:::     :::

'ชุดขาว'ไม่ขาวเหมือนเดิม

วันพฤหัสบดีที่ 02 พฤศจิกายน 2560 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
2,513
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นับตั้งแต่ที่ ซีเนดีน ซีดาน เข้ามารับเผือกร้อนต่อจาก ราฟาเอล เบนิเตซ เมื่อช่วงต้นปี 2016

    เรอัล มาดริด ก็สถาปนาตัวเองเป็นสโมสรอันดับหนึ่งของโลก แบบไร้ใครเทียบ

    แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยสส์ ลีก 2 สมัยติดต่อกัน

    แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย

    แชมป์ลา ลีกา

    แชมป์ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า

    แชมป์สโมสรโลก

    แต่พอฤดูกาลใหม่ผลัดใบเข้าซีซั่น 2017-18 อะไรๆ ก็ดูผิดเพี้ยนไป

    การเสมอกับทีมรองบ่อนอย่าง บาเลนเซีย และ เลบันเต้ อาจมองว่าเป็นอุบัติเหตุลูกหนังที่เกิดขึ้นได้

    ทว่าความพ่ายแพ้ต่อ เรอัล เบติส หรือกระทั่งน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์อย่าง คิโรน่า จะเรียกว่าเป็นวิกฤติก็คงไม่ผิดนัก

    จากที่ตัวเองต้องเป็นผู้ท้าชิงแย่งแชมป์ลีกกับ บาร์เซโลน่า กลายเป็นว่าตอนนี้โดนจ่าฝูงทิ้งห่างไปไกลถึง 8 คะแนนเข้าให้แล้ว

    มันยิ่งตอกย้ำไปอีกกับการพังพินาศนัดล่าสุดต่อ สเปอร์ส ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก

    มันทำพวกเขาเสียสถิติไร้พ่ายในรอบแบ่งกลุ่มที่รักษามายาวนานถึง 30 นัดนับตั้งแต่ตุลาคม ปี 2012 โน่นเลยทีเดียว

    ทีนี้เลยเกิดคำถามมากมายว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้ยอดทีมอย่างราชันชุดขาวต้องประสบพบเจอกับวิกฤติร้ายแรงเช่นนี้

    จุดแรกเลยอาจเป็นในเรื่องของการเสริมทัพ เพราะอย่างที่ทราบ ทีมของกุนซือเฟร้นช์แมนต้องเสีย อัลบาโร่ โมราต้า, ฮาเมส โรดริเกซ, เปเป้ และ ดานิโล่ ที่พร้อมเป็นอะไหล่ชั้นดียามตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินไปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ตัวทีเด็ดอย่างฮาเมสกับโมราต้าถูกขายออกไป

    และการดึงดาวรุ่งอย่าง ดานี่ เซบาโยส กับ เตโอ แอร์กน็องเดซ เหมือนจะยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้เลย

    แม้ทั้งสองคนอาจเป็นอนาคตที่สดใสในรั้งซานติอาโก เบร์นาเบว ทว่าเวลานี้ เรอัล มาดริด ยังขาดตัวทดแทนในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ, แบ็กขวา และที่สำคัญเลยกองหน้าตัวจบสกอร์

    มันจึงเลยเถิดไปถึงทีเด็ดทีขาดในช่วงท้ายเกมที่ไม่หลงเหลืออยู่เลย

    หากมองไปยังซีซั่นก่อน แม้จะมีบางนัดที่ทัพราชันเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน แต่พวกเขาก็มักจะมีทีเด็ดจากเหล่าซูเปอร์ซับให้เห็นในช่วงท้ายอยู่บ่อยครั้ง

    นับรวมก็ 9 หนเลยทีเดียวที่ทีมของ ซีดาน สามารถเก็บแต้มได้จากการยิงในช่วง 10 นาทีสุดท้ายน

    เมื่อเทียบกับปีนี้ มีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่ เรอัล มาดริด คว้าชัยในช่วงท้ายเกม จากการยิงของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้ทีมเอาชนะ เคตาเฟ่ แต่ก็เคยโดน เรอัล เบติส ยิงจนพังคาบ้านในนาทีที่ 93 มาแล้ว

    เมื่อพูดถึง โรนัลโด้ แล้ว ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าสตาร์ทีมชาติโปรตุเกสฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย

    จากสถิติ 8 ซีซั่นที่ผ่านมากับ เรอัล โรนัลโด้ยิงในลา ลีกา จากการเล่น 10 นัดแรกได้ที่ 5, 11, 10, 11, 8, 17, 8 และ 5 ตามลำดับ

    แต่ในซีซั่นนี้ ดาวเตะเลือดฝอยทองเพิ่งยิงในลีกได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น ทว่าส่วนหนึ่งก็มาจากการติดโทษแบนในช่วง 5 เกมแรกด้วย

โรนัลโด้ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย

    ค่าเฉลี่ยชี้ชัดว่า โรนัลโด้ เปลี่ยนโอกาสทั้งหมดให้เป็นประตูได้เพียงแค่ 2.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หลังซัดเพียงเม็ดเดียวจากสับไกถึง 40 ครั้ง ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดในบรรดานักเตะที่ยิงประตูได้แล้วของ 5 ลีกใหญ่ยุโรปเลยทีเดียว

    นอกจากแนวรุกที่ฝืดจัดแล้ว หลังบ้านของพวกเขาก็ยังมีปัญหาด้วย โดยปีนี้เสียไปแล้วถึง 9 ลูกจาก 10 นัดในลีก ต่างจาก บาร์เซโลน่า ที่เพิ่งโดนเจาะตาข่ายไปแค่ 3 ดอกเท่านั้น

    นอกจากจะเสียเยอะแล้ว ทีเด็ดการเติมเกมจากแนวรับมาช่วยทำประตูยังน้อยลงไปอีกต่างหาก หลังปีก่อน เซร์คิโอ รามอส แค่คนเดียวก็ลั่นสกอร์ได้ถึง 7 ลูกแล้ว

แนวรับไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม

    และปัญหาใหญ่ที่สุดก็น่าจะมาจากการขาดหายไปของเหล่าตัวหลักที่ทั้งเจ็บ และแบนพร้อมๆ กัน

    ที่ยังพักอยู่ตอนนี้มีแต่เหล่าสตาร์ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น แกเร็ธ เบล, มาเตโอ โควาซิช, ราฟาแอล วาราน, ดานี่ การ์บาฆาล และ เกย์ลอร์ นาวาส

เบลรักษาอาการบาดเจ็บมากกว่าลงเล่นเสียอีก

    ก่อนหน้านี้ก็เป็นพวก คาริม เบนเซม่า, มาร์เซโล่ และ เตโอ แอร์กน็องเดซ ที่เพิ่งจะหายกลับมา

    ทั้งหมดทั้งมวลอาจเป็นปัญหาที่มัดรวมก้อนจนทำให้ เรอัล มาดริด ต้องพบกับวิกฤติหนักอยู่ในตอนนี้

    และหากยังไม่สามารถแก้ลำหาจุดเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้

    ที่จะวิกฤติที่สุดเห็นจะเป็นเก้าอี้ของซีดานเอง



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด