ยุคสมัยที่บรรดาทีมใหญ่ๆเริ่มลดช่องว่างนักเตะและหันไปหาดาวรุ่งเพื่อนำมาปลุกปั้นและต่อยอดสำเร็จของสโมสร โดยช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้เราจะได้เห็นแข้งวัยละอ่อนก้าวขึ้นมาจารึกชื่อของตนเอง

โดยเฉพาะ บุนเดสลีกา ลีกที่ให้โอกาสเหล่านั้นกับบรรดาแข้งวัยละอ่อน ให้พวกเขามีโอกาสเติบโตและพัฒนาผลงานในทีมชุดใหญ่

เราจึงได้เห็นนักเตะอายุน้อยมากมายกลายเป็นที่กล่าวถึงและถูกจับตามองไม่ว่าจะเป็น เจดอน ซานโช่ จากค่าย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หรือ ไค ฮาแวร์ตซ์ กองกลางสังกัด ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่เป็นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนน้อย เพราะยังมีอีกหลายรายที่ถูกจับตามองอย่างมาก

ว่ากันว่าฤดูกาล 2019/20 จะเป็นซีซั่นที่ดาวรุ่งในเวที บุนเดสลีกา ได้เฉิดฉาย และเปล่งประกายความเป็นดาวเด่นออกมา และนี่คือแข้งที่น่าจับตามองถึงพัฒนาการและความยอดเยี่ยมของพวกเขา ... 

ยานน์-ฟีเท่อ อาร์พ (กองหน้า) - บาเยิร์น มิวนิค

สร้างชื่อกับ ฮัมบูร์ก ด้วยการเป็นนักเตะคนแรกที่เกิดในปี 2000 แล้วสามารถทำประตูในเวทีบุนเดสลีกาได้ ความยอดเยี่ยมของกองหน้าวัย 19 ปียังไม่หยุดแค่นั้นเพราะเขาสานต่อผลงานในทีมสิงห์เหนือได้อย่างต่อเนื่อง

พัฒนาการและผลงานที่ว่าทำให้ขาใหญ่ประจำลีกอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ทนเฉยไม่ได้จัดการดึง อาร์พ มาร่วมทีมในหน้าร้อนนี้ โดยหวังจะให้บทบาทเป็นอะไหล่ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่รับหน้าที่อย่างหนักในซีซั่นที่ผ่านมา

แน่นอนว่าความกังวลเกิดขึ้นเพราะโอกาสลงสนามคงไม่บ่อยมากนัก แต่สื่อในเยอรมันก็มั่นใจว่าด้วยโปรแกรมลงเล่นที่ถี่ยิบของเสือใต้ (ที่ต้องลงเล่น 3 รายการ) จะเป็นโอกาสของ อาร์พ ที่ได้ลงไปแสดงผลงานต่อหน้าแฟนบอล

ด้วยความเร็ว, พละกำลัง และการสอดส่ายหาจังหวะทำประตู เชื่อว่าหากเขาสามารถซึมซับความยอดเยี่ยมจากบรรดารุ่นพี่ในทีมเสือใต้ ไม่แน่ว่า อาร์พ จะกลายเป็นดาวยิงที่น่ากลัวของลีกในอนาคต

เจดอน ซานโช่ (ปีก) - โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยผลงานอันเอกอุ 12 ประตูและ 14 แอสซิสต์ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลุ้นแชมป์บุนเดสลีกา

แม้จะไปไม่ถึงฝั่งฝันแต่ด้วยผลงานภายใต้การทำทีมของ ลูเซียง ฟาฟร์ ช่วยให้ปีกชาวอังกฤษรายนี้เป็นที่รู้จักของแฟนบอล และยังต่อยอดไปถึงการติดทีมชาติ

ด้วยวัยเพียง 19 ปี แต่ผลงานเกินวัยและประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมาตลอดฤดูกาล เชื่อว่าจะช่วยให้แข้งรายนี้เติบโตและมีความเฉียบคมมากเดิม

แม้ว่าซีซั่นกำลังจะเริ่มต้นเขาต้องเจอกับบททดสอบมากมายโดยเฉพาะการแย่งตำแหน่งตัวจริงหลังการมาของ ยูเลี่ยน บรันด์ และ ธอร์กาน อาซาร์ กระนั้นหากมองในแง่ดีนี่จะเป็นบททดสอบสำคัญถึงทัศนคติและการพัฒนาฝีเท้าของ ซานโช่

สิ่งที่ยอดเยี่ยมจากซีซั่นที่ผ่านมาจะสามารถถูกพัฒนาให้ดีกว่าเดิมหรือไม่ นั่นคือสิ่งที่แฟนเสือเหลืองต่างตั้งตารอ และหวังว่าแข้งชาวอังกฤษรายนี้จะระเบิดผลงานที่ดีได้อีกครั้ง

อิบราฮิม่า โกนาเต้ (กองหลัง) - แอร์เบ ไลป์ซิก

แนวรับวัย 20 ปีกลายเป็นหัวใจสำคัญของ ไลป์ซิก ในการช่วยให้ทีมเสียประตูน้อยที่สุดในซีซั่นที่ผ่านมาด้วยจำนวนเพียง 29 ประตู

นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่ลงเล่นมากที่สุดในแนวรับ ด้วยพัฒนาการของ โกนาเต้ ทำให้เขากลายมาเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันฝ่ายตรงข้าม และแน่นอนว่าด้วยการมาของ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ จะยิ่งส่งผลดีกับแข้งชาวฝรั่งเศส 

ความชาญฉลาดเกินวัย การอ่านเกม ความแข็งแกร่ง รวมไปถึงความเร็วทำให้เขาเป็นกองหลังในอุดมคติของโค้ชหลายคน ซึ่งเชื่อว่าด้วยปรัชญาการให้โอกาสของ นาเกลส์มันน์ ยิ่งจะช่วยให้ โกนาเต้ พัฒนามากไปกว่าที่เห็นอยู่ในตอนนี้

ไค ฮาแวร์ตซ์ (กองกลาง) - ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

แม้อายุเพียง 20 ปีแต่ไม่มีข้อสงสัยในตัวกองกลางตัวรุกรายนี้ หลังจากนักเตะแสดงผลงานในสนามจนเป็นที่ประจักษ์ในสายตา

17 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ ในซีซั่นที่ผ่านมาส่งผลให้นักเตะก้าวขึ้นไปติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ และยังมีผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อเนื่องตลอดซีซั่น 2018/19

ตอนนี้หน้าที่ในแนวรุกของ ฮาแวร์ตซ์ หนักไปกว่าเดิม เพราะ ยูเลี่ยน บรันด์ ตัดสินใจย้ายไป โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กระนั้นนี่ก็จะเป็นบททดสอบที่สำคัญถึงการก้าวผ่านไปยังขั้นต่อไปของแข้งวัย 20 ปี

โฟลเรียน นอยเฮ้าส์ (กองกลาง) - มึนเช่นกลัดบัค

มิดฟิลด์วัย 22 ปีถูกคาดหมายว่าจะจะมีโอกาสก้าวขึ้นมาในทีมของ มาร์โค โรเซ่อ เทรนเนอร์คนใหม่ของสิงห์หนุ่ม 

แม้การต่อสู้ในแดนกลางของทีมจะทวีความรุนแรงและขับเคี่ยวกันอย่างถึงพริกถึงขิง ทว่าด้วยฝีเท้าและความมั่นใจที่ นอยเฮ้าส์ มี ก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะกลายมาเป็นทางเลือกก่อน มิกกาแอล กีซ็องส์, คริสโตฟ ครามอร์ และ เดนิส ซากาเรีย

จากผลงานในทีม ยู-21 ที่ช่วยให้ทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศทำให้ นอยเฮ้าส์ ถูกพูดถึงอย่างมาก และคาดการณ์กันว่าฤดูกาล 2019/20 จะเป็นปีทองที่เขาจะได้โอกาสจารึกชื่อในเวที บุนเดสลีกา 

โยซิป เบรคาโล่ (กองหน้า) - โวล์ฟสบวร์ก

กองหน้าวัย 21 ปีลงสนามในบุนเดสลีกาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาไปทั้งหมด 25 เกม และลงสนามในตำแหน่งตัวจริงมากถึง 15 เกม

แม้จะเล่นในตำแหน่งกองหน้าแต่ บรูโน่ ลาบบาเดีย ถ่างเขาออกไปเล่นในตำแหน่งแนวรุกทางซ้าย ซึ่งความเร็วและทักษะการยิงประตูทำให้เขากลายเป็นปีกที่อันตรายและเล่นสอดประสายกับ เฌโรม รุสสิยง ได้อย่างดีเยี่ยม

ถึงตรงนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทีมหมาป่าด้วยการมาของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ นายใหญ่คนใหม่ และนั่นคืองานสำคัญที่กองหน้าชาวโครเอเชียต้องพยายามแสดงศักยภาพเพื่อเอาชนะใจกุนซือของทีมและคว้าโอกาสลงสนามให้มากกว่าซีซั่นที่ผ่านมา

เดยัน โยเวลยิช (กองหน้า) - ไอน์ทรัคท์ แฟร้งค์เฟิร์ต

ด้วยวัยเพียง 19 ปี คำถามมากมายถูกส่งออกมาหลังจาก แฟร้งค์เฟิร์ต ตัดสินใจไปดึงกองหน้าโนเนมมาแทนที่ ลูก้า โยวิช

กองหน้าชาวเซอร์เบียหวังสานต่อความสำเร็จที่รุ่นพี่ทำเอาไว้ และนั่นคือโจทย์สำคัญที่เขาต้องผ่านไปให้ได้ และคงหลีกหนีการเปรียบเทียบไม่ได้อย่างแน่นอน

งานแรกและเป็นเรื่องที่สำคัญคือการพิสูจน์ผลงานของตนเองออกมาว่าดีพอที่จะเข้าไปเขย่าแย่งตำแหน่งตัวจริงจากบรรดารุ่นพี่ทั้ง เซบาสเตียง อัลแลร์, อันเต้ เรบิช, ฟิลิป คอสติช หรือแม้แต่ ดานนี่ ดา คอสต้า

นั่นคือสิ่งที่ โยเวลวิช ต้องแสดงตนออกมาให้เร็วที่สุด

จอช ซาร์เจนท์ (กองหน้า) - แวร์เดอร์ เบรเมน

กองหน้าวัย 19 ปีเกิดมาเพื่อเป็นจอมสอยตาข่ายและเขาอันตรายเสมอเมื่อมีพื้นที่และเวลาในกรอบเขตโทษ

ผ่านไป 205 นาทีในเวทีบุนเดสลีกา กองหน้าทีมชาติสหรัฐฯทำไปแล้ว 2 ประตู และนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเขา ซึ่งเชื่อว่าหากมีกาต่อยอดและโอกาสที่ดี ซาร์เจนท์ ก็พร้อมตอบแทนผลงานให้กับสโมสร

ที่สำคัญ นักเตะก็ต้องการพิสูจน์คุณค่าของตนเองให้ทุกคนได้เห็น และนั่นขึ้นอยู่กับโอกาสที่เขาได้รับ รวมไปถึงการฉวยโอกาสของนักเตะเมื่อเวลานั้นมันมาถึง

โชลินตง (กองหน้า) - ฮอฟเฟ่นไฮม์

ฤดูกาลที่ผ่านมากองหน้าวัย 22 ปีประสานงานร่วมกับ อันเดรย์ ครามาริช และ อิชัค เบลโฟดิล ได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อมีกุนซือคนใหม่อย่าง อัลเฟร็ด ชรอยเดอร์ เข้ามาทำหน้าที่ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ที่ขอโยกไปทำงานกับ แอร์เบ ไลป์ซิก

กระนั้นหากมองไปที่ประวัติการทำงาน ชรอยเดอร์ เป็นอดีตผู้ช่วยของ นาเกลส์มันน์ และนั่นก็น่าจะเป็นการการันตีได้ส่วนหนึ่งถึงรูปแบบการเล่นที่ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก

สำหรับทางกองหน้าชาวบราซิลแล้ว ผลงาน 7 ประตูและ 5 แอสซิสต์ ถือว่าสอบผ่านกับฤดูกาลแรกใน บุนเดสลีกา แต่สิ่งหนึ่งที่เขาต้องสลัดมันไปให้พ้นนั่นคืออาการบาดเจ็บหัวเข่าที่อาจจะส่งผลต่อพัฒนาการและการลงสนามของแข้งรายนี้