:::     :::

คุยกับ "บอล" ศศิศ สิงห์โตทอง : ผจก.คนรุ่นใหม่ทัพ "ฉลามชล"

วันจันทร์ที่ 08 กรกฎาคม 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
14,296
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในยุคที่ฟุตบอลไทยลีกกำลังก้าวสู่ความเป็นกีฬาอาชีพอย่างเต็มตัว การบริหารจัดการที่เป็นระบบมีความสำคัญอย่างยิ่ง และแน่นอนว่ามันเป็นยุคของคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีความพร้อมทั้งความรู้และความสามารถจะเข้ามาร่วมพายเรือลำนี้ไปด้วยกัน หนึ่งในคนหนุ่มที่น่าจับตามองมากๆ ของวงการลูกหนังไทยคือ "คุณบอล" ศศิศ สิงห์โตทอง กับตำแหน่งผู้จัดการทีม ชลบุรี เอฟซี วันนี้ผมมีบทสนทนาเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งเรื่องการทำงานและดีลต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเลกสองมาฝากกัน ลองติดตามได้เลยครับ

แมน : สวัสดีครับคุณบอล เป็นไงบ้างครับกับการมาทำงานผจก.ทีมให้ชลบุรี 

ศศิศ : ครับ คือจริงๆ ก่อนหน้านี้ผมก็ช่วยทำงานอยู่เบื้องหลังอยู่แล้วแหละ ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ผมมีหน้าที่ต้องทำงานให้ทางไนกี้ แต่พอไม่ได้ทำแล้วก็เลยสามารถเข้ามาช่วยงานทางสโมสรได้แบบฟูลไทม์มากขึ้นครับ

แมน : ทางพี่อรรณพ (สิงห์โตทอง รองประธานสโมสร) ตั้งใจให้คุณบอลเข้ามาสืบทอดการทำงานต่อหรือเปล่าครับ

ศศิศ : ก็ด้วยครับ คือทางพ่อก็อยากให้เราเข้ามาทำงาน ในการประสานงานต่างๆ ให้เกิดความคล่องตัว


แมน : การเสริมทีมในช่วงเลกสองนี่คือเป็นการประสานของคุณบอลทั้งหมดเลยมั้ยครับ

ศศิศ : ใช่ครับทั้งหมดเลย คือก่อนหน้านี้การตัดสินใจก็จะอยู่ที่การหารือกันระหว่างโค้ช, พี่กร (ธิติกร อาจวาริน เลขานุการสโมสร) และพ่อ แต่ในช่วงเลกสองผมเป็นคนเข้ามาช่วยประสานงาน

แมน : การมาทำงานตรงนี้มีความคล่องตัวดีมั้ยครับ กับนักเตะ กับสื่อ และทุกๆ ด้าน

ศศิศ : ไม่มีปัญหาเลยครับ ปกติผมก็ค่อนข้างคุ้นเคยกับนักเตะและสื่อหลายๆ คนอยู่แล้ว กับสโมสรต่างๆ ก็รู้จักกันดี อย่างที่บอกว่าจริงๆ แล้วเราก็ทำงานมาตลอดอยู่หลังฉาก เพียงแต่ว่าตอนนี้เข้ามาทำเต็มตัวเต็มรูปแบบมากขึ้นเท่านั้น ทุกอย่างราบรื่นมากๆ ครับ

แมน : โค้ชเตี้ย (สะสม พบประเสริฐ) นี่เป็นการติดต่อทาบทามโดยคุณบอลด้วยมั้ย

ศศิศ : จริงๆ แล้วผมเคยคุยกับทางพี่เตี้ยมาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลแล้วครับ ตอนนั้นพี่โบ้ (จักรพันธ์ ปั่นปี) เขาอยากจะขอยุติบทบาท ทางสโมสรก็ยังอยากให้การสนับสนุนพี่โบ้ให้สู้ต่อไป แต่แกก็อยากรับผิดชอบผลงาน แต่จังหวะนั้นลูกชายของพี่เตี้ยแกป่วยหนัก แกต้องดูแลครอบครัวก็เลยยังไม่ได้เข้ามา พอมาช่วงปลายเลกแรก พี่โบ้ตัดสินใจว่าจะขอรับผิดชอบผลงานก็เลยไปคุยกับพี่เตี้ยอีกที มาตอนหลังนี้จังหวะเวลามันลงตัว ก็ตอบตกลงกันว่าพี่เตี้ยจะเข้ามาช่วย ส่วนพี่โบ้และสตาฟฟ์คนอื่นๆ ก็จะคอยซัพพอร์ทให้


