คุยกับ จักรพันธ์ พรใส : "ผมอยากกลับไปติดทีมชาติอีกครั้ง"
แมน : สวัสดีครับบอล เป็นไงบ้างลงเล่นเกมแรกนัดล่าสุดนี่มีส่วนร่วมกับ 3 ประตูที่ทำได้เลย
จักรพันธ์ : พอใจครับพี่ ที่โค้ชให้โอกาสเราลงเล่นและสามารถทำผลงานได้ดี ดีใจมาก ๆ ครับ
แมน : บอลประสานงานกับนักเตะต่างชาติในทีมได้ดีเลยนะ โดยเฉพาะ (ลอสเซมี่) การาบูเอ้ กับ (สตีเว่น) ล็องจิล อย่างพี่เป็นคนดูก่อนหน้านี้รู้สึกว่าหลาย ๆ ทีมรวมถึง ราชบุรี เอง ตัวต่างชาติก็มักจะเอาบอลไปเล่นกันเอง จะมีนักเตะไทยที่บทบาทเยอะ ก็คงเป็น กฤษณนน (ศรีสุวรรณ) กับ จิรวัฒน์ (ทองแสงพราว) ที่เด่น ๆ หน่อย แต่ทำไมบอลมาถึงปั๊บ ดูเหมือนตัวต่างชาติจะค่อนข้างไว้ใจส่งบอลให้เยอะมาก
จักรพันธ์ : น่าจะเห็นกันตั้งแต่ตอนซ้อมแล้วครับ จริง ๆ แล้วผมเพิ่งมีโอกาสซ้อมกับทีมชุดใหญ่จริงจังแค่ 3-4 วันเอง แต่ตอนซ้อมก็จะเห็นแล้วว่าแต่ละคนชอบเคลื่อนที่แบบไหน ชอบรับบอลแบบไหนแล้วทำอะไรได้บ้าง ซึ่งพวกต่างชาติก็คงเห็นเหมือนผมว่าเซนส์บอลเราไปกันได้ บิ๊ก (ประวีณวัช บุญยงค์) ก็ยังถามผมเลยว่าเฮ้ยทำไมพวกต่างชาติจ่ายให้พี่เยอะจัง
แมน : บิ๊กยังอยู่กับทีมใช่มั้ยครับ ช่วงนี้เงียบหายไปเลย
จักรพันธ์ : อยู่ครับ แต่น้องมันยังเจ็บอยู่
แมน : การประสานงานกับพวก การาบูเอ้, ล็องจิล, ยานนิค โบลี่ เป็นไงบ้างครับ
จักรพันธ์ : ล็องจิลเก่งมากครับ ผมยอมรับเลยว่าเก่งจริง ๆ แต่จังหวะตัดสินใจบางครั้งก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เกมล่าสุดเรานำ โคราช อยู่ 3-2 ท้ายเกมเราได้เตะมุม ผมคุยกับเขาว่าเล่นบอลสั้นนะ แต่เขาดันยิงเฉยเลย บอลเฉี่ยวหน้าผมไปนิดเดียว แล้วไปเข้ามือ แซมมวล (ป.คันนิงแฮม) แซมมวลก็เตะยาวสวนกลับแล้วเราก็เสียประตูในช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย ไม่งั้นก็คงได้ 3 แต้มไปแล้ว ซึ่งเป็นแต้มสำคัญมาก ๆ ครับ ทุกคนก็หัวเสียกันมากเลย เพราะถ้าเก็บบอลไว้ก็คงชนะแล้ว
แมน : เขายิงไป 2 แล้วคงกะทำแฮททริคมั้ง เกมรุกราชบุรีตอนนี้ถือว่าโอเคเลยนะ แต่เกมรับล่ะไหวมั้ย นัดล่าสุดนำ 3-1 แต่สุดท้ายกลับโดนตีเสมอเป็น 3-3 ฤดูกาลนี้เหลืออีก 12 นัด คิดว่าสถานการณ์ของทีมตอนนี้เป็นยังไง
จักรพันธ์ : จริง ๆ เกมรับราชบุรีผมถือว่าโอเคเลยนะครับ เชพของทีมดีมาก แต่อาจจะด้วยความที่เราใช้กองหลังไทยทั้งหมด แล้วเกมที่ผ่านมา พี่เอก (เอกลักษณ์ ทองกริด) กับ ปลั๊ก (ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์) คนนึงก็ท้องเสียอีกคนก็ไม่สบาย ช่วงท้าย ๆ เลยอาจจะมียุบให้เห็น ปีนี้ก็ต้องช่วยกันเต็มที่ครับ เพราะเหลืออีก 12 นัดยังอีกยาวไกล อันดับมันสามารถเปลี่ยนขึ้นลงได้ทุกเกมครับ
แมน : โค้ชมาร์โกเขาใช้งานบอลทันทีตั้งแต่มาถึงเลยมั้ยครับ
จักรพันธ์ : ไม่ครับ ตรงนี้ผมโอเคกับเขามากเลยนะ ผมมาเกมแรกที่เจอตราด ตอนนั้นลงทะเบียนยังไม่ทัน แล้วก็มาเกมเปิดบ้านเจอท่าเรือ ตอนนั้นผมเพิ่งเริ่มซ้อมกับทีมเอง มาร์โกเขายังไม่ให้ผมลง ถึงคนอื่นในทีมอยากจะให้ผมลงก็ตาม แต่เขายืนยันว่าไม่ ซึ่งผมรู้สึกว่าเขาทำถูกต้องแล้วนะ เพราะคนอื่น ๆ ซ้อมด้วยกันมา ถ้าผมที่เพิ่งมาถึงจะได้เล่นเลยก็คงไม่ยุติธรรมต่อคนอื่น ๆ ผมเพิ่งได้เล่นเกมกับ โคราช เป็นเกมแรก ซึ่ง มาร์โก เขาเห็นผลงานจากการซ้อม เขาจะเลือกคนที่ซ้อมดีลงเล่น ไม่ได้ยึดติดกับผู้เล่นคนไหน ทำให้เกิดการแข่งขันในทีม อันนี้ดีมากครับ
แมน : แต่มาร์โก ก็อำลาทีมไปแล้ว และกำลังจะมีโค้ชใหม่เข้ามา ฟอร์มบอลกำลังดี ๆ เปลี่ยนโค้ชแบบนี้กังวลบ้างมั้ยว่าจะมันจะต่อเนื่องหรือเปล่า
จักรพันธ์ : ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าใครจะเข้ามา แต่สำหรับผมชอบทำงานกับโค้ชต่างชาติมากกว่า ผมว่าโค้ชต่างชาติเขาตรงไปตรงมาดีในการเลือกคนลงสนาม แล้วก็มีความรู้ใหม่ ๆ ให้เราได้ศึกษาด้วยครับ
แมน : แล้วมีแรงผลักดันอะไรเป็นพิเศษมั้ยที่ทำให้ผลงานดีตั้งแต่เกมแรกเลย
จักรพันธ์ : ผมว่ามันเป็นความเก็บกดอัดอั้น ผมอยากเล่นมานานแล้ว ตอนอยู่แบงค็อก ผมได้เล่นน้อยมาก ผมได้เล่นไปแค่ 3-4 เกมในฤดูกาลนี้ แล้วก็มีความรู้สึกว่าเราก็ฟิต เราน่าจะดีพอที่จะได้้เล่นมากกว่านี้ พอได้ลงเล่นก็เหมือนได้ปลดปล่อยออกมา มันเป็นความสุขที่ได้กลับมาเล่นเต็มเกม
แมน : น่าจะอารมณ์คล้าย ๆ ลีซอ (ธีรเทพ วิโนทัย) ที่ย้ายเพราะอยากลงสนาม
จักรพันธ์ : ประมาณนั้นครับ ผมก็คุยกับพี่ซออยู่เรื่อย ๆ ของพี่ซอยังดีเพราะยังได้ลงเล่นอยู่บ้าง แต่ผมรู้สึกเหมือนกันตรงที่ว่าเราวัยขนาดนี้ สำหรับอาชีพนักบอลมันก็คงเป็นช่วงท้าย ๆ แล้ว ดังนั้นจึงอยากรู้อนาคตของตัวเองว่าจะเอายังไงต่อ เพราะสัญญาผมกำลังจะหมดกับแบงค็อก ผมรู้สึกว่าระดับไทยลีกเราก็ยังเล่นได้นี่หว่า ก่อนหน้านี้ก็มีหลาย ๆ ทีมที่สนใจให้ผมไปเล่นแบบยืมตัว แต่ก็ปล่อยให้เวลามันผ่านไปเรื่อย ๆ จนราชบุรีแสดงความจริงจัง และผมเคยเล่นที่นี่อยู่แล้วตั้งแต่ปีก่อน ก็เลยคิดว่ามาที่นี่น่าจะลงตัวที่สุด
แมน : การที่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน ช่วยให้ปรับตัวง่ายขึ้นมั้ย
จักรพันธ์ : ช่วยได้มากเลยพี่ คือสตาฟฟ์โค้ชชุดเดิมก็ยังอยู่ อาจจะมี มาร์โก ซิโมเน่ เข้ามาแต่ทีมงานคนอื่น ๆ หรือนักเตะ รวมถึงพี่ฟลุ๊ค (ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผู้จัดการทีม) ก็ยังอยู่กับทีมเหมือนเดิม ผมแทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมายเลย
แมน : ได้คุยกับ มาโน่ โพลกิ้ง ก่อนย้ายออกมามั้ยครับ
จักรพันธ์ : ครั้งนี้ผมไม่ได้คุยเลย คือตอนต้นฤดูกาล ผมเคยถามเขาแล้วว่าถ้าไม่ใช้ผมก็ปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวได้มั้ย แต่เขาบอกว่าผมยังอยู่ในแผนของเค้า แต่พอเปิดฤดูกาลมา ผมแทบไม่ได้เล่นเลย พอลงเล่นก็ถูกเปลี่ยนตัวออกตลอด หรือไม่ก็ได้ลงท้าย ๆ เกม ผมเลยคิดว่าอยู่ในแผนแล้วทำไมไม่ให้เล่น เราอยากเล่น บางทีเรากำลังฟอร์มเริ่มจะดีเริ่มสร้างโอกาสให้ทีมได้ก็เปลี่ยนเราออก ผมยอมรับนะว่าอยู่กับ แบงค็อก สโมสรดูแลผมดีมาก เรื่องรายได้หรือบรรยากาศต่าง ๆ มันดีหมด แต่สำหรับการเป็นนักฟุตบอล ผมอยากลงเล่น ถ้าผมได้ลงเยอะกว่านี้ก็คงไม่อยากย้ายไปไหนแน่นอน
แมน : ลีซอเขาบอกว่า เขาย้ายไปชลบุรี เพราะยังมีไฟ อยากจะกลับไปติดทีมชาติอีกครั้ง ซอถึงกับยอมลดค่าจ้างลง 3-4 เท่า เป็นเหตุผลเดียวกันกับบอลมั้ยครับ
จักรพันธ์ : ผมก็ยังอยากกลับไปติดทีมชาติครับ ผมหวังว่ารักษาความสม่ำเสมอไปเรื่อย ๆ ถ้าทีมชาติมองหาตัวเลือกทางริมเส้นแล้วเราทำผลงานได้ดีก็อาจจะมีโอกาส สำหรับผมการติดทีมชาติยังมีความหมายกับผมเสมอครับ เรื่องค่าจ้างผมเองก็ได้น้อยลงกว่าเดิมประมาณ 20% แต่แลกมาด้วยการได้ลงเล่นสม่ำเสมอ
แมน : บอลอายุเท่าไหร่นะครับ
จักรพันธ์ : ปีนี้ 32 ครับ
แมน : วางแผนอนาคตไว้ยังไงบ้าง ตอนนี้มีครอบครัวหรือยัง
จักรพันธ์ : ยังไม่ได้แต่งงานครับ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าชีวิตเรายังไม่มั่นคง สิ่งที่ผมอยากรู้ก่อนก็คือหลังจบฤดูกาลนี้ ผมจะหมดสัญญากับแบงค็อก แล้ว ราชบุรี จะเซ็นกับผมต่อมั้ย ผมจะพยายามรักษาผลงานใน 4 เดือนนี้ให้ดีที่สุดให้สโมสรเห็นว่าผมทำอะไรให้ทีมได้บ้าง ถ้าผมได้สัญญาใหม่ สมมติว่า 3 ปี ก็คงจะพอวางแผนชีวิตได้ว่าจะทำอะไรต่อไป
แมน : ช่วงก่อนหน้านี้ ชื่อของ จักรพันธ์ พรใส เงียบหายไปมาก ๆ เลยนะ เอาจริง ๆ คือแทบไม่มีใครกล่าวถึงเลย
จักรพันธ์ : นั่นแหละครับ คือผมอยากเล่นไทยลีก ผมคิดมาตลอดนะว่าเรามาถึงจุดที่เล่นไทยลีกไม่ได้แล้วจริงหรอ ผมอยากพิสูจน์ตัวเองตรงนี้ให้ได้ว่าผมยังไหวอยู่นะเว้ย
แมน : วางแผนจะเป็นโค้ชหลังเลิกเล่นมั้ยครับ
จักรพันธ์ : ตอนนี้ผมได้ ซี ไลเซนส์ แล้วนะพี่ อบรมผ่านตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็คงจะหาเวลาไปอบรมเพิ่มเลเวลขึ้นไปอีก แต่จริง ๆ แล้วผมไม่อยากเป็นโค้ชนะ ผมอยากเป็นผู้จัดการทีมมากกว่า หรืออะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับฟุตบอล เพราะเราก็อยู่กับฟุตบอลมาตลอดทั้งชีวิต
แมน : เห็นนักเตะหลาย ๆ คนไปเปิดอะคาเดมี่สอนเด็ก บอลอยากทำบ้างมั้ย
จักรพันธ์ : เขาทำกันเยอะแล้วอะครับ ถ้าผมทำอยากจะเปิดสอนแบบเฉพาะทางมากกว่า ไม่ใช่สอนเบสิก หรือส่งแข่งเหมือนทั่วไป เหมือนอย่างที่เขามีคอร์สสอนกองหน้า ผมก็อยากทำแบบสอนเทคนิคอินดิวิดวลไปเลย แต่เรื่องนี้ผมยังไม่ได้คิดอะไรจริงจัง มันยังอีกไกล ตอนนี้ขอเตะบอลก่อนดีกว่า
แมน : วันพุธนี้เตะบอลเอฟเอ คัพ ไปเยือน นครศรี ยูไนเต็ด บอลต้องลงเล่นมั้ยครับ
จักรพันธ์ : ลงไม่ได้พี่ ผมเคยเล่นให้แบงค็อกไปแล้ว
แมน : อ๋อติดคัพไท งั้นก็ได้พักยาว ๆ ไปรอเล่นบอลลีกเลย นัดต่อไปต้องเจอใครนะ
จักรพันธ์ : วันเสาร์นี้เปิดบ้านเจอ เชียงใหม่ ครับ
แมน : น่าจะเป็นเกมที่ยากมั้ย เพราะเชียงใหม่ก็ฟอร์มดีขึ้นเยอะเลยช่วงนี้
จักรพันธ์ : เป็นเกมที่ต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้สถานเดียวครับ เพราะเจอทีมในโซนท้ายด้วยกันตัดแต้มกันเอง เชียงใหม่เขาขาด 3 นักเตะที่ยืมจากเราไป ก็น่าจะเบาลงไปเยอะครับ
แมน : โอเคครับบอล ขอให้โชคดีแล้วกัน เดี๋ยวไว้โอกาสหน้าพี่โทรมาคุยใหม่นะ ขอบคุณมาก
จักรพันธ์ : ขอบคุณครับพี่แมน
ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)