:::     :::

เปิดอกคุย "กาซอร์ล่า"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ซานติ กาซอร์ล่า เคยเกือบต้องตัดขาทิ้งเพราะอาการบาดเจ็บเรื้อรัง แต่วันนี้เขากลับมาเล่นฟุตบอลที่รักได้อีกครั้งและทำได้ดีอย่างเหลือเชื่อจนกระทั่งกลับไปติดทีมชาติสเปนเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี

หนึ่งปีเต็มในการคัมแบ็กกลับมาหวดลูกหนัง กาซอร์ล่า ทำให้ทุกคนเห็นว่าเขามีหัวใจที่แข็งแกร่งเพียงใด บางคนคงหมดอาลัยตายยากไปนานแล้วหากต้องนอนรักษาตัวบนเตียงเกือบ 2 ปี

แข้งพรสวรรค์สละเวลาช่วงเข้าแคมป์กับทัพกระทิงดุชุดเตรียมทำศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก มานั่งพูดคุยและเปิดใจถึงความรู้สึกมากมายที่เกิดขึ้น

แล้วเราจะได้เข้าใจว่าหากเราสู้และไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา อุปสรรคใดๆ ก็ขัดขวางความพยายามของคนเราไม่ได้จริงๆ 


Q : คุณเคยคิดหรือไม่ว่าจะกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง 

A : ไม่ ไม่เลย ผมเคยคุยกับคนที่คอยช่วยเหลือผมฟื้นฟูร่างกายที่ซาลามันก้า และมันคาดไม่ถึงหรอกกับสิ่งที่เราต้องเจอใน 2 ปีที่ผ่านมา 


นั่งเปิดใจกับนักข่าวสาว

Q : จริงๆ แล้วคุณคิดอย่างไร? 

A : ผมคิดอยู่เสมอถึงการกลับมาเล่นฟุตบอลระดับสูงสุดอีกครั้ง เพราะงั้นก็คงรีไทร์ไปแล้ว ดังนั้นจึงผมฝึกซ้อมเพื่อสิ่งนี้ 


Q : คุณหมอที่อังกฤษบอกคุณว่าแค่กลับมาเดินเล่นกับลูกชายที่สวนหลับบ้านได้ก็ดีมากแล้ว...

A : ใช่ครับ มีข่าวเล็กน้อยช่วงแรกก่อนที่ความเจ็บปวดจะเริ่มขึ้น ทว่าผมไม่ได้มองว่ามันเป็นสิ่งเลวร้าย ผมคิดอยู่เสมอว่าจะหายแน่นอน" 


Q : มันคือช่วงเวลาที่แย่ที่สุดใช่ไหม?

A : ผมเจอช่วงเวลายากลำบากมากมาย ผมจำเป็นต้องจากภรรยาและลูกเพื่อไปรักษาตัวที่ซาลามันก้าและวิตอเรีย ผมเคยคลุ้มคลั่งหลายต่อหลายครั้งที่โรงแรม บางครั้งการฟื้นตัวก็ดีขึ้น บางครั้งก็ทรงตัว แต่กำลังใจสำคัญของผมก็คือคนที่ผมรัก ผมทนต่อความเจ็บปวดได้เพื่อพวกเขา


Q : ไม่มีคุณหมอคนใดการันตีได้ว่าคุณจะกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีก?

A : ไม่เลย  ว่ากันตามจริงเลยนะ คุณหมอเชื่อมั่นในงานตัวเอง พวกเขาต้องมองตามความเป็นจริง มันมีบางเวลาที่ผมเคยคิดจะยอมแพ้ แต่ก็มีแรงกระตุ้นในวันต่อมาและพยายามต่อไป 


กลับมาเล่นฟุตบอลที่รักอีกครั้งกับบียาร์เรอัล

Q : มีคนใกล้ชิดพยายามบอกกับคุณว่าให้ลืมเรื่องกลับมาเล่นฟุตบอลหรือไม่ ? 

A : ไม่นะ เพราะมันไม่มีประโยชน์สำหรับผม ครอบครัวรู้ว่าผมจะพยายามอย่างถึงที่สุด ไม่อย่างนั้นผมคงเสียใจในวันข้างหน้า เราหาหนทางในทุกอย่าง ผมเองก็ไม่ต้องการทิ้งโอกาสใดๆ ทั้งสิ้น ผมสู้เพื่อสิ่งเหล่านี้ ผมคิดแล้วคิดอีกตอนอยู่คนเดียวในโรงแรม ผมได้ดูเกมมากมาย และเป้าหมายเดียวของผมคือกลับไปลงสนามให้ได้" 


Q : บียาร์เรอัลต้อนรับคุณกลับบ้าน

A : มันเป็นที่ที่วิเศษเพราะพวกเขาไม่ได้เร่งรับให้ผมตัดสินใจ พวกเขารับฟังในสิ่งที่ผมบอก พวกเขาทำให้มันออกมาง่ายมากๆ สำหรับผม ผมไม่จำเป็นต้องไปสโมสรทุกวันในช่วงที่กำลังฟื้นฟูร่างกาย ผมซาบซึ้งใจบียาร์เรอัลอย่างยิ่ง หลังผ่าน 2 ปีที่รักษาตัวไปได้ ความหวาดกลัวหายไปและผมรู้สึกว่าเป็นนักฟุตบอลอีกครั้ง ผมเริ่มลุยในทันทีและทุกอย่างก็รุดหน้าได้เร็วมาก" 


Q : บางคนอาจคิดว่าคุณบ้าไปแล้ว

A : ภาพข้อเท้าผมพูดถึงกันเยอะมากและมีแต่คนถามว่าผมไม่เจ็บเหรอ ผมปรับตัวเข้ากับความเจ็บปวด ผมเจ็บเท้าซ้ายเพราะว่าผมต้องใช้ขาซ้าย กล้ามเนื้อน่องและแฮมสตริงรับน้ำหนักเยอะเพราะผมใช้ขาข้างนี้มาก ตอนนี้ความเจ็บที่สุดผ่านไปแล้ว และนั่นก็คือส่วนที่งดงามที่สุด

 ต้องเลาะเอาเนื้อแขนมาแปะที่ข้อเท้าซึ่งผ่าตัดจนพรุน

Q : ลึกๆ แล้ว คุณเชื่อหรือไม่ว่าจะลงเอยได้แฮปปี้แบบนี้? 

A : มันเป็นการได้รับรางวัลตอบแทนในสิ่งที่เราทำ แต่มันเกิดขึ้นเร็วนะ ผมจะเห็นคุณค่ามากขึ้นเมื่อถึงวันที่ต้องรีไทร์ ช่วงที่ผ่านมา ผมโฟกัสกับฤดูกาลที่ยากลำบากของบียาร์เรอัล ไม่ใช่สนใจแต่ตัวเอง? 

 

Q : คุณคิดว่าอาการบาดเจ็บทำให้คุณแกร่งขึ้นในฐานะคนคนหนึ่งไหม? 

A : เราแข็งแกร่งกว่าเดิม สิ่งเดียวที่ผมต้องการคือกลับมาทำในสิ่งที่ชอบ ทุกหมดก็เพื่อความฝันที่มี


Q : เล่าถึงเกมแรกกับบียาร์เรอัลให้ฟังหน่อย...

A : มันเป็ฯช่วงเวลาที่พิเศษจริงๆ ตอนแรกก็กลัวนะว่าจะไม่สารถทำได้ตามมาตรฐาน ตัวผมเองรู้สึกว่าทำได้โอเค แต่ก็ไม่รู้นะว่ามองจากนอกสนามเป็นอย่างไร อาดรีน่าลีนทำให้ความกลัวที่มีหายไป ฆวน การ์ลอส เอร์นานซ์ นักกายภาพมาดูผมเล่นด้วย และเขาก็เอามือกุมหัวเลยตอนที่ผมพุ่งเข้าบอลจังหวะ 50-50

 

Q : คุณกลัวที่จะบาดเจ็บอีกครั้งไหม?

A : จากวันนั้นมาก็ไม่เลย หลังเกมกับเรอัล โซเซียดาด ผมไม่เคยมีปัญหาบาดเจ็บอีกเลยในเวลาที่เข้าแย่งบอล

 กลับสู่ทีมชาติครั้งแรกในรอบ 4 ปี

Q : คุณรู้สึกเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้

A : มันแปลกจริงๆ นะ คือมีความสุขแต่ก็กังวลอยู่เช่นกัน ย้อนไปหนึ่งปีครึ่ง เราจินตนาการไม่ได้เลยกับการได้มาเล่นทีมนี้หรือแม้กระทั่งเดินด้วยปลายเท้า ผมต้องทำความคุ้นเคยกับความรู้สึกเหล่านี้อีกครั้ง

 

Q : คุณได้ข้อคิดอะไรจากการบาดเจ็บหนักไป 2 ปี?

A : ผมยังเป็นคนเดิม แต่ก็มีคนมักบอกว่าผมมองโลกแง่บวกมากไป ผมหมายถึงว่ามันสำคัญนะ ผมไม่เคยกลัวอาการบาดเจ็บที่เคยมี และการมองโลกแง่ดีช่วยผมได้ ช่วยให้ผมก้าวผ่าน สิ่งเดียวที่ผมอยากจะบอกกับทุกคนคือให้สู้จนถึงที่สุด


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด