สำหรับ "จาดอน ซานโช่" ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ และสังกัดสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการสร้างสรรค์เกม, การแอสซิสต์ และการยิงประตู

ช่วงนี้เราไปดูเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของดาวรุ่งวัย 19 ปีรายนี้กัน กับหลากหลายเรื่องราวที่น่าสนใจ ทั้งในแง่ของฟุตบอล รวมถึงชีวิตนอกสนามด้วย 

ฟุตบอลข้างถนน 

เขาเติบโตที่ย่านเคนนิงตัน ที่แทรกตัวอยู่ในแถบลอนดอนใต้ ชีวิตการเล่นฟุตบอลของเขาเริ่มต้นจากข้างถนน รวมถึงตามตรอกซอกซอย เขาสัมภาษณ์กับบีบีซี เอาไว้ว่า "หลังจากที่ผมเลิกเรียน ผมก็อยากเล่นฟุตบอลเท่านั้น แน่นอนว่า รอบข้างผมมีคนไม่ดีเต็มไปหมด ซึ่งผมต้องอยู่ห่างจากคนเหล่านั้น ลองจินตนาการดูว่า หากผมไม่เล่นฟุตบอลแล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้น ? ดังนั้น ฟุตบอลจึงอยู่กับผมตลอดเวลา ผมชอบเล่นฟุตบอลสนามเล็กแบบทีมละ 5 คน พร้อมกับเล่นลูกเล่นต่างๆ มันสนุกมากเลยล่ะ"

เริ่มจากเด็กเยาวชนของวัตฟอร์ด

วัตฟอร์ด เป็นสโมสรแรกที่เล็งเห็นพรสวรรค์ของเขา โดยเข้าร่วมอะคาเดมี่ของสโมสรตอนอายุราว 8 ขวบ โดยช่วงเวลาที่นั่น เขาถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิด ทั้งจากแมวมองของอาร์เซน่อล และเชลซี อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าตัวเขาไปครองตอนอายุ 15 โดยมาร์ค เบอร์ตัน อดีตโค้ชของเขาที่อะคาเดมี่ของ "เรือใบสีฟ้า" ย้อนความทรงจำเอาไว้ว่า "เขาถือเป็นนักฟุตบอลที่มีไหวพริบ และความคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นแข้งที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการเลยล่ะ สไตล์การเล่นแบบฟุตบอลข้างถนนไหลเวียนอยู่ในตัวเขา"

ฮีโร่ลูกหนังคือโรนัลดินโญ่ 

เขาหลงรักการเล่นของโรนัลดินโญ่ ซูเปอร์สตาร์บราซิเลี่ยน เป็นอย่างมาก โดยกล่าวว่า "ตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ผมก็ทำแบบนั้นมาตลอด ผมชอบดูคลิปการเล่นฟุตบอลของโรนัลดินโญ่ ทั้งการเล่นลูกเล่นต่างๆ และเดาะบอลในสนามซ้อม รวมถึงความรู้สึกที่มีต่อลูกฟุตบอล ผมยอมรับตามตรงเลยว่า ผมอยากเป็นเหมือนกับเขาบ้าง ... ทุกครั้งที่ผมออกไปเล่นฟุตบอลในตอนเป็นเด็ก ผมชอบสมมติว่าตัวเองเป็นโรนัลดินโญ่ เสมอเลย"

ปฏิเสธเป๊ป

เขาปฏิเสธการเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า พร้อมทั้งค่าเหนื่อยกว่า 30,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ที่พลพรรค "เรือใบสีฟ้า" เสนอให้ ก่อนจะย้ายมาอยู่กับทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในช่วงปี 2017 ซึ่งเป็นสโมสรที่เขามองว่า ชอบเปิดโอกาสให้บรรดาเด็กดาวรุ่งลงสนาม และไม่ปิดกั้นการแสดงออกของกลุ่มผู้เล่นอายุน้อยด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาสามารถงัดฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดออกมา

ชอบหมายเลข 7 และกำแพงสีเหลือง

เขาบอกว่า การที่โบรุสเซีย มอบเสื้อหมายเลข 7 แทนที่การจากไปของ "อุสมาน เด็มเบเล่" ที่ย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลน่า ถือเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจมาก โดยบอกว่า "ผมรู้สึกแปลกใจมาก เพราะหมายเลข 7 ถือเป็นเบอร์เสื้อที่สำคัญ นั่นแสดงให้เห็นว่า สโมสรเห็นว่าคุณมีคุณค่ามากแค่ไหน" นอกจากนี้ เขายังบอกว่า ภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลที่กำแพงสีเหลือง หรือที่รู้จักกันในนามอัฒจันทร์หลังประตูอันโด่งดังของสโมสร

รักท้องถิ่น และครอบครัว

แม้ว่าจะย้ายมาอาศัย และเล่นฟุตบอลที่ประเทศเยอรมัน ทว่าเขาไม่เคยลืมบ้านเกิดที่ลอนดอนใต้ โดยมักส่งเสื้อแข่ง และอุปกรณ์ฟุตบอลกลับไปให้เด็กที่นั่นเสมอ นอกจากนี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาก็มอบตั๋วเข้าชมมากกว่า 30 ใบให้กับสมาชิกในครอบครัว และกลุ่มเพื่อนสนิท เดินทางไปดูเกมการแข่งขัน ระหว่างสเปอร์ส ที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 

รอยสักถึงน้องชาย

เขามีรอยสักที่ท่อนแขนซ้าย อุทิศให้กับน้องชายที่เสียชีวิตไป ในขณะที่เขาอายุเพียงแค่ 5 ขวบ รอยสักทั้งหมดเป็นการบันทึกความทรงจำผ่านบทกวี เพื่อเล่าเรื่องราวถึงพี่ชายของตัวเอง พร้อมกับสัญลักษณ์ที่เป็นนกพิราบบริเวณด้านบน เขากล่าวว่า "สิ่งที่ผมทำทั้งหมด ผมอยากให้น้องชายภาคภูมิใจไปกับมันด้วย เขาคือแรงบันดาลใจของผม"

มูลค่า 1 ใน 5 ของโลก

เมื่อไม่นานมานี้ "ซีไออีเอส ฟุตบอล อ็อบเซิร์ฟวาทอรี่" หน่วยงานวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับฟุตบอล ทำการประเมินค่าตัวนักเตะปัจจุบัน หากต้องมีการย้ายทีมเกิดขึ้น โดยคำนวณค่าจากอายุ, สัญญากับทีม, ตำแหน่งการเล่น, ฟอร์มการเล่น, จำนวนประตู และประสบการณ์ ผลปรากฏว่า เขาอยู่ในอันดับที่ 5 เลยทีเดียว โดยตีมูลค่าหากต้องย้ายทีมอยู่ที่ประมาณ 159.4 ล้านยูโร