แมน : มีเงื่อนไขหรือข้อตกลงอะไรกับการดึงโค้ชเตี้ยเข้ามาทำงานให้ชลบุรี มั้ยครับ

ศศิศ : ผมก็ขอพี่เตี้ยว่าให้พี่เข้ามาคนเดียวก่อน เรามีสตาฟฟ์มีทีมงานให้พร้อม เรื่องการเสริมทีมก็มีการคุยกันตลอด พี่เตี้ยเขาเข้าใจดีอยู่แล้วว่างบประมาณของชลบุรีไม่ได้มีเยอะมากมาย   

แมน : ผมเคยคุยกับพี่เตี้ย แกบอกว่าได้ลิสต์นักเตะที่ต้องการสำหรับเลกสองไว้เยอะพอสมควร แต่ปัญหาก็คืองบประมาณค่าจ้างนักเตะอาจมีไม่พอ แต่ไปๆ มาๆ ชลบุรีกลายเป็นทีมที่เสริมทัพในช่วงเลกสองเยอะที่สุดในลีกเลย

ศศิศ : ใช่ครับ ชลบุรีไม่เคยเสริมนักเตะระหว่างเลกมากขนาดนี้มาก่อนเลย เต็มที่ก็สองสามคนเท่านั้น แต่ตอนนี้มันมีความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนแปลงในหลายๆ จุดเพราะเรารู้ว่าถ้าปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ โอกาสไม่รอดก็มีสูงเหมือนกัน เพราะทุกทีมก็มีการปรับทัพและแข็งแกร่งขึ้นทั้งนั้น

แมน : แสดงว่าแต่ละดีลที่เซ็นมานี่ถือว่าอยู่ในงบทั้งหมดเลย

ศศิศ : ครับ จริงๆ ตั้งแต่ตอนโก้ (ดัสกร ทองเหลา)  ผมกับโก้ค่อนข้างสนิทกันอยู่แล้วตั้งแต่ไนกี้ ก็มีการคุยกันอยู่ตลอด เราคุยกันได้ทุกเรื่อง จังหวะพอดีที่ทางสีหมอก เอฟซี มีปัญหา ก็เหมือนเป็นการช่วยเหลือกันด้วย โก้ก็เอาประสบการณ์มาช่วยให้คำแนะนำน้องๆ ทั้งในการฝึกซ้อมและห้องแต่งตัว ผมมองว่าโก้เป็นคนที่การพูดจาและความรู้เรื่องฟุตบอลเขาดีมาก เขาเหมือนกับเข้ามาเป็นโค้ชให้เราไปในตัว ซึ่งโก้เองก็ตั้งใจว่าพอเลิกเล่นก็จะเป็นโค้ชอยู่แล้ว


แมน : คล้ายๆ กับเคสของลีซอมั้ยครับ

ศศิศ : เคสของ ซอ (ธีรเทพ วิโนทัย) เป็นดีลที่เกิดขึ้นและจบลงเร็วมาก คุยกันไม่กี่วันก็ได้ข้อสรุปเลย ผมเองก็คุ้นเคยกับน้องอยู่แล้วตั้งแต่ทำไนกี้เหมือนกัน จังหวะพอดีที่ได้คุยกันว่า ซอ อยากลงเล่น เขายังมีความต้องการที่จะติดทีมชาติ เขาปรึกษากับทางแบงค็อก แล้วว่าความต้องการของทั้งสองฝ่ายไม่ตรงกัน เขาก็เลยขอเวลาไปเคลียร์กับผู้ใหญ่ ทั้งคุณขจร (เจียรวนนท์ ประธานสโมสร), คุณนุ่น (ชณิตา จันทรทรัพย์ ผู้จัดการสโมสร) และ มาโน่ (โพลกิ้ง เฮดโค้ช) ซึ่งจริงๆ แล้ว ซอ ยังอยู่ในแผนการทำทีมของมาโน่ แต่มาโน่ไม่สามารถรับประกันตำแหน่งตัวจริงให้ได้ แล้วซอเองก็กำลังจะหมดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้ เขาเป็นคนมีไฟ ตอนนี้ซอ อายุ 34 แต่เขายังไม่ได้คิดจะเลิกเล่นเร็วๆ นี้ ซอบอกผมว่าอยากจะเล่นไปอีกสัก 3-4 ปีเป็นอย่างน้อย

