ทั้งสองฝ่ายตกเป็นข่าวมานานก่อนจะตกลงปลงใจร่วมงานกัน ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเท่านั้น

ว่ากันว่านี่คือนักเตะที่ไรอัน กิ๊กส์ ตำนานของสโมสรปิศาจแดงที่ตอนนี้รับหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติเวลส์แนะนำมายังสโมสร และการันตีว่าเจ้าหนูรายนี้มีดีที่จะก้าวมาเป็นแข้งแกนหลักของสโมสรแน่นอน

นั่นคือเรื่องอนาคต แต่สิ่งที่สำคัญคือตัวนักเตะเองที่จะได้โอกาสก้าวเข้ามายังเวทีที่สูงกว่า และเต็มไปด้วยความคาดหวังที่หนักอึ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ เจมส์ ต้องฟันฝ่าและพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าตนเองมีดีมากแค่ไหน

มันเป็นแรงกดดันของนักเตะทุกคนที่ย้ายไปยังสโมสรใหม่ และยิ่งหนักอึ้งไปกว่าเดิมเมื่อแปะชื่อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าไปด้วย เพราะไม่เพียงแฟนบอลที่ต่างจับจ้อง บรรดาสื่อก็พร้อมที่จะกระทืบซ้ำและชำแหละนักเตะยามที่ทำผลงานน่าผิดหวัง

สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นเสมอและเป็นเหมือนด่านสำคัญอีกหนึ่งด่านที่นักเตะต้องผ่านไปให้ได้และกลบเสียงวิจารณ์ตรงนั้น

ยิ่งเป็นดาวรุ่งด้วยแล้วยิ่งต้องรับมือกับเรื่องนี้ให้ดี เพราะเกราะป้องกันของพวกเขามีน้อยและอาจจะโดนธาติไฟเข้าแทรกแบบไม่ยาก

อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ทีมมีผู้จัดการทีมอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เชื่อว่าเขาจะนำเอาความรู้และวิชาที่เรียนมาจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาใช้ปกป้องนักเตะและพยายามทำให้บรรดาแข้งเก่าและใหม่มีสมาธิกับการทำผลงานในสนาม

จะว่าไปแล้วนอกจากนักเตะที่ต้องรับแรงกดดัน โซชา เองก็คงโดนจับจ้องไม่แพ้กันเพราะนี่กำลังจะเป็นฤดูกาลแรกแบบเต็มตัวหลังจากที่เขามายังสโมสรเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาพร้อมกับผลงานที่เหมือนฝัน ทว่ามันค่อยๆจางหายไป และเป็นความจริงที่ว่าผลงานของทีมพลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ฤดูกาล 2019/20 จะเป็นฤดูกาลที่ โซลชา ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มกำลัง เพราะมันคือฤดูกาลที่เขาต้องพิสูจน์ตนเองรวมไปถึงผลักดันทีมไปในทิศทางที่หลายคนคาดหวัง โดยเฉพาะผลงานที่ต้องดีกว่าที่ผ่านมา

แน่นอนว่ากุนซือชาวนอร์เวย์มีทิศทางที่ชัดเจนและเน้นย้ำมาเสมอว่าอยากพาทีมไปในทิศทางไหน แนวทางการสร้าง, นักเตะที่ต้องการ, วิธีการเล่น รวมไปถึงการจัดการเรื่องต่างๆ เป็นสิ่งที่เขาและทีมต้องวางแผนให้เสร็จสรรพก่อนที่จะเรียกนักเตะกลับมารายงานตัว

สิ่งที่น่าจับตามองในขั้นตอนเหล่านี้คือ 'นักเตะใหม่' ที่ทีมจะดึงเข้ามา เพราะนอกจาก แดเนี่ยล เจมส์ แล้ว เชื่อว่า ปิศาจแดง จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ และน่าจะมีอีก 2-3 รายเข้ามาเป็นอย่างน้อย

เรื่องนี้แฟนบอลต่างมีความเห็นที่แตกต่างกันไป หลายคนต้องการดาวดังระดับโลกเพื่อเข้ามายกระดับสโมสร ชื่อของ เซร์คิโอ รามอส, ราฟาแอล วาราน, แกเร็ธ เบล, เปาโล ดีบาล่า, ฮาเมส โรดรีเกซ หรือ อองตวน กรีซมันน์ ถูกโยงกับการย้ายมาเล่นใน  โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ไม่เว้นแม้แต่เกรดรองลงมาอย่าง โทบี้ อัลเดร์แวเรลด์, กาลีดู กูลิบาลี่, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, อารอน วาน-บิสซาก้า, ชูเอา กานเซโล่, โธมัส เมอนิเย่ร์ และ บรูโน่ แฟร์นานเดส หรือจะเป็นดาวรุ่งอย่าง ชูเอา เฟลิกซ์ และแข้งฟรีที่หมดสัญญา อาเดรียง ราบิโอต์ 

นั่นคือส่วนหนึ่งที่ตกเป็นข่าวกับ ปิศาจแดง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในทุกช่วงตลาดซื้อขายนักเตะที่จะมีนักเตะทั่วยุโรปถูกโยงกับทีมดังของแมนเชสเตอร์

