การย้ายทีมของ อองตวน กรีซมันน์ ดูเหมือนจะมีบางอย่างไม่ถูกต้องตามความคิดของ แอต. มาดริด แต่สุดท้ายเขาก็ได้กลายเป็นแข้งใหม่ของ บาร์เซโลน่า อย่างเป็นทางการเสียที

    นี่คือการย้ายทีมที่ยาวนานที่สุด เนื่องจาก มิเกล อังเคล มาริน ประธานสโมสรตราหมีบอกว่าเขารู้อยู่แล้วว่ามีข้อตกลงเรื่องของ กรีซมันน์ มาตั้งแต่เดือนมีนาคม

    หลุยส์ ซัวเรซ เริ่มเป็นกองกำลังที่จืดจางลงไปเรื่อยๆ และการตามหาทายาทเพื่อมาทดแทนเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่ยักษ์ใหญ่กาตาลันปิดบังแต่อย่างใด

    แต่!!!

    กรีซมันน์ คือคำตอบนั้นจริงๆ เหรอ?

    หลังจากจากไปของ เนย์มาร์ ทั้ง ซัวเรซ และ ลีโอเนล เมสซี่ ยังคงรักษาความเข้าจิตเข้าใจต่อกันจนกลายเป็นคู่หูที่เรียกว่าโหดร้ายที่สุดในยุโรปในช่วงเวลาของพวกเขาเอง

    หัวหอกทีมชาติอุรุกวัยไม่เพียงแค่แฮปปี้กับการเล่นเป็นตัวซัพพอร์ตให้กับกองหน้าอาร์เจนไตน์ แต่เขายังเป็นนักเตะที่แตกต่าง และนั่นทำให้พวกเขาผลิตผลงานที่ผลิดอกออกผลเพราะการมี ซัวเรซ มาเสริมวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมให้แก่ทีม

    กระนั้น กรีซมันน์ เองก็ไมได้เป็นนักเตะตำแหน่งเบอร์ 9 โดยธรรมชาติ

    ไม่ว่าจะในเสื้อสีแดงขาวของ แอตเลติโก หรือสีน้ำเงินของทีมชาติฝรั่งเศส กรีซมันน์ จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดยามเล่นเป็นกองหน้าตัวต่ำ หรือตัวฟรีมีอิสระเพื่อแสดงตัวตนของเขาได้อย่างเต็มที่

    ปัญหาอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเมื่อ กรีซมันน์ ย้ายมายังถิ่นคัมป์ นู เลยก็คือ นั่นคือตำแหน่งของ เมสซี่

    อีกหนึ่งสิ่งที่น่ากังวลเลยก็คือ ทั้ง เมสซี่ และ กรีซมันน์ มีลักษณะที่คล้ายกันมาก ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งการยืนที่ถนัด หรือสไตล์การเล่น

    คนหนึ่งในนั้นต้องเป็นฝ่ายยอมสละบทบาทดังกล่าวให้กับอีกคน และที่ บาร์ซ่า มันจะไม่ใช่ เมสซี่ แน่

    เราเพิ่งจะได้เห็นความล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่จาก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา โดยจุดเด่นของสตาร์บราซิเลี่ยนคือการสร้างสรรค์เกมรุก และมันก็เริ่มจางหายไปเรื่อยๆ ภายใต้ร่มเงาของ เมสซี่ ที่ยังคงรับผิดชอบหน้าที่นั้นอยู่เหมือนเดิม

    แน่นอน คุณสามารถบอกได้ว่า กรีซมันน์ นั้นยังไงก็เหนือกว่า คูตินโญ่ เมื่อดูจากประวัติศาสตร์กับ แอตเลติโก ในช่วงที่ผ่านมา

    การเล่นในทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นั้นหมายความว่าคุณมีความขยัน อดทน เป็นทุนเดิม และพร้อมต่อการเสียสละตัวตนบางสิ่งบางอย่าง แต่ดาวเตะเมืองน้ำหอมก็ยังโดดเด่นอยู่

    จากการวิเคราะห์ตรวจสอบสถิติต่างๆ แล้ว เขาน่าจะยังมีความสุขจากการเล่นแบบไม่ใช่เพื่อตัวเขาเอง

    แต่ บาร์ซ่า กำลังต้องการคนมาทดแทน ซัวเรซ ทั้งในเวลานี้ และระยะยาวด้วย

    กรีซมันน์ อาจจะมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ และท่าทางเหมือนกับแข้งวัยรุ่น แต่จริงๆ อายุของเขาก็ปาเข้าไปถึง 28 ปีแล้ว และอยู่ในวงการลูกหนังมาเป็นระยะเวลาที่นานมาก

    เขาแทบจะไม่เหมือนเด็กใหม่ในการพยายามตามหาดังกล่าวของยักษ์กาตาลัน และมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนนี่คือการเซ็นสัญญาที่หรูหราเกินความจำเป็น

    มองสลับฝั่งไปที่การซื้อนักเตะของ เรอัล มาดริด ในซัมเมอร์นี้

    โอเค ผลงานในช่วงอุ่นเครื่องของราชันชุดขาวอาจห่วยแตกจน ซีเนดีน ซีดาน อยากเอาหัวมุดโถชักโครกให้มันรู้แล้วรู้รอด

    แต่ถ้าว่ากันถึงการทำธุรกิจ ในรายของ ลูก้า โยวิช ยังดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของ ซัวเรซ ได้มากกว่า กรีซมันน์ เสียอีก ถึงจะยังไม่สามารถแสดงผลงานกับทีมใหม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่มันก็ยอดเยี่ยมมากจากฟอร์มกับ แฟร้งค์เฟิร์ต เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

    มองมายัง บาร์เซโลน่า ในทุกวันนี้ พวกเขาไม่ได้มีหัวหอกตัวเป้าอาชีพที่เป็นหน้าใหม่เลย กรีซมันน์ เองก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับ เมสซี่ และความต้องการรูปแบบใหม่ของทีมด้วย

    หน้าที่ของ กรีซมันน์ ก็คือการพังประตู ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ทว่านั่นก็ไม่ใช่ความถนัดแบบเต็มร้อยจากตัวเขา

    สุดท้ายแล้ว เขาจะปรับตัวเพื่อกลายเป็นผู้นำคนใหม่ที่ บาร์ซ่า ได้หรือไม่ หรือจะกลายเป็นนักเตะรายล่าสุดที่ตกอยู่ใต้ร่มเงาของ เมสซี่

    อีกไม่นานคงได้รู้กัน...

    พาสต้า