:::     :::

จ่ายแพงกว่าทำไม?

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2562 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
5,595
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กระแสของ อารอน วาน-บิสซาก้า กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงจะเล่นกันต่อไปยาวๆจนกว่าตลาดซื้อ-ขายจะปิด เพราะสื่ออังกฤษเองก็ชอบอะไรแนวนี้อยู่แล้ว

ยิ่งเป็นนักเตะผู้ดีด้วยแล้ว ยิ่งปลุกปั้นให้เลิศเลอดูมีคุณค่า และแน่นอนว่าราคาค่าตัวก็มักจะพุ่งกระฉูดกว่าความเป็นจริงเกินกว่าเท่าตัว

ประเด็นนี้มาจากการที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษหรือ เอฟเอ ออกกฎจำกัดโควต้าผู้เล่นต่างชาติ เพื่อให้โอกาสนักเตะท้องถิ่นในประเทศมีโอกาสเติบโตและก้าวขึ้นมา ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็นั่นแหละมันทำให้แข้งในผู้ดีที่เพิ่งแตกหน่อหรือผลงานดีขึ้นมาหน่อยมักจะถูก "อัพ" ราคาอยู่เสมอ

นักเตะอย่าง ไมเคิ่ล คีน มีค่าตัวถึง 30 ล้านปอนด์? จอห์น สโตนส์ ที่ แมนฯ ซิตี้ ทุ่มถึง 47.5 ล้านปอนด์ เพื่อดึงตัวมาจาก เอฟเวอร์ตัน หรือ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ "เรือใบ" ต้องจ่ายถึง 50 ล้านปอนด์

เมื่อเหลือบมาดูในรายของ วาน-บิสซาก้า ที่ คริสตัล พาเลซ ตั้งค่าตัวไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์ ซึ่งหากมีทีมที่บ้าซื้อจะทำให้ชื่อของแบ็คขวารายนี้อาจจะกลายเป็นนักเตะอังกฤษที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์เลย

กับนักเตะที่เพิ่งจะโผล่ขึ้นมาทำผลงานได้ดีเพียงแค่ปีเดียว, ยังไม่เคยติดทีมชาติอังกฤษ หรือแม้แต่ยิงประตูได้เลยในชีวิต มันสมควรแล้วหรือเปล่า?


การทำแอสซิสต์ 4 หนในฤดูกาลที่ผ่านมา คงไม่ทำให้นักเตะมีค่าตัวมากมายขนาดนั้น แม้จะมีฟอร์มการเล่นที่วูบวาบดูน่าตื่นตาตื่นใจอยู่บ้างก็เถอะ

วาน-บิสซาก้า อาจจะเป็นนักเตะที่เร็ว, เข้าสกัดบอลได้ดี, เลี้ยงบอลได้ แต่สิ่งที่ขาดหายไปสำหรับการเป็นแบ็คก็คือการเปิดบอลที่คงต้องปรับอีกเยอะเลยกว่าจะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการ

แต่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แบ็คขวาอย่าง อันโตนิโอ วาเลนเซีย เตรียมโบกมือลา ซึ่งคงทำให้ทีมเหลือแค่ ดีโอโก้ ดาโลต์ ที่เล่นในตำแหน่งนี้คนเดียว ทำให้ทีมคงต้องการใครเข้ามาเพิ่มอยู่

ขออนุญาตตัด แอชลี่ย์ ยัง ที่หันไปเอาดีในตำแหน่งแบ็คซ้ายไปแล้ว และก็ไม่ได้เป็นที่น่าประทับใจซักเท่าไร แม้ว่าจะเล่นในอีกฝั่งฟากของสนามได้ก็ตามที

แต่ในเมื่อตลาดนักเตะยังมีแบ็คขวาที่ดูแล้วสามารถดึงมาร่วมทีมได้ แล้วอาจจะไม่ต้องจ่ายค่าตัวมากถึงระดับนี้ มันจะน่าสนใจมากกว่ามั้ยล่ะ

โธมัส เมอนิเยร์

สโมสร : ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง

ค่าตัว : 27-35 ล้านปอนด์


ขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งแบ็คขวาของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง อย่างสนุกเลยเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยบทสรุปเจ้าตัวลงสนามรวมทุกรายการ 21 เกม ขณะที่ตัวเก๋าอย่าง ดาเนี่ยล อัลเวส ลงเล่นไป 32 เกม

ผลงาน 5 ประตูกับอีก 7 แอสซิสต์เป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสตาร์วัย 27 ปีทำได้ยอดเยี่ยมขนาดไหน โดยเจ้าตัวคือกองหลังที่พังประตูได้มากที่สุดของสโมสรในซีซั่นที่ผ่านมาเลย

หรือจะย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางปีที่แล้วในฟุตบอลโลก 2018, เมอนิเยร์ ก็มีเส้นทางที่น่าจดจำกับทีมชาติเบลเยียมในตำแหน่งวิ่งแบ็กฝั่งขวาที่ยึดหัวหาดตัวจริงพร้อมกับพาทีมทะลุถึงรอบตัดเชือกอย่างยิ่งใหญ่

