ดาเนียล หรือ ดานี่ โอลโม่ ศิษย์เก่าจาก'ลา มาเซีย'ที่มาแจ้งเกิดขึ้นสโมสรในโครเอเชียอย่าง ดินาโม ซาเกร็บ หลังตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งในลีกโครแอตแบบน่าประหลาดใจในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ก่อนลงประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดมา 

โอลโม่ ก้าวขึ้นมาเป็นกลจักรสำคัญของ ดินาโม ซาเกร็บ นำต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกโครเอเชีย 4 สมัยพร้อมคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกโครแอตในช่วงเดือนธันวาคมปี 2018 และยังติดอันดับ 11 ของการประกาศผล'โกลเด้น บอย'ปีนั้น ล่าสุดมิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 21 ปียังคว้าทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมและดาวรุ่งยอดเยี่ยมของลีกโครเอเชียในซีซั่นที่ผ่านมาด้วย 

หนุ่มโอลโม่ เกิดที่เมืองเตร์ราสซ่า บ้านเดียวกับ ชาบี เอร์นานเดซ อดีตกัปตันทีมอาซูลกราน่า ย้ายจากทีมเยาวชนเอสปันญ่อลเข้าสู่'ลา มาเซีย'ศูนย์ฝึกของ บาร์เซโลน่า ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไปเล่นในโครเอเชียตอนอายุ 16 ปีและกลายเป็นอีกหนึ่งแข้งดาวรุ่งเนื้อหอมในอีก 5 ปีต่อมา

ดาเนียล โอลโม่ ตกเป็นเป้าสนใจของหลายสโมสรทั้งทีมเก่า บาร์เซโลน่า รวมถึงทีมดังอย่าง แมนฯยูไนเต็ด, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, บาเยิร์น มิวนิค กับ มิลาน เป็นต้น

ล่าสุดดาวรุ่งวัย 21 ปียังเติมดีกรีให้ตนเองด้วยการคว้าแชมป์ยุโรปรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปีร่วมกับทัพกระทิงน้อยและเป้าหมายต่อไปของโอลโม่คือการย้ายไปค้าแข้งในลีกใหญ่ช่วงซัมเมอร์นี้ 

โอลโม่ ยังมีสัญญากับ ดินาโม ซาเกร็บ จนถึงปี 2021 แต่เขายังคงสงบรอดูสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อนนี้ตามคำแนะนำจาก มิเกล บิดาของเขา การตัดสินใจครั้งนี้อาจจะย้ายกลับทีมเก่า บาร์เซโลน่า หรือออกไปแสวงหาความท้าทายในอาชีพค้าแข้งกับสโมสรอื่น 

การคว้าแชมป์ยุโรปรุ่นยู-21 ปีมีความหมายกับคุณอย่างไร?

'มันเหมือนน้ำตาลไอซิ่งบนหน้าเค้กในปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับผม แม้ทัวร์นาเมนต์นี้จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ผมยังมีความทรงจำที่พิเศษเสมอ'

ทัพ'ลา โรฆีต้า'(สเปนรุ่นยู-21) ชุดนี้เป็นรุ่นที่น่าตื่นเต้น?

'ใช่เลย, มีผู้เล่นพรสวรรค์หลายคนและเราทุกคนต่างออกไปทำได้ดีมาก นั่นนำมาซึ่งผลด้านบวกที่ปรากฎขึ้นในสนาม'

นักเตะส่วนใหญ่ของทีมชุดนี้เกิดในปี 1996 โดยมีแต่เฉพาะคุณ กับ ดาเนียล มาร์ติน ผู้รักษาประตูจาก สปอร์ติ้ง คีฆอน เท่านั้นที่เกิดในปี 1998 ซึ่งสามารถลงเล่นในศึกชิงแชมป์ยุโรปรุ่นยู-21 ปีครั้งต่อไป คุณคาดหวังกับการเรียกตัวหรือไม่?

