ช่วงปีนี้ก็ถือว่าเป็นตลาดซื้อขายนักเตะของแมนยูที่มีสีสันพอสมควร เพราะเราเองต้องการยกเครื่องและแก้ปัญหาที่มีอยู่ค่อนข้างเยอะและหลายส่วนโดยเฉพาะในด้านของตัวนักเตะก่อนในเรื่องนี้ เพราะถ้าจะคุยกันถึงปัญหาสโมสรทุกอย่างแล้ว เราก็รู้กันดีว่าไส้ของเรามันเน่าที่ส่วนไหน เดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง แต่ตอนนี้เราก็โฟกัสดูที่ทีมงานสโมสรเรากันก่อนว่าเรื่องนักเตะจะเอายังไง
แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะเขียนเอาไว้ จากการที่ได้เห็นคอมเม้นอะไรแนวๆนี้อยู่บ่อยๆตามsocial networkที่ต่างๆ นั่นก็คือเรื่องของการเสริมทีม ในตำแหน่งที่แฟนๆหลายท่านอาจจะไม่พอใจว่า ทำไมเราไม่รีบซื้อเซ็นเตอร์เข้ามาซะที
หากใครจะจำได้ หรือไม่ได้อ่านก็ไม่เป็นไร .. บทความที่ผมเป็นคนเขียนเอาไว้เองเรื่องการเสริมตำแหน่ง "หน้ากลางหลังต้องจ่ายตังค์จุดไหน" อันนั้นแหละที่เขียนเอาไว้
ผมเขียนไว้ชัดเจนมากว่า ตำแหน่งที่สำคัญที่สุดคือ "กองหลัง" ที่เป็นปัญหาใหญ่ที่อยากให้แก้ปัญหาให้ดีที่สุด เพื่อสร้างฐานให้กับทีมชุดนักเตะให้แข็งแกร่ง และมั่นคงมากกว่านี้ ถือเป็นจุดอ่อนจุดหนึ่งที่อยากให้ทุ่มเงินเสริมให้หนักที่สุดเพื่อหาตัวที่จะมายืนเป็น "โครงสร้างหลัก" ที่มั่นคงแข็งแรงให้กับทีมเรา
ถ้าหากเกมรับดีแล้ว เราถึงจะค่อยมีลุ้นได้ในอนาคต นี่คือหลักสำคัญของการสร้างทีมฟุตบอลทีมนึง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว แมนยูไนเต็ดนั้น ไม่ได้มีปัญหาแค่กองหลังเพียงจุดเดียว ยังมีตำแหน่งอื่นๆอีกเพียบที่เราต้องแก้ไขไปทีละอย่าง ซึ่งมันเยอะมากๆ แถมยังมีประเภทที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดปัญหาในอนาคตอันใกล้ จากการต้องการย้ายทีมของตัวหลักอย่างเคสลูคาคู กับ ป็อกบาอีก นั่นแปลว่าเราก็อาจจะต้องซื้อกองหน้าใหม่ดีๆเข้ามาทดแทน รวมถึงมิดฟิลด์ตัวรุกที่สามารถตั้งเกมบุกที่มีคุณภาพให้กับเราได้
ยังไม่รวมตำแหน่งที่เป็นจุดอ่อนมานานอย่าง ปีกขวา ที่ก็รู้ๆกันอยู่และเขียนโคตรบ่อย / กลางรับ จุดสำคัญสุดๆที่ไม่มีใครโฟกัส รวมถึงบอร์ดเราด้วยที่แทบจะไม่มีข่าวกับนักเตะตำแหน่งนี้เลย ทั้งๆที่เป็นรอยโหว่อันสร้างบาดแผลแก่เซ็นเตอร์ทีมเราอย่างต่อเนื่อง แล้วบาปก็ไปตกกับพวกมัน ล่าสุดหลายวันรวมถึงวันนี้ เป้าหมายตัวเก่งๆอย่างเดแคลน ไรซ์ ก็คิดว่าน่าจะไม่ได้ย้ายแล้วในปีนี้ รวมถึงตัวอื่นๆอย่าง ฌอน ลองสต๊าฟฟ์ก็ยังไม่คืบหน้า .. การจะใช้ตัวความหวังอย่างแม็คโทมิเนย์ น้องมันก็มีฝีเท้าที่เหมาะกับroleอื่นกลางสนามเสียอีกที่ไม่ใช่Defensive Midfielderธรรมชาติ เพราะน้องมันก็ไม่ได้เล่นมาในแนวนั้น
และเราขาด"พลังป้องกัน"ในแดนกลางในด้านของการตัดเกม ไม่ใช่ขาดนักเตะที่จะมายืนกลางต่ำ
เขียนแค่นี้คิดว่าน่าจะเข้าใจตรงกันว่า เราไม่ได้ต้องการDLP แต่เราต้องการ DMธรรมชาติมาสกรีนงานและเพิ่มความเหนียวให้ทีม
ส่วนแบ็คขวา แน่นอนว่า ผมก็เพิ่งพูดไปเมื่อวาน และเขียนบ่อย บ่อยมากจนผมว่าคนอ่านก็อ่านประโยคของผมซ้ำไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังต้องมานั่งอธิบายกันอีกในฐานะที่นั่งดูแมนยูไนเต็ดทุกนัดและรู้ปัญหาดีว่า ตำแหน่งนี้ของมันขาดจริงๆ ขาดทั้งปริมาณและคุณภาพ
แอกเซล ทวนเซเบ้ ที่เป็นดาวรุ่งของเรากำลังจะถูกซื้อในราคาไม่ถึงสิบล้านปอนด์ หมอนี่น่าเอากลับมาลองใช้เป็นแบ็คอัพCB แต่ไม่ใช่คำตอบแม้แต่นิดเดียวของการจะเอามาสแตนด์บายแบ็คขวา เพราะมันเป็นเซ็นเตอร์ชัดเจนมาตั้งแต่ดาวรุ่งอยู่กับทีมสำรองแล้ว เล่นดีจนได้รางวัลดาวรุ่งด้วย
TFM ทิมโบ้เองมีปัญหากับการหาตำแหน่งที่ใช่ของตัวเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราไม่สามารถจะเหมารวมทิมโบ้ให้เป็นหนึ่งใน "แบ็คขวา" ที่เรามีได้ เพราะการเล่นพื้นฐานธรรมชาติของน้อง มันเป็นนักเตะที่เล่นในพื้นที่กลางสนามอย่างชัดเจน ด้วยเซนส์ และทักษะที่มี
การเอาทิมโบ้ไปฝืนยืนเล่นแบ็ค มันก็ทำได้แค่ "ไปยืนได้" และ "พอเล่นได้" เท่านั้น แต่ไม่สามารถทำในสิ่งที่แบ็คปกติควรจะมี นั่นก็คือ "ทักษะในการเล่นริมเส้น" ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นต้องใช้เบสิคการเล่น ความคล่องตัว ที่ค่อนข้างสูงมาก รวมถึงการเอาตัวรอดในพื้นที่แคบๆ การครอสบอลยาวเข้ากลาง และอื่นๆอีกมากมาย
เซนส์การเล่นบอลกลางสนาม กับการเล่นริมเส้น มันต่างกันมากถ้าหากใครจะนึกภาพไม่ออก
ดังนั้นหลายๆครั้งเราจะเห็นว่า นักเตะบางคนที่เคยเป็นอดีตwingerเก่า จึงเหมาะและสามารถพอที่จะย้ายตำแหน่งมาเล่นแบ็คแทนได้ แต่ส่วนใหญ่เขาจะไม่ค่อยเอานักเตะกลางสนามมาเล่น
มันมีเหตุผลอยู่ในตัวมันอยู่แล้วที่เป็นแบบนี้ว่าสกิลการเล่นด้านข้างสนามมันจำเป็นจริงๆ ดังนั้นนี่คือคำตอบที่ว่า ทำไม TFM กับ Tuanzebe จึงไม่สามารถมานับรวมเป็นแบ็คขวาสำรองได้ มันก็ไม่ต่างกับการเอาฟิลโจนส์ เอาไบญี่ เอาลินเดอเลิฟ ไปยืนขวานั่นแหละ ซึ่งนั่นคือการเสียของขั้นสุดยอด นอกจากผลงานห่วย เติมเกมไม่ได้ ไล่ปีกไม่ค่อยจะทันแล้ว ยังเสียของสุดๆแทนที่นักเตะเหล่านี้จะได้เล่นตรงตำแหน่งที่เขาถนัดและผลงานจะได้ดี
เอาง่ายๆทิมโบ้ย้ายไปยังโดนAWBแย่งตำแหน่งซะหลุดลุ่ย มันก็สะท้อนได้อยู่แล้วว่าหมอนี่ไม่ดีพอจะยืนแบ็คขวาได้
การที่มีนักเตะเหล่านี้สแตนด์บายอยู่ในมือ และมันเล่นได้ ไม่ได้หมายความว่า "แบ็คขวาไม่ขาดแคลน" ถ้ามีสำรองอยู่ในมือ แต่ส่งลงไปก็ทำอะไรไม่ได้ สร้างประโยชน์ไม่ได้แถมอาจจะพลาดโดนคู่แข่งเจาะเอาสบายๆอีกเพราะการเอา ตัวกลางแท้ๆ ไปดวลกับปีก เป็นการกระทำที่บนโลกนี้ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะมันโดนเผาเละแน่นอน ความคล่องตัว ความเร็ว นักเตะกลางสนามมันสู้ความจี๊ดปีกอีกฝ่ายไม่ได้แน่อยู่แล้ว
ดังนั้นชัดเจนเรื่องแบ็คขวา ดาวรุ่งสองคนที่ว่ามันไม่ควรเอามาเล่นแบ็คอยู่แล้ว ส่วนแอชลีย์ยัง สามารถยกผลประโยชน์ให้ได้ว่าเป็นอะไหล่สำรองสุดท้ายในตำแหน่งแบ็คได้ในยามจำเป็น แต่การเล่นของอาจารย์ยัง ที่ร่างกายถดถอยลงไป และมีแต่จะสร้างรอยรั่วให้กับเกมรับของเรา ทั้งสปีด ความแข็งแกร่ง การเล่นการตัดสินใจ จารย์ยังไม่เหลืออะไรแล้ว บ่อยครั้งเขานี่แหละเช็คล้ำหน้าพลาดง่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าแทบทุกเกมจนเกมรับพังคามือตลอดเวลา
ยังไม่รวมลูกครอสที่ครอสมั่วจนทำให้ทีมเสียโอกาสบุกไปมากมาย อันนี้โคตรสำคัญ
นักเตะแบบนี้สำหรับผม แทบจะไม่ควรส่งลงสนามแล้วหากไม่จำเป็นจริงๆ ยกเว้นว่านัดไม่สำคัญ นัดเจอทีมเล็กมากๆ แบบเนี้ยส่งไปทดแทนได้ แต่ถามว่า ซีซั่นนึงเราจะได้เจอแมตช์ชิลๆแบบนั้นสักกี่นัดกัน มันไม่มีหรอก ยุคนี้ทีมเล็กๆก็ตามเรามาใกล้กันหมดแล้ว
การที่แอชลีย์ ยัง เล่นได้ด้วยฟอร์มระดับไม่ได้มาตรฐานเช่นนี้ ผมก็ถือว่าเขาไม่ต่างกับ Tuanzebe/TFM เช่นกัน ที่อยู่ในสถานภาพที่ "แค่เล่นได้" แต่ไม่ควรลงไปมีโอกาสเล่นเพราะมันห่วยและเป็นจุดอ่อน
ซึ่งเรากำลังพูดถึงการเสริมทีมอยู่ว่า มันคือการ "แก้จุดอ่อน" ที่เราเป็นอยู่ ซึ่งแอชลีย์ยังนั่นแหละ คือจุดอ่อน เราถึงต้องการซื้อ "แบ็คขวา" เข้ามาเล่นแทนเขาไง
ไม่งั้นลิเวอร์พูลจะต้องซื้อฟานไดค์เข้ามาทำไมในเมื่อมีCBในทีมอยู่แล้ว คิดง่ายๆ
การเสริมทีม คือการแก้ไขจุดอ่อน ซึ่งด้วยตรรกะเดียวกันนี้ เราถึงได้จำเป็นต้องซื้อเซ็นเตอร์นั่นแหละ ทั้งๆที่มีตัวเพียบไม่ว่าจะสมอลลิ่งโจนส์ไบญี่เลิฟโรโฮ
คำถามเดียวกัน ทำไมคุณถึงอยากได้เซ็นเตอร์
ก็คำตอบเดียวกันเป๊ะๆนั่นแหละว่า ทำไมเราถึงต้องซื้อแบ็คขวา
แถมเป็นจุดอ่อนที่จำนวนปริมาณขาดสุดๆด้วย เพราะมีแค่ดาโลต์คนเดียวจริงๆที่เล่นตำแหน่งนี้โดยธรรมชาติ
เมื่อวานผมเขียนไปแล้วถึงดาโลต์ว่าหมอนี่ใจมันได้ และตั้งใจเพียงใด แต่ผมก็ยอมรับความจริงที่ว่า เราไม่สามารถผ่านทั้งซีซั่นได้ด้วยหนูนี่เพียงคนเดียวโดยไม่มีนักเตะที่ดีๆคนอื่นในตำแหน่งนี้อีกเลย
ย้ำ นักเตะที่"ดีๆ"ในตำแหน่งนี้ มันไม่มีเหลือคนอื่นแล้ว
จารย์ยัง ทวนเซเบ้ ไบญี่ TFM โจนส์ ไม่สามารถนับรวมเป็นนักเตะดีๆตำแหน่งนี้ได้ (ดาเมี่ยนตัดทิ้งไปได้แล้วนะขี้เกียจอธิบาย)
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมมองว่าแบ็คขวามันขาด ซึ่งมันคือเหตุผลเดียวกับที่สโมสรเราที่พยายามเดินเรื่องหาแบ็คขวาเข้ามาให้ได้นั่นแหละ ซึ่งองค์กรระดับนี้คิดว่าเขาโง่เหรอที่พยายามซื้อแบ็คขวา ไม่น่าจะใช่ ดีลของบิสซาก้าจึงดำเนินอยู่ในขณะนี้และนั่นคือคำตอบชัดเจนสุดแล้วว่า มันขาดจริงหรือไม่ขาดจริง
ถ้าแบ็คขวาไม่จำเป็นต้องแก้ สโมสรจะหาทางซื้อเข้ามาทำไม?
ตำแหน่งแบ็คเป็นตำแหน่งโคตรสำคัญที่บางคนมองข้ามว่า "เสริมเมื่อไหร่ก็ได้ เอาไว้ทีหลัง" ซึ่งผมไม่เชื่อว่าหลายคนจะคิดแบบนี้กันหมด จริงๆแล้วสำหรับ บอลสมัยใหม่ แบ็คนี่โคตรสำคัญ เพราะต้องมีการเคลื่อนที่ในระยะทางที่มากตลอดเวลา ตามทิศทางการเล่นของทีม ต้องมีส่วนร่วมกับเกมสูงจัด
ถ้าทีมต้องบุก แบ็คก็จำเป็นต้องดันสูงขึ้นไปเติมเกมด้วย ในขณะที่เกมรับ แน่นอนแบ็คต้องรีบถอยลงมาให้ไวที่สุด ทีมที่แพ้ๆเนี่ยพังเพราะแบ็คลอยมาเยอะแล้ว หลายคนคงทราบกันดี นอกจากจะวิ่งไล่ตามปีกแล้ว ก็ยังต้องคอยสกรีนงานด้านข้างในตำแหน่งที่ยังไม่อันตรายมาก ให้กับเซ็นเตอร์ด้วย จะได้ไม่หลุดเข้าไปเผชิญหน้ากับด่านสุดท้ายตรงกลางสนาม ซึ่งจะเห็นว่าแบ็คสำคัญจริงๆ
ไอ้ประเภทที่เห็นกันว่า แบ็คโดนเผาๆ นั่นแหละ ทีมไหนเป็นแบบนั้น ก็เตรียมตัวได้เลยว่า เละแน่นอน เพราะหลุดไปด่านนึงแล้ว ทั้งเกมรับ และเกมบุก รวมถึงการมีส่วนร่วมในการพาบอลขึ้นข้างหน้าที่หลายๆครั้ง กลางโดนบีบ ก็ต้องถ่ายออกมาด้านข้าง จะเห็นได้ว่า บทบาทของแบ็คนั้นเยอะมาก และสำคัญไม่ได้แพ้ "เซ็นเตอร์ตัวกลาง" เลยแม้แต่นิดเดียวสำหรับผู้เล่นตำแหน่งแบ็ค
ที่เขียนมานานมากขนาดนี้ อยากให้ย้อนไปด้านบนว่า ผมก็ยังมองว่า CB คือFirst Priority อยู่ดีอย่างที่เขียนไว้ อยากบ่นแค่เรื่องแบ็คเฉยๆว่า ทำไมคนดูถูกตำแหน่งนี้กันจัง และไม่คิดว่ามันขาด อยากได้เซ็นเตอร์ก่อน ผมจะบอกให้ว่า แบ็คขวาเนี่ยแหละ อาการหนักรองลงมาจากปีกขวาเลยด้วยซ้ำ ถ้าปีกขวาคือ0 แบ็คขวาก็คือ 1 เนี่ยแหละ
เพียงแต่ว่า ทางเซ็นเตอร์ ที่มันยังไม่มีข่าวประเภท Close a dealเลยสักตัว ดีลยังไม่ใกล้เคียงเลยสักตัวเพราะว่า ข้อนี้คือความห่วยของทีมซื้อขายและบอร์ดเรา ซึ่งเอาไว้ด่ามันรวบยอดทีเดียวทีหลัง ที่ยังไม่ได้มาเพราะบอร์ดห่วยๆนั่นแหละ แต่การที่ยังไม่closeมันไม่ได้แปลว่า ทีมซื้อขายเราไม่ได้สนใจ จริงๆเล็งไว้เยอะแล้วด้วยตามข่าว
นี่คือใจความสำคัญของทั้งบทความที่บ่นมายืดยาว เพียงแค่อยากจะบอกคนอ่านว่า อยากให้พวกพี่ "ใจเย็นๆ" กันหน่อย คือยังไม่ใกล้ปิดดีลได้เนี่ย ไม่ได้แปลว่า เขาไม่เอา
มันแปลว่า เขายังหาทางดีลมาไม่ได้ต่างหาก!!
เรามีข่าวกับเซ็นเตอร์มาตั้งแต่ก่อนปิดฤดูกาลอีก ก่อนแบ็คขวา ก่อนปีกที่ซื้อๆเข้ามานี่ด้วย แต่ข่าวมันเงียบเพราะไปต่อรองมายังไม่ได้นั่นไง ทั้งการโดนโก่งจากเคสของแมคไกวร์ การยื้อต่อรองกันในดีลของเดอลิกต์ รวมถึงล่าสุดที่ สคริเนียร์ กองหลังดาวรุ่งที่เคยรีวิวไว้ ก็อาจจะถูกแนบมาในดีลกับ ลูคาคู .. และอื่นๆอีกมากมายหลายคนที่เคยมีข่าวกับเรา รวมถึงดิย็อปของเวสต์แฮมด้วย
จะเห็นได้ว่า ข่าวกับเซ็นเตอร์ มันมีเยอะไปหมด และอยู่ในขั้นตอนการซื้อขายแทบทั้งสิ้น
ดังนั้น พวกพี่ๆไม่ต้องกลัวครับ ยังไงทีมเราต้องได้CBมาเสริมทีมหนึ่งตัวแน่นอนปีนี้ เพราะเขาเดินเกมตลอดอยู่แล้วแถมหลายตัวด้วย ข่าวก็มีมูลทั้งนั้น การที่ดีลไม่จบ และดีลแบ็คมันใกล้จบกว่า ไม่ได้แปลว่าแมนยูจะไม่ซื้อ หรือไม่เอาสักที ทำไมไม่เอาเซ็นฯมาก่อน
จะเอา แต่ยังซื้อมาไม่ได้จ้าาาาาาาาาา
โปรดจงมั่นใจ และใจเย็นลงเถอะ มองเรื่องนี้ในแง่ของสโมสรกันบ้าง แม้บอร์ดเราจะห่วยแตกเพียงใด แต่จะด่ามันซะทุกเรื่องก็คงจะเกินไป บางเรื่องเขาก็ทำงานกันอยู่แหละ และไม่ได้แปลว่าเขาไม่เห็นคุณค่าของการเสริมตำแหน่งนี้ ..
จะเอาของดีต้องใช้เวลานิดนึง
ซึ่งผมว่ามันดีแล้วที่ดีลตำแหน่งนี้ต่อรองเยอะ นั่นแปลว่าตัวที่จะเข้ามา มันต้องดีที่สุดต่อทีมและสโมสรแล้วจริงๆ อย่าหัวร้อนและอย่าซีเรียสกับมันมากจนพาลไปโวยวายเรื่องการเสริมตำแหน่งอื่นก่อน เขาไม่ได้มองข้ามหรอก มันก็ดีลไปพร้อมๆกันหลายตำแหน่งนั่นแหละอยู่ที่ว่าจะได้ใครก่อนเท่านั้นเอง
ปัญหามันเยอะ ต้องค่อยๆแก้ไปทีละอย่าง ใจเย็นๆกันนะแฟนผี
แต่ที่แน่ๆ จุดที่แผลเน่าเฟะที่สุด แต่กลับเป็นจุดที่ยังไม่มีทางแก้ไขอะไรได้เลยแบบอนาคตมืดมนมากๆนั้น ทุกคนคงจะรู้กันดีว่าอะไรคือปัญหาของเรา
ใช่แล้ว บอร์ดบริหารเส็งเคร็งพวกนั้นนั่นแหละ
-ศาลาผี-