กระนั้นหากถามความเห็นไปยัง เวย์น รูนี่ย์ ตำนานกองหน้าของ ยูไนเต็ด เขากลับมองว่า 'เงิน' ไม่ใช่ทางออกของปัญหาในการพลิกฟื้น ปิศาจแดง ในตอนนี้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการเสาะหานักเตะที่มี 'ความกระหาย' และ 'ศักยภาพ' เข้ามาในทีม

และที่สำคัญคือ 'เวลา' ที่ทุกคนในสโมสรต้องมอบให้กับ โซลชา เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้ที่กุนซือชาวนอร์เวย์จะพลิกฟื้นสโมสรได้ในระยะเวลาเพียงปีเดียว

"สำหรับ โอเล่ ผมคิดว่าสิ่งแรกที่เขาต้องทำคือพยายามและสร้างทีม" ดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสรระบุ และเผยต่อว่าการดึงนักเตะ 1 หรือ 2 คนที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านปอนด์มาร่วมทีมไม่ใช่ทางออกและไม่สามารถช่วยทีมในตอนนี้ได้

สิ่งสำคัญที่ รูนี่ย์ คิดว่า ยูไนเต็ด ต้องการและดำเนินไปคือการมองหาและดึง 'ดาวรุ่ง' หรือนักเตะที่มี 'ศักยภาพ' ประมาณ 5--6 คน ซึ่งทีมไม่ต้องลงทุนมาก

"ผมคิดว่าเขาต้องพยายามและมองไปถึงการดึงนักเตะ 5-6 คนที่มีศักยภาพที่จะก้าวไปเป็นนักเตะระดับสูง แต่คุณต้องไม่จ่ายเงินแลกกับนักเตะคนใดคนหนึ่งมากถึง 120 หรือ 130 ล้านปอนด์"

"ผมคิดว่าคุณจ่ายค่าตัวแต่ละคน 30 หรือ 40 ล้านปอนด์ และจากนั้นพยายามพัฒนาพวกเขา ซึ่งทำให้คุณมีเวลากับนักเตะที่นานขึ้นและทำให้คุณสร้างทีมจากนักเตะที่มาใหม่ทั้ง 5 หรือ 6 คนนี้ รวมไปถึงนักเตะที่อยู่ในทีมอยู่ก่อนแล้ว"

อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษมองว่านั่นคือสิ่งที่ โซลชา และสโมสรน่าจะดำเนินและปฏิบัติไปตามนั้น เพราะมุมมองของแข้งรายนี้เชื่อว่าถึงทีมจะทุ่มเงินดึงแข้งระดับโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ ลีโอเนล เมสซี่ เข้ามาก็ไม่ได้ช่วยให้ทีมดีไปกว่าฤดูกาลที่แล้ว

"คุณสามารถดึง โรนัลโด้, เซร์คิโอ รามอส และ เมสซี่ เข้ามา หรือแม้แต่ แกเร็ธ เบล มันมีค่ามากถึง 300 หรือ 350 ล้านปอนด์ แล้วคุณจะได้อะไรล่ะ? บางที โรนัลโด้ อาจจะเหลือเวลาเล่นอีก 2 ปี และอีก 2-3 ปีกับ รามอส และจากนั้นคุณก็ต้องเสียเงินไป"

รูนี่ย์ มองว่าหากสโมสรเดินหน้าในแบบเดียวกับที่ตนเองคิด ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ 'เวลา', 'ความอดทน' และ 'พยายาม'

แม้จะเป็นการสร้างทีมจากดาวรุ่งแต่นักเตะเหล่านั้นก็ต้องถูกคัดสรรมาเป็นอย่างถี่ถ้วนว่าดีพอสำหรับ ยูไนเต็ด และดีพอที่จะสโมสรจะฝากอนาคตไว้ได้

"ปล่อยให้พวกเขามีเวลาในการทำงาน ปล่อยให้ โอเล่ มีเวลาในกาสร้างทีมในช่วง 2 ถึง 3 ปีต่อจากนี้เพื่อให้มีพร้อมไม่ใช่เพียงแค่ใน พรีเมียร์ลีก แต่เป็นในระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก"

หากมองในมุมของ รูนี่ย์ แล้ว ทุกอย่างย่อมต้องใช้เวลา การทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต้องใช้ความอดทน เวลา และลงแรงอย่างหนักเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต สิ่งเหล่านี้บรรดาอดีตนักเตะที่เคยประสบความสำเร็จกับสโมสรต่างเข้าใจ เพราะพวกเขาก็เคยทำงานอย่างหนักและอาบเหงื่อต่างน้ำกว่าจะก้าวไปยังจุดสูงสุด

ฤดูกาลหน้าอาจจะเร็วไปสำหรับ ปิศาจแดง ชุดนี้ แต่ รูนี่ย์ เชื่อว่าหากทีมเริ่มลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้อีก 2-3 ปี ทีมจะดีขึ้นและกลับไปอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น