'ผมทำงานหนักเพื่อมัน ตั้งแต่พวกเขาเรียกตัวผมติดทีมครั้งแรกในช่วงปลายปี 2018 ผมพยายามกลับไปหาเจ้านาย (หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้) ที่มอบความไว้วางใจให้ผมเสมอ'

คุณเริ่มต้นด้วยการเป็นตัวสำรองในเกมกับอิตาลี ก่อนจะได้ลงเล่นตัวจริงกับเบลเยียมพร้อมทำประตูได้และจากนั้นก็ยึดตำแหน่งตัวจริงถาวรจนถึงนัดชิงชนะเลิศกับเยอรมัน?

'ผมรู้ว่าโอกาสจะมาหาผมและท้ายที่สุดมันก็เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมและการมอบสิ่งดีที่สุดของคุณเสมอ'

ในเกมกับเบลเยียม ทัพ'ลา โรฆีต้า'รู้สึกกลัวว่าจะหลุดออกเส้นทางลุ้นแชมป์ยุโรปหรือไม่?

'มันเป็นเกมที่ซับซ้อน แต่เราลงเล่นด้วยความคิดตั้งแต่เริ่มเกมและเรารู้ว่าโอกาสจะมาถึงไม่ช้าก็เร็ว เราทุ่มเททุกอย่างและท้ายที่สุดเราก็คว้าชัยชนะ ประตูของ ฟอร์นาลส์ เป็นรางวัลสำหรับงานที่เราทำทั้งหมด'

โครเอเชีย พยายามที่จะดึงคุณติดทีมชาติ แต่ สเปน ยังมีความสำคัญกับคุณเสมอหรือไม่?

'ผมรู้สึกขอบคุณเพราะโครเอเชียเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของผม แต่ความฝันของผมตั้งแต่เด็กคือการเล่นกับทีมชาติสเปนเสมอ'

คุณเห็นตัวเองลงเล่นฟุตบอลโลกปี 2022 หรือไม่?

'ผมหวังนะ การเล่นฟุตบอลโลกเป็นจุดสูงสุดสำหรับนักเตะทุกคน มันเป็นความฝัน'

คุณอยู่ที่ไหนตอนที่ (อันเดรส) อีเนียสต้า ยิงประตู (ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010)? 

'ที่บ้านของผม ตอนแรกผมไม่เชื่อ แต่ผมยังเก็บความทรงจำที่ดีของเรื่องราวนั้นไว้'

อันเดรส เป็นหนึ่งในนักเตะที่คุณชอบดูการเล่นมากที่สุด?

'ใช่เลย อีเนียสต้า สำหรับผมเขาเป็นเหมือนข้อมูลอ้างอิง ถ้าคุณดูเขา คุณสามารถเรียนรู้อะไรได้อีกมากมาย'

คุณออกจาก บาร์ซ่า ตอนอายุ 16 ปีมุ่งหน้าสู่โครเอเชียถูกมองว่าเป็นการย้ายที่สุ่มเสี่ยงมาก?

'มันเป็นการตัดสินใจยาก แต่ในเวลานั้นการไปที่ ดินาโม เป็นทางเลือกดีที่สุดสำหรับผมในด้านกีฬา ตอนนี้ผมกำลังได้รับผลตอบแทนที่ดีและผมมีความสุขมากที่ได้เล่นที่นั่น'

คุณรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะก้าวกระโดดไปสู่ลีกที่ใหญ่ขึ้น?

'ใช่เลย ผมคิดว่านี่ถึงเวลาที่จะก้าวไปข้างหน้า แต่เราจะเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้น ช่วงซัมเมอร์นี้ยังอีกยาวไกลและมันเพิ่งเริ่มต้น'

การกลับ บาร์ซ่า เป็นเป้าหมายหรือไม่?

'นั่นเป็นบ้านของผมมานาน 6 ปีแล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ? เราจะเห็นกัน แต่ผมไม่รู้ว่าประตูนั้นเปิดหรือปิด'

คุณปิดโอกาสหรือไม่?

'ไม่นะ ผมไม่ปิดประตูสำหรับ บาร์ซ่า รวมถึงทีมอื่นๆด้วย'

คุณคิดถึง สเปน ใช่ไหม?

'ใช่ นิดหน่อย คิดเกี่ยวกับการกลับไปเล่นในประเทศของคุณอีกครั้งเป็นสิ่งสวยงาม'

'ถ้าพูดถึง ลาลีกา, พรีเมียร์ลีก, กัลโช่ เซเรีย อา และ บุนเดสลีกา ดานี โอลโม่ จะมองที่ไหนก่อนเป็นลำดับแรก?

'มันยากนะ เรากำลังพูดถึงลีกดีที่สุดในโลกและแต่ละลีกล้วนมีแต่สิ่งดีๆ ลาลีกาเป็นสิ่งพิเศษกว่าเพราะสำหรับผมแล้วเป็นบ้านกับผู้คนของผม แต่ เยอรมัน, อังกฤษ และ อิตาลี ต่างก็มีแรงดึงดูดผมไม่น้อยเช่นกัน'

คุณอยากเล่นกับนักฟุตบอลคนไหนมากที่สุด?

'มีหลายคนในโลกนี้นะ'

ยกตัวอย่าง เลโอ เมสซี่?

'(หัวเราะ) ใช่ เมสซี่เป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดในโลก แต่ผมพูดมากกว่านี้ไม่ได้ ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากเล่นกับเขา'

นอกจากเล่นฟุตบอลแล้ว ดานี โอลโม่ ยังขึ้นชื่อว่า'บ้าฟุตบอล'ชอบดูเกมจำนวนมาก?

'ใช่ มันเป็นความจริง ผมชอบเพราะคุณสามารถเรียนรู้ได้มากมายจากการดูเกมและวิเคราะห์การแข่งขัน'

สำหรับคนที่ไม่ได้ดูคุณเล่น คุณจะนิยามตัวเองอย่างไร?

'ผมคิดว่าผมเป็นผู้เล่นที่ทำได้ดีในการดวลแบบตัวต่อตัว, การยิงประตูที่ดีและผมชื่นชอบการทำงานเพื่อทีม'

คุณเล่นทั้งมิดฟิลด์ตัวกลาง, มิดฟิลด์ตัวรุก, ปีกและกองหน้า คุณชอบเล่นตำแหน่งไหนมากที่สุด?

'ตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์หลังกองหน้า แต่การเล่นเป็นตัวริมเส้นและเล่นเหมือนนักเตะหมายเลข 9 ผมไม่เคยมีปัญหา ผมรู้สึกชอบเท่าๆกัน'

คุณเล่นเกมฟีฟ่าหรือไม่?

'ใช่ แน่นอน ผมชอบเกมประเภทนั้น ได้สนุกกับเพื่อนๆผม'

'คุณเลือกเล่นทีมอะไร?

'(หัวเราะ) บางครั้งผมเล่นกับ ดินาโม ซาเกร็บ แต่ไม่มากนัก ผมเล่นกับทุกทีม เปลี่ยนไปเรื่อย'

คุณจะทำอะไรในช่วงวันหยุดพักร้อน?

'ตอนนี้ผมจะใช้เวลา 2-3 กับเด็กๆในแคมป์และจากนั้นผมจะไปพักผ่อนตามชายหาดหามุมสงบให้ชีวิตตัวเองเล็กน้อย'

สุดท้าย ประตูที่คุณต้องการทำมากที่สุด?

'มีเยอะนะ ในนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลก, ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงการยิงประตูเพื่อคว้าเหรียญทองในศึก โกเตียว 2020 ด้วย'

จากบทสัมภาษณ์ข้างต้น หนุ่มวัย 21 ปีแสดงความชัดเจนว่าต้องการแสวงหาความท้าทายครั้งใหม่ด้วยการย้ายไปค้าแข้งกับทีมใหญ่ในลีกชั้นนำของยุโรป ซึ่งเขาเปิดโอกาสสำหรับทุกสโมสร ขึ้นอยู่กับว่าทีมใดจะสามารถโน้มน้าว ดานี โอลโม่ ย้ายไปร่วมทีมได้เท่านั้น