ย่อภาพลงมา อีก 1-2 วัน "ช้างศึก" จะรู้หน้าค่าตา 3 คู่แข่งในกลุ่ม จากการจับสลากแบ่งสาย ที่ประเทศกาตาร์
ทีมชาติไทยถูกเจียดให้อยู่ในโถ 3 ร่วมกับชาติอย่าง ปาเลสไตน์, อินเดีย, บาห์เรน, ทาจิกิสถาน, เกาหลีเหนือ, ไต้หวัน และ ฟิลิปปินส์
โดยใช้กฎกติกาเดิมคือ หาแชมป์ทั้ง 8 กลุ่ม พร้อมชาติอันดับ 2 ที่ทำผลงานดีสุดอีก 4 ทีม ผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายต่อไป ซึ่งพลพรรคช้างศึก จะลงประเดิมสนามนัดแรกวันที่ 5 ก.ย. ทันที
หากแต่ถึงเวลานี้เก้าอี้ทีมชาติไทย ยังถูกทิ้งปล่อยไว้ว่างไร้ผู้มานั่ง
แม้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประมุขบอลไทย จะยืนกรานว่าชื่อเฮดโค้ชคนใหม่คือ อากิระ นิชิโนะ ที่ตบปากรับคำสัญญา "ลูกผู้ชาย" กันไว้แล้วว่าจะมานั่งร่วมงานกัน
แม้จะยังไม่มีการเซ็นสัญญาก็ตาม!!!
ทั้งนี้เหตุผลที่เฮดโค้ชเลือดบิชิโด ยังไม่เข้ามาเซ็นสัญญาเป็นทางการ เนื่องจากติดภารกิจเป็นวิทยากรอบรมให้ทางสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งหากเสร็จจะเดินทางมาประเทศไทยทันที
ปัญหาคือทีมชาติไทยเหลือเวลาเตรียมความพร้อมเพียง 52 วันเท่านั้น ก่อนลงแข่งขันในนัดแรก และสมาคมเลือก "ซื้อเวลา" จากนิชิโนะ
แม้ทาง "บิ๊กอ๊อด" บอกว่ามีทีมงานคอยเตรียมเก็บสถิติข้อมูลนักฟุตบอลไทยไว้พอสังเขป เพื่อเตรียมให้กุนซือใหม่ใช้พิจารณา แต่นั่นไม่ใช่ "ความพร้อม" ทั้งหมด
อย่าลืมว่า กุนซือแต่ละคน มีศาสตร์วิธีคิดการทำทีมที่ต่างกันไป และยิ่งกับ นิชิโนะ เองที่เพิ่งเข้ามาดูไทยลีกไปเพียง 2 เกมไม่นานมานี้ และต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดกับสภาพแวดล้อมที่ต่างจากเคยเจอมา
ระบบการเล่น แบบแผน แท็คติก ความเข้าใจเกม สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาในการปรับจูน และนั่นคือสิ่งที่ทีมชาติไทยมีน้อยลงทุกที หากยัง "ยื้อ" ต่อไปเช่นนี้
ไม่นับรวมกับเกมอุ่นเครื่องที่ใช้ทดลองทีมอีก!!!
หากสมาคมฟุตบอลฯ สามารถคุยกับทางสโมสรสมาชิก ก่อนเกมไทยลีกนัดที่ 26 (วันที่ 25 ส.ค.) ได้ลงตัว ทัพช้างศึกจะมีเวลาเก็บตัวราว 10 วัน ก่อนลุยฟุตบอลโลกนัดแรก เพราะหากอ้างอิงตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์เป๊ะๆ ทีมชาติไทย จะเรียกนักเตะไปใช้งานได้ก็วันที่ 2 ก.ย. ซึ่งไม่น่าเป็นเวลาที่มากพอ
ปัญหาคือการวางโปรแกรมอุ่นเครื่องนอกฟีฟ่าเดย์ เหมือนที่สมาคมฟุตบอลฯเคยทำหนังสือขออนุญาตให้ใช้เป็นเกม A Match บ่อยครั้งนั้น บรรดาสโมสรจะ "เล่นด้วย" หรือไม่
เพราะช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในโมงยาม "โค้งสุดท้าย" ของไทยลีก ที่ต้องหวดกันสะบั้นหั่นแหลก โดยเฉพาะทีมลุ้นแชมป์ และกลุ่มหนีตกชั้น
ที่ผ่านมากุนซือทีมชาติไทยหลายคนเจอกรณีศึกษาเช่นนี้มาแล้วคือ นักเตะที่ถูกเลือกเข้ามาติดเกิด "บังเอิญ" บาดเจ็บ หรือป่วยอย่างกะทันหัน จนต้องถอนตัวบ่อยครั้ง สุดท้ายโค้ชไม่สามารถเตรียมทีมชุดดีที่สุดได้เสียที
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่โค้ชใหม่ทีมชาติไทยต้องเจอแน่ และยิ่งกับกรอบเวลาที่อนุญาตให้จำกัดจำเขี่ยด้วย
ในวันทีมชาติไทยต้องการกู้ศรัทธากลับมา แต่แค่เริ่มก็เหมือนจะลำบากเสียแล้ว
บางที ... สิ่งที่แพงไม่แพ้ค่าเซ็นสัญญา อากิระ นิชิโนะ อาจมีชื่อว่า "เวลา"
