'ชุดขาว'ไม่ขาวเหมือนเดิม
เรอัล มาดริด ก็สถาปนาตัวเองเป็นสโมสรอันดับหนึ่งของโลก แบบไร้ใครเทียบ
แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยสส์ ลีก 2 สมัยติดต่อกัน
แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย
แชมป์ลา ลีกา
แชมป์ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า
แชมป์สโมสรโลก
แต่พอฤดูกาลใหม่ผลัดใบเข้าซีซั่น 2017-18 อะไรๆ ก็ดูผิดเพี้ยนไป
การเสมอกับทีมรองบ่อนอย่าง บาเลนเซีย และ เลบันเต้ อาจมองว่าเป็นอุบัติเหตุลูกหนังที่เกิดขึ้นได้
ทว่าความพ่ายแพ้ต่อ เรอัล เบติส หรือกระทั่งน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์อย่าง คิโรน่า จะเรียกว่าเป็นวิกฤติก็คงไม่ผิดนัก
จากที่ตัวเองต้องเป็นผู้ท้าชิงแย่งแชมป์ลีกกับ บาร์เซโลน่า กลายเป็นว่าตอนนี้โดนจ่าฝูงทิ้งห่างไปไกลถึง 8 คะแนนเข้าให้แล้ว
มันยิ่งตอกย้ำไปอีกกับการพังพินาศนัดล่าสุดต่อ สเปอร์ส ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก
มันทำพวกเขาเสียสถิติไร้พ่ายในรอบแบ่งกลุ่มที่รักษามายาวนานถึง 30 นัดนับตั้งแต่ตุลาคม ปี 2012 โน่นเลยทีเดียว
ทีนี้เลยเกิดคำถามมากมายว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้ยอดทีมอย่างราชันชุดขาวต้องประสบพบเจอกับวิกฤติร้ายแรงเช่นนี้
จุดแรกเลยอาจเป็นในเรื่องของการเสริมทัพ เพราะอย่างที่ทราบ ทีมของกุนซือเฟร้นช์แมนต้องเสีย อัลบาโร่ โมราต้า, ฮาเมส โรดริเกซ, เปเป้ และ ดานิโล่ ที่พร้อมเป็นอะไหล่ชั้นดียามตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินไปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ตัวทีเด็ดอย่างฮาเมสกับโมราต้าถูกขายออกไป
และการดึงดาวรุ่งอย่าง ดานี่ เซบาโยส กับ เตโอ แอร์กน็องเดซ เหมือนจะยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้เลย
แม้ทั้งสองคนอาจเป็นอนาคตที่สดใสในรั้งซานติอาโก เบร์นาเบว ทว่าเวลานี้ เรอัล มาดริด ยังขาดตัวทดแทนในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ, แบ็กขวา และที่สำคัญเลยกองหน้าตัวจบสกอร์
มันจึงเลยเถิดไปถึงทีเด็ดทีขาดในช่วงท้ายเกมที่ไม่หลงเหลืออยู่เลย
หากมองไปยังซีซั่นก่อน แม้จะมีบางนัดที่ทัพราชันเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน แต่พวกเขาก็มักจะมีทีเด็ดจากเหล่าซูเปอร์ซับให้เห็นในช่วงท้ายอยู่บ่อยครั้ง
นับรวมก็ 9 หนเลยทีเดียวที่ทีมของ ซีดาน สามารถเก็บแต้มได้จากการยิงในช่วง 10 นาทีสุดท้ายน
เมื่อเทียบกับปีนี้ มีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่ เรอัล มาดริด คว้าชัยในช่วงท้ายเกม จากการยิงของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้ทีมเอาชนะ เคตาเฟ่ แต่ก็เคยโดน เรอัล เบติส ยิงจนพังคาบ้านในนาทีที่ 93 มาแล้ว
เมื่อพูดถึง โรนัลโด้ แล้ว ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าสตาร์ทีมชาติโปรตุเกสฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย
จากสถิติ 8 ซีซั่นที่ผ่านมากับ เรอัล โรนัลโด้ยิงในลา ลีกา จากการเล่น 10 นัดแรกได้ที่ 5, 11, 10, 11, 8, 17, 8 และ 5 ตามลำดับ
แต่ในซีซั่นนี้ ดาวเตะเลือดฝอยทองเพิ่งยิงในลีกได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น ทว่าส่วนหนึ่งก็มาจากการติดโทษแบนในช่วง 5 เกมแรกด้วย
โรนัลโด้ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย
ค่าเฉลี่ยชี้ชัดว่า โรนัลโด้ เปลี่ยนโอกาสทั้งหมดให้เป็นประตูได้เพียงแค่ 2.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หลังซัดเพียงเม็ดเดียวจากสับไกถึง 40 ครั้ง ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดในบรรดานักเตะที่ยิงประตูได้แล้วของ 5 ลีกใหญ่ยุโรปเลยทีเดียว
นอกจากแนวรุกที่ฝืดจัดแล้ว หลังบ้านของพวกเขาก็ยังมีปัญหาด้วย โดยปีนี้เสียไปแล้วถึง 9 ลูกจาก 10 นัดในลีก ต่างจาก บาร์เซโลน่า ที่เพิ่งโดนเจาะตาข่ายไปแค่ 3 ดอกเท่านั้น
นอกจากจะเสียเยอะแล้ว ทีเด็ดการเติมเกมจากแนวรับมาช่วยทำประตูยังน้อยลงไปอีกต่างหาก หลังปีก่อน เซร์คิโอ รามอส แค่คนเดียวก็ลั่นสกอร์ได้ถึง 7 ลูกแล้ว
แนวรับไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม
และปัญหาใหญ่ที่สุดก็น่าจะมาจากการขาดหายไปของเหล่าตัวหลักที่ทั้งเจ็บ และแบนพร้อมๆ กัน
ที่ยังพักอยู่ตอนนี้มีแต่เหล่าสตาร์ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น แกเร็ธ เบล, มาเตโอ โควาซิช, ราฟาแอล วาราน, ดานี่ การ์บาฆาล และ เกย์ลอร์ นาวาส
เบลรักษาอาการบาดเจ็บมากกว่าลงเล่นเสียอีก
ก่อนหน้านี้ก็เป็นพวก คาริม เบนเซม่า, มาร์เซโล่ และ เตโอ แอร์กน็องเดซ ที่เพิ่งจะหายกลับมา
ทั้งหมดทั้งมวลอาจเป็นปัญหาที่มัดรวมก้อนจนทำให้ เรอัล มาดริด ต้องพบกับวิกฤติหนักอยู่ในตอนนี้
และหากยังไม่สามารถแก้ลำหาจุดเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้
ที่จะวิกฤติที่สุดเห็นจะเป็นเก้าอี้ของซีดานเอง