แมน : มาแบบสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาลใช่มั้ยครับ แล้วค่าเหนื่อยนี่ทางชลบุรีจ่ายฝ่ายเดียวหรือ แบงค็อกช่วยหารด้วย เพราะค่าเหนื่อยของลีซอ น่าจะสูงอยู่

ศศิศ : ชลบุรีจ่ายทั้งหมดครับ จริงๆ ก่อนที่จะบรรลุข้อตกลง ผมเคยถามพี่เตี้ยว่าถ้าเอาซอมาช่วยทีม พี่เตี้ยคิดว่าไง พี่เตี้ยก็ตอบว่าเอาดิ เอาอยู่แล้วใครจะไม่เอาล่ะ แต่จะจ้างไหวหรอ ค่าเหนื่อยซอไม่ใช่ถูกๆ นะ คือตอนที่คุยกันกับซอ ผมก็บอกว่าซอว่า ซอรู้ใช่มั้ยว่าทีมจ่ายคุณไม่ไหวแน่ๆ แต่ซอตอบว่า เขาอยากมาเล่นให้ชลบุรีตั้งนานแล้ว ที่นี่มีคนที่คุ้นเคยกันดีหลายคน เชื่อมั้ยว่าซอยอมลดค่าจ้างจากที่ได้รับที่บียูลงมาน้อยกว่าเดิมมาก (ตัวเลขขออนุญาตไม่เปิดเผย) เราก็ทึ่งเลยว่าน้องมันตั้งใจจริง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังห่วงว่าบียูจะคิดค่ายืมหรือเปล่าถ้าคิดเราก็ไม่น่าจ่ายไหวอยู่ดี ซอบอกแม้กระทั่งว่าถ้าเขาคิดค่ายืม ซอจะจ่ายเอง วันที่ซอเข้าไปคุยกับคุณขจร ก็ลุ้นกันอยู่ว่าเขาจะคิดค่ายืมมั้ย ปรากฎว่าเขาไม่คิด ก็ต้องขอขอบคุณทางบียูมากเลยครับ

แมน : แบบนี้ถ้าโก้หรือลีซอเลิกเล่น ทางชลบุรี จะผลักดันให้ขึ้นมาเป็นสตาฟฟ์โค้ชต่อไปมั้ยครับ


ศศิศ : เราก็พร้อมสนับสนุนทุกคนอยู่แล้วครับ โก้เองเขาเป็นโค้ชแน่ๆ แต่เขาจะเลือกชลบุรีหรือเปล่านี่ผมก็ไม่แน่ใจนะ (หัวเราะ) ส่วนซอ คงอีกนานครับ เพราะเขายังอยากเล่นอยู่ ไม่ได้มีแผนจะเลิกเล่นเร็วๆ นี้แน่นอน

