:::     :::

'ปารีสซินโดรม' ที่ เนย์มาร์ ต้องรักษา

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2562 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
1,458
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
'ปารีสซินโดรม'

    นี่คืออาการที่ถูกบัญญัติว่าผิดปกติทางจิตซึ่งประสบภาวะช็อกอย่างรุนแรง เมื่อพวกเขาพบว่ากรุงปารีสแตกต่างจากที่คิดอย่างลิบลับ

    ว่ากันว่าชาวญี่ปุ่นเป็นคนเริ่มเรียกชื่อโรคดังกล่าว ซึ่งสาเหตุหลักมาจากความผิดหวังอย่างรุนแรงหลังได้มาเยือนกรุงปารีสเป็นครั้งแรก โดยเดิมทีแล้วผู้คนส่วนมากมักวาดภาพกรุงปารีสในหัวไว้หรูราวกับสวรรค์ สถานที่ดังกล่าวคือดินแดนแห่งความรักอันงดงาม

    แต่!!!

    หลังจากได้สัมผัสกรุงปารีสจริงๆ นักท่องเที่ยวหลายคนกลับเจอสุนัขขับถ่ายเรี่ยดราด ผู้คนแก่งแย่งแซงคิวกัน โจรขโมยชุกชุม แถมบ้านเมืองก็สกปรก ทำให้เกิดโรคเครียดอย่างรุนแรง และฉับพลันโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากผิดหวังจากการคาดหวังที่สูงจนเกิน

    เนย์มาร์ เองก็เหมือนจะกำลังถูกจับมาเป็นผู้ป่วยในกลุ่มนี้

    ดาวเตะบราซิเลี่ยนย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า เมื่อซัมเมอร์ ปี 2017 เพื่อมุ่งหน้าสู่มหานครปารีสด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจะพิสูจน์ตัวเองถึงตำแหน่งเบอร์หนึ่งของโลก

    แต่เหมือนหลายสิ่งไม่ได้เป็นดังหวัง เนย์มาร์ ติดโผบัลลงดอร์ ปี 2018 ด้วยอันดับที่ 12 เท่านั้น ขณะที่ฤดูกาลล่าสุดก็เดี้ยงเสียเป็นส่วนใหญ่จนแทบทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

    เนย์มาร์ เริ่มก่อหวอดด้วยการกลับมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมช้ากว่ากำหนด โดยให้เหตุผลว่าเป็นกำหนดการณ์ส่วนตัวที่จัดการไว้ตั้งแต่ปีก่อนแล้ว

    นอกจากนี้ยังตอกย้ำด้วยการเอามีดกรีดกลางใจสาวก ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ด้วยการเผยว่าช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตก็คือเกมที่อดีตต้นสังกัดอย่าง บาร์ซ่า พริกนรกจากสกอร์ตามหลัง 0-4 กลับมาเอาชนะ เปแอสเช 6-1 เมื่อ 2 ปีก่อน

    คำพูดนั้นมันยิ่งทำให้สกานการณ์ระหว่างทีมเมืองหลวงของฝรั่งเศส กับ เนย์มาร์ ยิ่งแย่ลงไปใหญ่ แต่พวกเขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรเนื่องจากมี คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ในทีมอยู่แล้ว

    ความสำคัญของหัวหอกทีมทัพตราไก่นั้นไม่ต้องพูดถึง เมื่อสถิติระบุยิงไปทั้งสิ้น 43 ประตูในการรับใช้สโมสร และทีมชาติฤดูกาลที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเขานี่แหละคืออนาคตของจริงสำหรับถิ่นปาร์ก เดส แพร็งซ์ ในภายภาคหน้า

    แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะได้เห็นทีมอย่าง บาร์ซ่า จะหอบเงินก้อนโตมาสู่ขอ เนย์มาร์ คืนจาก เปแอสเช

    ทำไมน่ะเหรอ?

    เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์คนปัจจุบันไม่ได้คุ้นชินกับความสามารถส่วนตัวของเขา ขณะที่ ลีโอเนล เมสซี่, อองตวน กรีซมันน์, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อุสมาน เดมเบเล่ และ มัลคอม ก็ยังอยู่

    พูดง่ายๆ ก็คือ ขณะนี้ยักษ์ใหญ่จากกาตาลันไม่จำเป็นต้องมี เนย์มาร์ ในทีมแล้ว แม้ว่า คูตินโญ่, เดมเบเล่ และ มัลคอม อาจจะต้องเดินออกจากถิ่นคัมป์ นู ในซัมเมอร์นี้ก็ตามที

    มันเคลียร์แล้วว่า เนย์มาร์ ไม่ได้ต้องการลงเล่นให้ ปารีส อีกต่อไป แต่ที่จอดรถของ บาร์ซ่า ก็ไม่มีที่ว่างให้กับ สมาร์ทคาร์ ของเขาด้วยเหมือนกัน

    ทีมเงินถังอย่าง เปแอสเช ยังไงก็ไม่ตื่นเต้นอะไรอยู่แล้วกับการพยศของกองหน้าบราซิเลี่ยนในครั้งนี้

    เนย์มาร์ จึงกำลังค้นพบว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่น่าอึดอัดมากที่สุดในโลก

    จะว่าไปเรื่องนี้มันก็ยังถูกโยงมาถึงเวทีระดับนานาชาติได้อีกด้วย

    ทีมชาติบราซิลผงาดคว้าแชมป์โกปา อเมริกา 2019 ซึ่งมี เอแวร์ตอน ปีกพ่อมดคนใหม่แจ้งเกิดขึ้นมา ผสมด้วยชั้นเชิงของ กาเบรียล เชซุส

    นอกจากนี้ก็ยังมีทีมเวิร์คจาก ดาวิด เนเรส, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ริชาร์ลิซอน ทำให้เทรนเนอร์อย่าง ตีตี้ สามารถเปลี่ยนนักเตะเข้า-ออกก็ได้ทุกเมื่อโดยไม่จำเป็นต้องเกรงใจใคร

    ถือเป็นเรื่องน่าตกใจเหมือนกัน เพราะมองจากสถิติแล้ว ดาวยิงวัย 27 ปีนั้นทำไปถึง 60 ประตู จาก 97 นัดในนามทีมชาติ แต่กลับมากระแสโต้แย้งอย่างกว้างขวางว่าทัพแซมบ้ากลายเป็นทีมที่ดีกว่าเมื่อไม่มี เนย์มาร์ อยู่ในสนาม

    เนย์มาร์ ที่ได้แต่เฝ้ามองเพื่อนอยู่บนอัฒจันทร์คงนึกในใจ "ชิบหาย! กูอีกแล้ว..."

    ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่หลายคนคิดในใจ แม้ว่า เนย์มาร์ จะเป็นนักเตะที่หาตัวจับได้ยากมากที่สุดคนหนึ่งในโลกลูกหนัง

    นับตั้งแต่หมดยุคของ โรนัลดินโญ่ ไป ทัพแซมบ้าก็มี เนย์มาร์ นี่แหละที่เป็นนักเตะที่ความสามารถเฉพาะตัวเข้าขั้นชั้นยอด โดยเขาเองก็เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าอยู่ในระดับเดียวกับทั้ง เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

    เวลานี้ เนย์มาร์ ไม่ต้องการใช้ชีวิตในลีกที่ไร้ความท้าทายอีกต่อไปแล้ว แต่ปัญหาก็คือตัวเขาเองในทุกวันนี้จะไปไหนได้

    นั่นคือคำถามที่ไร้คำตอบ

    ทางเลือกของ เนย์มาร์ ก็คือต้องระมัดระวังเรื่องการย้ายทีมให้ดี หรือไม่ก็เสี่ยงต่อการแตกหักอย่างร้ายแรงกับสโมสร และอาจกระทบไปถึงสถานะในทีมชาติบราซิลด้วย

    ยิ่งเขาหาวิธีรักษาโรค 'ปารีสซินโดรม' ได้เร็วเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดีกับตัวเขาเองมากขึ้นเท่านั้น...

    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด