยู่เรื่อยๆ
คงจะเป็นการดีที่เราจะยังได้เห็น บาเบล อยู่สร้างสีสันในพรีเมียร์ลีกต่อไปในฤดูกาลหน้า อาจจะไม่ใช่กับทีมใหญ่ แต่ในทีมเล็กกับทีมระดับกลางเชื่อว่ามีหลายทีมที่พร้อมดึงเจ้าตัวไปร่วมทีมแน่
แดนนี่ เวลเบ็ค
อีกหนึ่งแข้งคุณภาพที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะถูกปล่อยออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว
แดนนี่ เวลเบ็ค ถือเป็นกองหน้าที่มีฝีเท้าไม่ธรรมดา มีทั้งความเร็ว มีลูกเล่น มีการจบสกอร์ที่ดี และช่วยเหลือเพื่อนได้ เพียงแต่ปัญหาก็คือเรื่องของอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับ อาร์เซน่อล
ดาวยิงวัย 28 ปีหายหน้าไปจากทีมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยลงเล่นไป 14 เกมทุกรายการ ยิงไป 5 ลูกกับ 1 แอสซิสต์ ก่อนจะได้รับการยืนยันจากสโมสร "ปืนใหญ่" ว่าจะไม่ต่อสัญญา
นับตั้งแต่ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแค่ปีเดียวเท่านั้นที่ เวลเบ็ค ลงสนามในพรีเมียร์ลีกถึงหลัก 30 เกมย้อนกลัยไปในปี 2011/12
แต่ผลงานกับ อาร์เซน่อล แม้จะได้ลงเล่นบ้างไม่ได้เล่นบ้าง เวลเบ็ค ก็ยังมีประตูมาฝากอยู่ทุกปี หากไม่มีปัญหาเรื่องเจ็บขึ้นมาต้องบอกว่านี่คือกองหน้าที่สามารถเล่นได้กับทุกทีมในอังกฤษเหมือนกัน
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
เพิ่งจะชูถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับสโมสรไปสดๆร้อนๆสำหรับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ก่อนที่ล่าสุดทางสโมสรจะยืนยันว่าแข้งชาวอังกฤษจะไม่ได้รับการต่อสัญญาที่จะหมดลงในเดือนนี้
เช่นเดียวกับ แดนนี่ เวลเบ็ค ปัญหาของสตาร์วัย 29 ปีก็คือเรื่องปัญหาบาดเจ็บที่คอยรบกวนอยู่ตลอด ถึงขนาดที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอมรับว่าเสียดายฝีเท้าอันยอดเยี่ยม
สเตอร์ริดจ์ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่เล่นด้วยสมองและมักจะมีลูกยิงสวยๆมาฝากแฟนๆอยู่เสมอ แต่ก็เพราะเรื่องเจ็บนี่แหละที่ทำให้เหล่า "เดอะ ค็อป" เซ็งไปตามๆกัน
ผลงาน 67 ประตูจาก 160 เกมอาจจะดูไม่เยอะมาก แต่ก็ไม่น้อยเมื่อเทียบกับสถิติช่วงหลังที่ส่วนใหญ่จะลงเล่นในฐานะตัวสำรอง โดยเฉพาะในฤดูกาลที่แล้วที่ลงเล่นเต็ม 90 นาทีเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้นในพรีเมียร์ลีก
สำหรับตอนนี้ดูเหมือนร่างกายของเจ้าตัวจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องเจ็บมากวนใจอีก ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทั้งตัวเองและสโมสรที่จะดึงตัวไปร่วมทีมด้วย