แม้จะสูงถึง 190 เซนติเมตร แต่ไม่ได้เชื่องช้าอย่างที่คิด แถมยังมีความแข็งแกร่งในการเล่นงานเหล่าบรรดาปีกตัวจี๊ดทั้งหลาย แถมยังเติมเกมรุกอย่างถูกใจแฟนบอล


สถิติการเล่นเกมรับของ เมอนิเยร์ ต้องบอกว่าไม่เลวเลยกับสถิติสกัดบอลเฉลี่ย 1.8 ครั้งต่อเกม และเคลียร์บอล 1.3 ครั้ง และบ่อยครั้งสามารถช่วยทีมเล่นลูกตั้งเตะได้ทั้งในเกมรับและเกมรุกด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่นั่นเอง

กับค่าตัวที่อยู่เพียง 27-35 ล้านปอนด์ ต้องบอกว่าไม่แพงเลย ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 เจ้าตัวย้ายมาค้าแข้งในถิ่นปาร์ก เดส์ แปร็งส์ ด้วยราคาเพียง 6 ล้านปอนด์เท่านั้น 

สัญญาที่เหลืออีกเพียง 1 ปี และดูเหมือนว่าอยากจะหาประสบการณ์ใหม่ แถมยังเคยมีข่าวสนใจร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วย มองมุมไหนก็เหนือกว่า วาน-บิสซาก้า แน่นอน

ชูเอา กานเซโล่

สโมสร : ยูเวนตุส

ค่าตัว : 40-50 ล้านปอนด์


อีกหนึ่งแบ็คจอมบุกที่ตกเป็นข่าวพัวพันกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาอย่างต่อเนื่อง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีวี่แววอะไรให้เห็น

ที่ผ่านมา ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสรายนี้ยืนยันว่าตลอดว่ามีความสุขดีกับ ยูเวนตุส แต่การที่มีข่าวเรื่องย้ายทีมออกมาอยู่เรื่อยๆนี่บรรดานักข่าวที่เขียนคงต้องมีมูลอะไรกันบ้างแหละ

ตลอด 34 เกมที่ลงเล่นในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้จะมีประตูมาฝากแฟนบอลแค่ลูกเดียว แต่มีแอสซิสต์ถึง 8 ครั้ง ซึ่งต้องบอกว่าเหนือกว่า วาน-บิสซาก้า ถึงเท่าตัว

        

ชูเอา กานเซโล่ สามารถเล่นแบ็คได้ทั้งสองข้าง แถมยังสามารถเล่นปีกหรือกระทั่งขึ้นไปยืนในตำแหน่งตัวรุกทางฝั่งขวาได้ด้วย จากความเร็วและการเปิดบอลที่ได้-เสียอยู่เสมอ

แน่นอนว่าหากมองแต่เพียงลักษณะภายนอกหลายคนอาจจะกังวลเรื่องการเล่นเกมรับ แต่ขอโทษทีจากสถิติสกัดบอลเฉลี่ย 1.9 ครั้งต่อเกม รวมถึงเคลียร์บอล 1.3 ครั้งต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน

การเคลื่อนที่ของ กานเซโล่ ช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมได้อย่างมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วกับนักเตะรายนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะต้องอกหักซะแล้วเมื่อมีข่าวว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองจ่อได้ตัวไปร่วมทีม

ริคาร์โด้ เปเรยร่า

สโมสร : เลสเตอร์ ซิตี้

ค่าตัว : 25-30 ล้านปอนด์

        

ระยะเวลาเพียงแค่ปีเดียว ริคาร์โด้ เปเรยร่า ปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับยกระดับฝีเท้าตัวเองขึ้นมาอีกขั้น

จากนักเตะที่ถูก ปอร์โต้ ปล่อยยืมตัวก่อนกลับมาเป็นตัวหลังช่วยทีมคว้าแชมป์ซูเปอร์ลีกา และย้ายมาอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปีที่แล้ว 

37 เกม 2 ประตู 7 แอสซิสต์ ถือเป็นนักเตะที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดของทัพ "สุนัขจิ้งจอก" พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร รวมถึงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมด้วย

ในเรื่องของเกมรับต้องบอกว่า เปเรยร่า ทำได้ดีอย่างไร้ที่ติกับสถิติสกัดบอลเฉลี่ยต่อเกมถึง 3.4 ครั้ง, เคลียร์บอลอีก 3 หน รวมถึงการตัดบอลได้อีก 1.7 ครั้งในเกมพรีเมียร์ลีก

        

หากเทียบกันแล้ว เปเรยร่า ถือว่ามีสไตล์การเล่นที่คล้ายกับ วาน-บิสซาก้า แต่ถ้าพูดถึงเรื่องประสิทธิภาพแล้วต้องบอกว่าคนละเรื่องกันเลย 

ไม่ว่ายังไงสตาร์ฝอยทองรายนี้ค่าตัวก็ถูกกว่าแบ็คของ คริสตัล พาเลซ แน่นอน หาก แมนฯ ยูไนเต็ด ประเคนเงินระดับ 50 ล้านปอนด์ให้ เลสเตอร์ ไม่แน่ว่าอาจจะได้ตัวมาเลยก็ได้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด