ฉันตัดสินใจกางโน้ตบุ๊กกระแทกคอลัมน์ ระหว่างนั่งดวดเบียร์อยู่ในบาร์ย่านลาดพร้าว หลังสายตาเลื่อนไปเห็นข่าวๆหนึ่ง ที่แหล่งข่าว กำลังกลายเป็นเหยื่อทางอารมณ์
เหยื่อคนนั้นชื่อ วิทยา เลาหกุล
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมา "พี่เฮง" สำหรับสายตาแฟนบอลบางส่วนคือ "คนขี้เสือก" ไปเสียทุกเรื่องกับวงการลูกหนัง เสียงก่นด่าสารพัดจากคนแปลกหน้า ที่โชว์หน้าแค่ในโปร์ไฟล์ แม้ไม่ได้ยิน ทว่าคำพูดแต่ละประโยค บั่นทอนจิตใจอย่างหนัก
หากรู้จักชายคนนี้จริง (โดยเฉพาะแฟนบอล ชลบุรี เอฟซี) จะรู้ว่า พี่เฮง คือชายผู้ต้มฟุตบอลแดกแทนข้าว หายใจเข้าออกเป็นลูกกลมๆ และอยู่กับสิ่งเหล่านี้มาเกือบทั้งชีวิต ไม่ว่าจะเป็น เยอรมัน ลำพูน ชลบุรี กรุงเทพ โอซากา หรือ ทตโตริ
สำหรับฉัน "พี่เฮง" คือ "คนบ้า"
เป็น "คนบ้า" ที่สามารถคุยกับคนแปลกหน้าหรือใครหน้าไหนก็ไม่รู้ได้ หากหัวข้อสนทนาคือ "ฟุตบอล"
พี่เฮง เป็นคนตรงๆ จริงใจ เปลือยทุกเรื่องที่รู้หมดเกี่ยวกับฟุตบอล แต่บางครั้งความตรงและ "พูดทุกเรื่อง" ของเขา กลับกลายมาเป็น "ดาบสองคม" แทงตัวเเองแบบไม่รู้ตัว
ฉันกล้าพูดตรงนี้ได้ว่า "พี่เฮง" คือแหล่งข่าวคนเดียวในวงการกีฬาในประเทศนี้ ที่รับโทรศัพท์สื่อแทบทุกครั้ง หากคุมซ้อมหรือประชุมอยู่ ก็จะแจ้งว่าให้ติดต่อมาอีกทีกี่โมง บางคราก็โทรกลับมาหาเอง
เพราะโทรแล้วรับสายตลอด ตอบเกือบทุกคำถามที่สื่อโยนใส่ ทั้งๆที่บางประเด็นไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เขาเลือกที่จะไม่ตอบก็ได้ ทว่าด้วยนิสัยรักฟุตบอลเป็นทุนเดิม คุยสนุก ให้เกียรติสื่อทุกคน
แต่ในวงการข่าวกีฬาชั่วโมงนี้ที่ไม่ต่างจาก "การเมือง" มีแบ่งพรรคพวก มีผลประโยชน์ครอบทับ และ "พี่เฮง" คือหนึ่งในเหยื่อของบรรดาสื่อบางกลุ่ม
ใครสมควรติดทีมชาติ ? ถามพี่เฮง
นักเตะคนนี้เล่นเป็นอย่างไรบ้าง พี่ข้อเสียตรงไหน ? ถามพี่เฮง
นักเตะคนนี้ไปเล่นญี่ปุ่นไหวไหม ? ถามพี่เฮง
คิดว่าทีมชาติไทยเหมาะกับระบบการเล่นแบบไหน ? ถามพี่เฮง
เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย มีจุดอ่อนตรงไหนบ้าง ? ถามพี่เฮง
ทีมชาติไทยยังมีจุดอ่อนตรงไหนที่ต้องปรับปรุงบ้าง ? ถามพี่เฮง
ทั้งที่คำถามดังกล่าวคนที่จะให้คำตอบได้ดีคือ กุนซือทีม หรือ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค แต่สื่อกลับเลือกถาม "พี่เฮง" เพราะรู้ว่าหากคุยด้วย สื่อจะได้ข่าวอย่างแน่นอน เนื่องจากรู้ว่านิสัยของแกคือ ถามอะไรมา ถ้ารู้ ถ้าตอบได้ เขาก็เลือกที่จะแสดงความเห็นในมุมของเขา
ทว่าสุดท้ายสิ่งที่พูดออกไป ถูกจับไปประดิบถ้อยคำใหม่ผ่านพาดหัวข่าวให้ดูน่าสนใจ เรียกแขกเข้ามาสำเร็จความใคร่ผ่านตัวหนังสือใส่แก
"เฮงซวย อีกแล้ว"
"เสือกอะไรด้วย รู้ไปซะทุกเรื่องอ่ะ"
"ทำไม ไม่มาคุมทีมเองเลยล่ะ เก่งจัง"
แม้กระทั่งคนระดับอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ยังเข้ามาคอมเมนต์ผสมโรง "พี่เฮง" ทั้งที่คนเจนจัดในสนามการเมืองมาครึ่งชีวิตอย่างเขา น่าจะเข้าใจเรื่องนี้อย่างดีที่สุด
ใช่…พี่เฮงอาจเป็นคนไม่คล่องแวะกับโซเชียล การที่เขารู้ว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์บางครั้ง เกิดจากคนใกล้ชิดมาบอกกล่าว ซึ่งบางครั้งเขาเองก็งงว่า"
"พี่ไปพูดแบบนั้นตอนไหน ?"
และคนที่เห็นคำก่นด่าสาปแช่ง บูลลี่ เอามันส์เหล่านี้ อาจเป็น แฟน หรือ ลูก เขาแทน
คิดภาพดูถ้าวันหนึ่ง เราเปิดโลกออนไลน์มาพบว่าคนที่รัก หรือครอบครัว กำลังถูกรุมสกรัมทางตัวหนังสือ จากคนที่เราไม่เคยไปรู้จัก หรือทำร้ายอะไรมาก่อน เราจะรู้สึกเช่นไร
โทรหาพี่เฮง / รักฟุตบอลและพยายามตอบทุกเรื่องให้ได้กับสื่อในมุมของตัวเอง / สื่อเอาไปพาดหัวดูโอเวอร์เรียกแขก / คนอ่านเข้ามาด่าพี่เฮง / สื่อขายข่าวได้ / สื่อไม่มีข่าวเล่น / โทรหาพี่เฮง….
วนลูปไปเช่นนี้
นั่นคือสิ่งที่ชายชื่อ วิทยา เลาหกุล เจอมาตลอด
