20ทีมกับ20ดาวรุ่งที่พร้อมแจ้งเกิด(1)
กับฟุตบอลยุคปัจจุบันที่วัดกันที่ความสำเร็จ มีน้อยสโมสรที่จะให้เด็กได้โอกาสลงเล่นและแจ้งเกิด ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับทีมระดับกลางและล่างเป็นส่วนใหญ่
นั่นทำให้เราได้เห็นแข้งอย่าง เจดอน ซานโซ่ ที่รอไม่ไหวทิ้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ และแจ้งเกิดจนคาดกันว่าค่าตัวตอนนี้ทะลุ 100 ล้านปอนด์ไปแล้ว
กับสโมสรระดับกลางจนถึงล่างมีให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆว่ามีแข้งหน้าใหม่ขึ้นมาในแต่ละปี ปั้นขึ้นมาหากผลงานดีมีแววรุ่งก็โดนทีมใหญ่ซื้อตัวไป ส่วนบรรดาทีมหัวแถวอาจจะมีให้เห็นบ้างประปราย แต่เมื่อมีถ้วยแชมป์เป็นตัววัดผลงานทำให้เหล่ากุนซือทั้งหลายไม่ค่อยเสี่ยงสักเท่าไร
ไม่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นไปได้ยากสักนิดในช่วงหลัง
เอาน่ามันก็มีต้องสักคนแหละในแต่ละปีที่น่าจะมีแววเตะตาโค้ชและจะมีโอกาสขึ้นมาให้แฟนบอลได้เห็นหน้ากันบ่อยสักหน่อย สักคน!
20 สโมสร สโมสรละหนึ่งคน ดูกันว่าใครน่าจะมีแววที่จะโลดแล่นในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้
อาร์เซน่อล
เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ - กองหน้า
อายุ : 20 ปี
การที่จะต้องเล่นในยูโรปา ลีกอีกครั้งในฤดูกาลนี้ อาจจะเป็นโอกาสดีที่แฟนบอล "ปืนใหญ่" จะได้เห็นเด็กหน้าใหม่หรือดาวรุ่งลงสนามให้กับทีม อย่างน้อยก็ในรอบแบ่งกลุ่ม
นอกจากจะเป็นโอกาสที่แฟนบอลจะได้เห็น มันก็คือโอกาสของเด็กที่จะได้ "โชว์ของ" ซึ่งคงจะมีทั้งคนที่เคยเห็นหน้ากันมาบ้างแล้ว และบางคนที่ยังไม่เคยเห็น
เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ คือหนึ่งในดาวรุ่งที่โดดเด่นของ อาร์เซน่อล และแน่นอนว่าเด็กคนนี้ต้องมีอะไรดีแน่นอนทั้ง อาร์แซน เวนเกอร์ จนมาถึง อูไน เอเมรี่ ถึงเลือกเก็บเจ้าหนูรายนี้ไว้ใช้งานเองดีกว่าที่จะปล่อยยืมตัว
19 เกมทุกรายการในช่วงสองปีหลังถือเป็นการชิมลางชั้นดีพร้อมกับยิงได้ 3 ประตู หนึ่งในนั้นคือประตูสุดท้ายของฤดูกาลที่ผ่านมาในเกมพบกับ เบิร์นลี่ย์ เมื่อ 12 พฤษภาคม ส่วนกับทีมชาติอังกฤษเจ้าตัวติดทีมมาตั้งแต่ชุดยู-18, 19, 20 และ 21 มีสถิติยิงประตูที่น่าทึ่งในทุกชุด
เชื่อได้เล่ยว่าปีนี้จะเป็นอีกปีที่น่าสนใจของ เอ็นเคเทียห์ ที่จะได้รับโอกาสลงสนามมาขึ้นแน่
แอสตัน วิลล่า
อันเดร กรีน - ตัวรุกริมเส้น
อายุ : 20 ปี
การกลับคืนสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งหลังผ่านไป 3 ปี ถือว่าน่าสนใจสำหรับ แอสตัน วิลล่า ที่เคยเป็นทีมระดับครึ่งบนของตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อันเดร กรีน ถูกปล่อยให้กับ พอร์ทสมัธ ยืมตัวใช้งานตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล 2018/19 ถึงแม้จะมีผลงานที่ใช้ได้เลยที่ยิง 5 ประตูจาก 12 เกม แต่โอกาสลงสนามไม่ได้มากมายอะไรนัก ทำให้ "สิงห์ผงาด" ดึงตัวกลับมาใช้งานในเดือนมกราคม พร้อมกับลงสนามให้ทีม 18 เกม ในแชมเปี้ยนชิพ ถ้าจะบอกว่าเป็นหนึ่งกำลังที่ช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นได้ก็คงไม่ได้น่าเกลียดนัก
ในระบบการเล่นแบบ 4-3-3 น่าจะเป็นแผนที่เข้ากับสไตล์การเล่นของเจ้าตัวได้มากที่สุดกับการกระชากลากเลื้อย แม้ว่าที่ผ่านมาสิ่งที่ได้เห็นคือการโรเตชั่นซะส่วนใหญ่ก็เถอะ
แต่ผลงานที่ผ่านตามาก็ดูมีแววเหมือนกัน และปีหน้ากับการได้เล่นในลีกสูงสุดน่าจะเป็นการได้พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเหมือนรุ่นพี่อย่าง แจ็ค เกรียลิช ก็ได้
บอร์นมัธ
ลอยด์ เคลลี่ย์ - แบ็คซ้าย
อายุ : 20 ปี
ถือว่าเป็นดาวรุ่งที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นของศึกแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา จน บอร์นมัธ ทุ่มเงินถึง 13 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวมาค้าแข้งกับทีมในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง
ลอยด์ เคลลี่ย์ พาดีกรีทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 ที่ลุยฟุตบอลยุโรปที่อิตาลี แม้ผลงานของทีมจะจอดแค่รอบแบ่งกลุ่ม แต่ประสบการณ์ที่ได้มานี่แหละถือว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด
แน่นอนว่าด้วยวัยเพียงเท่านั้น ชื่อชั้นเรียกได้ว่ายังเป็นนักเตะโนเนมเท่านั้น แต่ราคาค่าตัวระดับนี้คงจะต้องถูกจับตามองกันบ้างแหละ
การเป็นนักเตะถนัดซ้ายถือว่าหาได้ไม่มากนัก การที่ บอร์นมัธ ยอมจ่ายเงินก้อนนี้เพื่อให้นักเตะมาประสานงานกับแกนหลักอย่าง เดวิด บรู๊ค, คริส เมพแฟ่ม และ โดมินิค โซลันกี้ แถมยังมีคู่ประสานงานอย่าง นาธาน อาเก้ คงได้เห็น บอร์นมัธ ที่ไฉไลมากกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา
ไบรท์ตัน
วิคเตอร์ กโยเคเรส - กองหน้า
อายุ : 21 ปี
หัวหอกชาวสวีเดนย้ายมาอยู่กับ ไบรท์ตัน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 โดยจุดเริ่มต้นคือการอยู่ในทีมชุดยู-23 ของสโมสร
ในซีซั่นที่ผ่านมา หากใครเป็นแฟนไบรท์ตัน คงได้เห็นหน้า วิคเตอร์ กโยเคเรส ในเกมบอลถ้วยกันมาบ้างแล้ว ซึ่งในปีนี้ในวัย 21 น่าจะถีบตัวเองขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่เต็มตัวมากขึ้นกว่าเดิม หลังมีการพูดคุยกับ เกรแฮม พ็อตเตอร์ มาบ้างแล้ว
น่าจะเป็นโอกาสที่จะได้ลงเล่นมากขึ้นโดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก หลังจากที่ก้าวไปติดทีมชาติสวีเดนชุดใหญ่มาแล้ว ด้วยส่วนสูงระดับ 187 เซนติเมตรก็น่าจะบู๊กับฟุตบอลอันหนักหน่วงของลีกผู้ดีได้
ถ้าไม่มีของ ยอดทีมของประเทศอย่าง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คงไม่เคยมีข่าวว่าอยากได้ไปอยู่ในสังกัดแน่
เบิร์นลี่ย์
จิมมี่ ดันน์ - กองหลัง
อายุ : 21 ปี
ในช่วงเวลาที่ เบน กิ๊บสัน และ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ สองกองหลังตัวหลักของ เบิร์นลี่ย์ ถูกจับตามองจากหลายสโมสรใหญ่ ก็อาจจะเป็นโอกาสแจ้งเกิดขึ้นมาของ จิมมี่ ดันน์
กองหลังวัย 21 ปีที่ถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวมาแล้วถึง 4 สโมสรในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา แม้ส่วนใหญ่จะอยู่ในลีกล่างแต่ก็เคยย้ายไปเล่นในสกอตแลนด์กับ ฮาร์ทส์ ช่วงสั้นๆ 6 เดือนและได้โอกาสลงเล่น 12 เกม แถมมีประตูมาฝากสองลูกด้วย
มาปีนี้ดูจากท่าทีแล้ว เบิร์นลี่ย์ คงจะดึงตัวกลับมาใช้งานเองในถิ่นเทิร์ฟ มัวร์ และมีโอกาสที่จะได้ประเดิมสนามเกมแรกกับสโมสรเหมือนกัน
บอกเกร็ดให้สักนิดนึงว่า จิมมี่ ดันน์ เคยเป็นเด็กในอคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาถึง 10 ปีก่อนจะมาอยู่กับ เบิร์นลี่ย์ ด้วย
เชลซี
เมสัน เมาท์ - กองกลาง
อายุ : 20 ปี
หนึ่งในดาวรุ่งที่มีอนาคตสดใสมากที่สุด ไม่แค่กับ เชลซี แต่รวมถึงสำหรับทีมชาติอังกฤษด้วย
ผลงานกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ถือเป็นฟอร์มระดับ "โบว์แดง" ที่ช่วยให้ทีมฝ่าด่านถึงรอบชิงชนะเลิศเพลย์ออฟเลื่อนชั้นพรีเมียร์ลีก แม้ว่าจะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ก็ตาม
ย้อนกลับไปในปี 2017/18 ที่ถูกปล่อยไปเล่นที่ วิเทสส์ ในฮอลแลนด์ด้วยสัญญายืมตัว ก็มีฟอร์มที่ดีเช่นกัน เท่ากับว่าในช่วงสองปีหลังลงสนามในเส้นทางอาชีพมาแล้ว 83 เกม ยิงไป 25 ประตู ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา
และการกลับมาอยู่กับ เชลซี พร้อมกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด นายใหญ่ที่ดาร์บี้ ซึ่งมารับบทนายใหญ่ในรั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์ ถ้าจะเรียกว่าเป็นขุนพลคู่ใจก็ไม่ได้น่าเกลียดเลย และเพิ่งได้รับการต่อสัญญาใหม่กับทีมอีก 5 ปี
มั่นใจได้เลยว่าในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ เมาท์ จะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมได้อย่างแน่นอน
คริสตัล พาเลซ
แซม วู้ดส์ - กองหลัง
อายุ : 20 ปี
การได้เห็น อารอน วาน-บิสซาก้า ย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งที่เพิ่งลงสนามในลีกสูงสุดของอังกฤษยังไม่ถึง 50 เกม น่าจะทำให้มองเห็นอคาเดมี่ของ คริสตัล พาเลซ ที่ปลุกปั้นเด็กขึ้นมาสู่วงการลูกหนัง
แม้แต่แฟนบอลพาเลซอาจจะไม่คุ้นเคยกับ แซม วู้ดส์ เท่าไรนักหลังมีโอกาสลงเล่นในบอลถ้วยอย่างลีกคัพแค่เพียงเกมเดียวเท่านั้น แต่ปีนี้น่าจะเป็นโอกาสดีที่เจ้าตัวจะได้ลงเล่นมากขึ้น
กับทีมชุดยู-23 แซม วู้ดส์ ทำได้ดีจน รอย ฮ็อดจ์สัน เรียกขึ้นมาซ้อมกับชุดใหญ่ ถือเป็นดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในทีมเวลานี้
เอฟเวอร์ตัน
ชูเอา เวอร์จิเนีย - ผู้รักษาประตู
อายุ : 19 ปี
อดีตผู้รักษาประตูดาวรุ่งของ อาร์เซน่อล ที่ เอฟเวอร์ตัน ดึงตัวมาร่วมทีมเมื่อปี 2018 โดยฤดูกาลที่แล้วปล่อยให้ เร้ดดิ้ง ยืมตัวใช้งาน
แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันกับการสอดแทรกขึ้นไปอยู่ในทีมตัวจริงเมื่อมี จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่ฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดายึดมือหนึ่งอยู่ แต่ผลงานของ ชูเอา เวอร์จิเนีย ก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน
ผลงานคลีนชีตถึง 14 จาก 21 เกม ช่วยให้ "ทอฟฟี่" คว้าแชมป์ยู-21 พรีเมียร์ลีกมาครอง แถมยังพกดีกรีแชมป์ยู-17 และยู-19 ของยุโรปมาอีกด้วย
ปีนี้อาจจะถึงเวลาที่เจ้าตัวจะก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่และท้าทายตำแหน่งมือหนึ่งของ พิคฟอร์ด ไม่แน่ว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่รุ่นพี่มือหนึ่งบาดเจ็บขึ้นมา อาจจะเป็นเขาที่ฉายแสงอย่างเปล่งปลั่งก็เป็นได้
เลสเตอร์ ซิตี้
เจมส์ จัสติน - กองหลัง
อายุ : 21 ปี
ดาวรุ่งหน้าใหม่ที่เพิ่งโยกมาค้าแข้งในถิ่นคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ในฤดูกาลนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ของสื่อว่านี่จะเป็นปีที่ เลสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสทะลุเข้าไปเล่นในฟุตบอลยุโรปหลังเสริมทัพได้อย่างน่าสนใจ
เจมส์ จัสติน ถือเป็นกำลังสำคัญของสโมสร ลูตัน ทาวน์ ทีมที่เขาเติบโตมาตั้งแต่สมัยยังเด็กตั้งแต่ 7 ขวบจนก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ และช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นจากลีก ทู สู่ ลีก วัน กระทั่งในปีล่าสุดคว้าแชมป์ลีก วันขึ้นสู่แชมเปี้ยนชิพได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยผลงานลงเล่น 43 เกมในลีก ยิงไป 3 ประตู
จุดแข็งของ จัสติน ก็คือการเล่นได้ด้วยเท้าทั้งสองข้าง สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งแบ็กขวาและซ้าย แต่ตำแหน่งที่ถนัดจริงๆก็คือทางขวาที่ต้องแย่งตำแหน่งกับ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ซึ่งถือว่าน่าสนใจทีเดียว
แม้อาจจะยากสักหน่อยเพราะ เปเรยร่า ก็ทำผลงานได้เป็นอย่างดีในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ในเมื่อ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ดึงมาร่วมทีมแล้ว อาจจะมีที่สำหรับ จัสติน เหมือนกัน
ลิเวอร์พูล
ริอาน บรูวสเตอร์ - กองหน้า
อายุ : 19 ปี
กองหน้าดาวรุ่งที่แฟนๆ ลิเวอร์พูล ให้ใจไปเต็มๆแล้วหลังโชว์ผลงานอย่างโดดเด่นในช่วงปรีซีซั่นของทีมในตอนนี้
สตาร์วัย 19 ปีกลายเป็นที่รู้จักจากการนั่งอยู่ที่ม้านั่งสำรองในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลนี้ ด้วยวัยเพียงแค่นี้ถือว่ามีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า
หลังต่อสู้กับอาการบาดเจ็บอย่างหนักที่ข้อเท้าและเข่ายาวนาน 18 เดือน ต้องมีการผ่าตัดถึงสองครั้ง สุดท้ายเจ้าตัวกลับมาพร้อมสร้างชื่อในเกมชิงแชมป์โลกยู-17 เมื่อปี 2017 โดยเจ้าตัวคว้ารางวัลดาวซัลโวของทัวร์นาเม้นต์ 8 ประตู พร้อมคว้าแชมป์โลกกับอังกฤษด้วย
งานนี้ต้องดูกันว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะให้โอกาสเจ้าหนูรายนี้มากแค่ไหน เพราะแนวรุกของทีมค่อนข้างลงตัว มันก็น่าเสียดายที่จะต้องอยู่ที่ม้านั่งสำรองเท่านั้น