แมน : ดีลอื่นๆ ล่ะครับ มีที่มาที่ไปยังไงบ้าง

ศศิศ : อย่างวิทยา หมัดหลำ เขาเคยร่วมงานกับพี่เตี้ยมาก่อนแล้ว ตั้งแต่สมัยอยู่บียู เขาขอเข้ามาซ้อมมาลองเทสต์ดู แล้วถึงวันที่ต้องตัดสินใจว่าจะเซ็นหรือไม่เซ็น พี่เตี้ยบอกผมว่า เขายังมีความเก๋าช่วยทีมในแดนกลางได้ ซึ่งผมก็คุยกับเขาว่าเรามีงบอยู่เท่านี้ ซึ่งน้อยกว่าที่เขาได้ที่ บีจี เยอะมาก เขาก็โอเค ว่าขอพิสูจน์ตัวเองจนจบฤดูกาลก่อน แล้วค่อยให้ทางสโมสรพิจารณาว่าจะต่อสัญญาใหม่กับเขาหรือไม่ ส่วน มง (มงคล นามนวด) เขาเคยอยู่ชลบุรีตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน แล้วก็ไม่ได้กลับมาเป็น 10 ปีแล้ว เขาบอกผมว่าอยากกลับมาเล่นที่นี่อีกสักครั้ง ซึ่งเราก็ไปดูสถิติของเขาปรากฎว่าเขาลงตัวจริงให้ หนองบัว พิชญ มาตลอดใน 5 เกมหลังสุดและมีผลงานดีด้วย แสดงว่าสภาพร่างกายเขาก็ยังดีมาก ปัญหาก็มีอยู่เรื่องเดียวคือ เงินเดือนที่เขาได้จากที่เก่ามันสูงกว่าที่เราให้ได้ ผมบอกว่าเราให้ได้เท่านี้จริงๆ ซึ่ง มง ก็บอกว่าไม่เป็นไร เขาอยากมาเล่นที่นี่ 

แมน : แล้วตัวต่างชาติที่เซ็นเข้ามาล่ะครับ จูเนียร์ โลเปซ กองหลังบราซิลมีที่มาที่ไปยังไงครับ ได้ยินมาว่า ลูเคียน เป็นคนแนะนำมา

ศศิศ : เราได้ดูโปรไฟล์และคลิปของเขาก่อนครับ แล้วลูเคียนเขาบังเอิญว่าเคยเล่นอยู่ทีมเดียวกันมาก่อน (โนว่า อิกวาชู) เขาบอกว่าคนนี้เก่ง และถ้าคว้ามาจะช่วยทีมได้เยอะแน่นอน ซึ่งพี่เตี้ยเขาก็รู้สึกถูกใจอยู่เหมือนกัน จูเนียร์เองเราก็คุยกับเขาครับว่าเรามีเงินไม่มากนะ ให้ได้เท่านี้คุณโอเคมั้ย ซึ่งที่เก่าเขาก็ได้รับสูงกว่าเหมือนกัน แต่เขาอยากมาเล่นที่ไทย เขาก็ตอบตกลงว่าโอเค เขาลองมาเล่นเลกนึงก่อน ถ้ายังไงจบฤดูกาลค่อยมาว่าเรื่องสัญญากันอีกที


แมน : พูดถึง ลูเคียน ผมได้ยินมาว่ามีทีมจากต่างประเทศแสดงความสนใจอยากซื้อตัวจริงมั้ยครับ

ศศิศ : จริงครับ ทั้งต่างชาติทั้งไทยเลยแหละ แต่สำหรับฤดูกาลนี้เราไม่ขายเขาแน่นอน ถ้าขายออกไปล่ะแย่แน่ ตัวเขาเองก็มีความสุขดีที่ได้มาอยู่ชลบุรี เขาจะอยู่ต่อหรือไม่ มันอาจจะขึ้นอยู่กับว่าสโมสรของเราตอบโจทย์ความต้องการในเป้าหมายของการเล่นฟุตบอลเขาได้หรือเปล่า

แมน : แสดงว่าฤดูกาลหน้าก็ไม่แน่เหมือนกัน

ศศิศ : ต้องรอดูกันต่อไปครับ

แมน : ข่าวลือที่ว่าจะดึง สินทวีชัย (หทัยรัตนกุล) กลับมามีมูลความจริงมั้ยครับ

ศศิศ : ไม่จริงเลยครับ วันก่อนผมเจอกับตี๋ ยังถามเขาอยู่เลยว่าเห็นข่าวมั้ย เขาบอกว่าเขาก็งงเหมือนกัน คือตี๋เขาเพิ่งต่อสัญญากับสุพรรณไปอีก 3 ปีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และก็วางแผนอนาคตของตัวเองว่าจะทำอะไรต่อไปไว้อยู่ อีกทั้งตำแหน่งประตูเราก็มีทั้ง บาส (ชนินทร์ แซ่เอียะ) และ ไอซ์ (กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล) อยู่แล้ว เราต้องปล่อยออกไปด้วยซ้ำทั้ง ธณชัย (หนูราช), วัฒนพงษ์ (ตาบุดดา)  ก่อนหน้านี้ ชาคร (พิลาคลัง) ก็ปล่อยไปให้ขอนแก่น เอฟซี ยืม

แมน : แล้วจะมีเสริมใครเข้ามาเพิ่มอีกมั้ยครับ ก่อนที่ตลาดจะปิดในวันที่ 19 ก.ค.

ศศิศ : ไม่มีแล้วครับ ตอนนี้ชลบุรีปิดตลาดแล้ว

แมน : การได้พี่เตี้ยมาเป็นโค้ช ซึ่งคาแร็คเตอร์พี่เตี้ยเป็นคนที่มีอินเนอร์ มีแพสชั่นกับเกมสูง ส่งผลอะไรต่อนักเตะในทีมบ้างครับ

ศศิศ : ผมว่ามีผลมากนะ การได้โค้ชที่เป็นคนนอกเข้ามา ทำให้ทุกคนมีความกระตือลือร้นที่จะพิสูจน์ผลงานของตัวเองเพื่อยึดตำแหน่งตัวจริงให้ได้ พี่เตี้ยแกพูดชัดเจนเลยว่า ใครที่เล่นให้แกแล้วไม่มีความสุขแกก็จะไม่ให้เล่น แกต้องการคนที่ลงสนามไปแล้วเต็มร้อยเท่านั้น

แมน : ก่อนหน้านี้คนภายนอกมองกันว่า ชลบุรี บริหารนักเตะแบบครอบครัว ทำให้ขาดแรงกระตุ้นจากภายใน บางคนอาจใช้คำแรงๆ ว่า ค่อนข้างอิหลุยฉุยแฉกกันเลยทีเดียว

ศศิศ : ครับ เราบริหารกันแบบครอบครัวทำให้นักเตะที่ได้ลงเล่นอยู่แล้วก็อาจจะไม่ค่อยแอคทีฟตัวเอง แต่พี่เตี้ยซึ่งมาจากข้างนอกเขาไม่สนใจ แม้แต่ก้อง (เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์) ปกติในทีมไม่เคยมีใครกล้าด่าเขา แต่พี่เตี้ยเข้ามาซ้อมวันแรก พี่เขาด่าก้องเลยว่า เฮ้ยเอ็งวิ่งแค่นี้เอ็งเป็นกัปตันทีมได้ไงวะ เอ็งยังอยากติดทีมชาติหรือเปล่า ทุกคนก็เงียบ ตะลึงกันหมด พี่เตี้ยพูดกับทุกคนเลยครับว่าจะทำให้เขากลับไปติดทีมชาติให้ได้ 


แมน : ก็คงเป็นกลยุทธการเข้าไปบริหารทีมของคนที่มาจากภายนอกนะครับ ต้องแสดงตัวตนความเป็นผู้นำให้เห็น ว่าเขาคือโค้ชและทุกคนต้องเชื่อเขาเท่านั้น 

ศศิศ : ครับ ซึ่งก็เป็นผลดีนะว่านักเตะทุกคนตั้งตัวจริงและตัวสำรองก็พยายามแข่งขันพิสูจน์ตัวเองเพื่อจะได้ลงเล่น

แมน : แล้วตั้งเป้าหมายไว้ยังไงสำหรับเลกสองบ้างครับ

ศศิศ : ก็จะพยายามให้จบในกลุ่มท็อปเท็นเอาไว้ก่อนครับ คงดูกันไปเกมต่อเกมมากกว่า 

แมน : ในอนาคตมีโอกาสที่คุณบอลจะเข้าไปช่วยงานทีมชาติมั้ยครับ

ศศิศ : เอิ่ม... ไม่ล่ะครับ ผมขอทำสโมสรอย่างเดียวดีกว่า

แมน : โอเคครับคุณบอล วันนี้ขอบคุณนะครับ ไว้โอกาสหน้าคุยกันใหม่นะครับ 

ศศิศ : ยินดีครับ


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์) 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด