:::     :::

โอกาสครั้งที่สองของฮาเมส

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2562 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
2,147
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฮาเมส โรดรีเกซ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโคลอมเบียอาจได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับ เรอัล มาดริด แม้ว่านักเตะจะเคยอยู่นอกแผนการทำทีมของ ซีเนดีน ซีดาน ก่อนหน้านี้ก็ตาม

ฮาเมส โรดรีเกซ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ เรอัล มาดริด ทว่าทัพ'โลส บลังโกส'กลับทำให้เห็นว่าเพลย์เมกเกอร์ชาวโคลอมเบียนเป็นตัวปัญหาจนต้องระเห็จไปค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อ 2 ปีก่อน 

แข้งชาวโคลอมเบียนหวนคืนสู่ถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'อีกครั้งในช่วงซัมเมอร์นี้ ท่ามกลางอนาคตที่ยังไม่มีความชัดเจน แม้ว่าสโมสรจะมอบเสื้อหมายเลข 16 ให้นักเตะสำหรับการลงเล่นซีซั่นใหม่ก็ตาม

ฮาเมส เป็นหนึ่งในโครงการสร้าง'กาลาคติโกส'เฟส 2 ของ ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ หลังทุ่มเงิน 76 ล้านยูโรดึงมาจาก โมนาโก ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ซึ่งสตาร์ชาวโคลอมเบียนมีความรู้สึกไม่ต่างจากนักเตะหลายๆคนที่ย้ายมาสวมยูนิฟอร์มชุดขาวจากคำพูดที่เราได้ยินจนชินว่าเป็นการเติมเต็มความฝันของชีวิต การย้ายครั้งนี้มาพร้อมกับ ความรัก, ความชื่นชมและความหลงใหล


สโมสรมอบเสื้อหมายเลข 10 เหมือนแข้งระดับตำนานอย่าง เฟเรนซ์ ปุสกาส หรือ หลุยส์ ฟิโก้ บ่งบอกถึงความสำคัญของนักเตะได้เป็นอย่างดีและยังมีสาวกมาดริดิสต้ากว่า 45,000 คนมารอต้อนรับในวันเปิดตัว'ฮาเมส'บนสังเวียนเบร์นาเบวด้วย

ฮาเมส ทำผลงานในซีซั่นแรกกับ เรอัล มาดริด ได้ดีตามความคาดหวัง เขายิง 17 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 46 เกม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการได้ร่วมงานกับ คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนที่มีความยืดหยุ่นพอสมควร ทว่าชีวิตค้าแข้งของสตาร์โคลอมเบียนเริ่มพลิกผันหลังทีมชุดขาวปลด'อันเช่'ออกจากตำแหน่ง

เรอัล มาดริด ดึง ราฟาเอล เบนีเตซ มารับงานต่อจากเทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน แต่'เอล ราฟา'อยู่ได้ไม่นานนักก่อนอำลาตำแหน่งจนกระทั่งสโมสรโปรโมต ซีเนดีน ซีดาน จาก เรอัล มาดริด จาก เรอัล มาดริด กาสตีย่า ขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2016 

ซีดาน คุมทีมชุดขาวประเดิมสนามด้วยการเปิดสังเวียนเบร์นาเบวถลุง เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า 5-0 เมื่อวันที่ 9 มกราคมปีเดียวกัน ซึ่ง ฮาเมส เป็นเพียงตัวสำรองก่อนลงเล่นแทน อีสโก้ อาลาร์กอน ในช่วง 25 นาทีสุดท้าย 


ฮาเมส ได้ออกสตาร์ทครั้งแรกในการคุมทีมลงสนามเกมที่ 3 ของ ซีดาน โดยลงเล่นแนวรุกฝั่งขวาแทน แกเร็ธ เบล ที่บาดเจ็บ ก่อนสตาร์โคลอมเบียนจะยิง 1 ประตูและทำหนึ่งแอสซิสต์ในเกมต่อมาที่ทัพ'โลส บลังโกส'เปิดบ้านทุบ เอสปันญ่อล 6-0 ช่วงนั้น ฮาเมส ได้ออกสตาร์ท 5 เกมติด ยิง 2 ประตูและทำหนึ่งแอสซิสต์ จากนั้นแข้งชาวโคลอมเบียนสลับเข้า-ออกระหว่างตัวจริงกับสำรองจนกระทั่งจบซีซั่น 

รวมถึงแมตช์ชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ที่เมืองมิลานกับ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสเลือกใช้ 3 โควตาสำรองกับ ดานีโล่ ดา ซิลวา, อีสโก้ อาลาร์กอน และ ลูกัส บาซเกซ ในช่วงซีซั่นคาบเกี่ยวระหว่าง'เอล ราฟา'กับ ซีดาน ปรากฎว่า ฮาเมส ทำผลงานตกลงไปยิงเพียง 8 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 32 เกม 


แม้ดาวดังทีมชาติโคลอมเบียจะทำผลงานดีขึ้นในฤดูกาล 2016-17 ด้วยการยิง 11 ประตูและทำ 13 แอสซิสต์จากการลงเล่นทุกรายการ 33 เกม แต่บทบาทส่วนใหญ่อยู่ที่ข้างสนาม โดยเฉพาะเกมชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกกับ ยูเวนตุส ที่คาร์ดิฟฟ์ ซีดาน ไม่แม้แต่จะเรียก ฮาเมส นั่งเป็นตัวสำรองที่ข้างสนามด้วยซ้ำ เขาลงเล่นกับทีมชุดขาวยุคเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสครั้งสุดท้ายในเกมปิดซีซั่นที่'เอสตาดิโอ ลา โรซาเลด้า'ของ มาลาก้า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2017 โดยลงเล่นแทน อีสโก้ ช่วงนาที 66 ก่อนทีมเยือนจะบุกคว้าชัย 2-0

นั่นคือภาพสุดท้ายของ ฮาเมส ในยูนิฟอร์มชุดขาว ก่อนมีการประกาศเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมปีเดียวกันว่าดาวดังชาวโคลอมเบียนจะย้ายไปค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งเป็นการร่วมงานกับ อันเชล็อตติ อีกครั้ง 


ทีมเสือใต้ยืมตัว ฮาเมส มาใช้งาน 2 ปีพร้อมทำอ็อปชั่นซื้อร่วมทีมถาวรมูลค่า 42 ล้านยูโร โดยตลอดช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมามีทั้งข่าวว่าทีมดังแคว้นบาวาเรียจะใช้และไม่ใช้อ็อปชั่นดังกล่าวจนท้ายที่สุด บาเยิร์น มิวนิค เลือกอย่างหลังก่อน ฮาเมส จะหวนคืนสู่ถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ที่เขายังมีข้อผูกพันถึงปี 2021

แต่มันเป็นการกลับมาเพื่อจากไปอีกครั้งของสตาร์ชาวโคลอมเบียนที่ตกเป็นเป้าหมายเสริมทัพของ นาโปลี ของนายเก่า'อันเช่'ซึ่งมีคู่มือการใช้งานนักเตะเป็นอย่างดี ทว่าการเจรจายืดเยื้อกินเวลายาวนานเนื่องจากฝ่ายทีมดังอิตาเลียนเล่นแง่ต้องการเพียงแค่ยืมตัวนักเตะไปใช้งานพร้อมทำอ็อปชั่นซื้อขาดด้วยค่าตัวราว 35-40 ล้านยูโร แต่ทีมชุดขาวตั้งราคาไว้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านยูโร 

ขณะเดียวกันนักเตะยังตกเป็นข่าวว่าอาจจะถูกทีมชุดขาวประเคนให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เป็นส่วนหนึ่งข้อเสนอล่อซื้อ เนย์มาร์ จาก เปแอสเช ด้วย นอกจากนี้ ฮาเมส ยังตกเป็นเป้าสนใจของ แอตเลติโก มาดริด ที่พร้อมจ่ายค่าตัวจำนวนดังกล่าว ทว่าทีมชุดขาวยังลังเลที่จะยื่นอาวุธให้คู่ปรับร่วมเมือง


จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มพลิกผันหลัง เรอัล มาดริด ประสบปัญหานักเตะแนวรุกบาดเจ็บโดยเฉพาะ มาร์โก อาเซนซีโอ ที่ปิดเทอมยาวหลังเอ็นเข่าซ้ายฉีกขาดระหว่างการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องรายการ'ไอซีซี คัพ'ที่สหรัฐอเมริกา 

ก่อนที่ เอแด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียมที่สโมสรทุ่มเงิน 100 ล้านยูโรดึงมาจาก เชลซี ในช่วงซัมเมอร์นี้เดี้ยงกะทันหันก่อนเปิดซีซั่นใหม่ แม้จะใช้เวลาพักรักษาตัวไม่นานนัก แต่นั่นทำให้ทีมชุดขาวต้องกลับมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะเก็บ ฮาเมส เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของ ซีดาน หรือไม่ 

ซีดาน เคยแสดงความชัดเจนว่าแผนการทำทีมของเขาจะไม่มีทั้ง แกเร็ธ เบล กับ ฮาเมส โรดรีเกซ แต่ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บทำให้เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสเหลือทางเลือกน้อยลง นั่นทำให้เขาต้องส่ง เบล ออกสตาร์ทตัวจริงในเกมเปิดซีซั่นใหม่ที่บาไลโดส ขณะที่ ฮาเมส มีชื่อเป็นตัวสำรองที่ข้างสนาม ก่อนกองหน้าทีมชาติเวลส์จะทำหนึ่งแอสซิสต์ให้ คาริม เบนเซม่า ยิงประตูให้ทัพ'โลส บลังโกส'ประเดิมฤดูกาลใหม่ด้วยชัยชนะ 3-1


การเลือกเก็บ ฮาเมส ไว้กับทีมต่อไปน่าจะสร้างประโยชน์ให้กับทีมชุดขาวและซีดานมากกว่าถ้าหากดูจากประสิทธิภาพของดาวเตะชาวโคลอมเบียนที่เคยยิงถึง 36 ประตูในช่วง 3 ฤดูกาลที่เล่นกับ เรอัล มาดริด นอกเหนือจากการช่วยทีมทำประตูแล้ว ฮาเมส ยังมีประสิทธิภาพในการทำทางหรือจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ดีอีกด้วย 

ฮาเมส ยังเป็นผู้เล่นที่มีทักษะฝีเท้าและความสามารถไม่ด้อยไปกว่าแนวรุกหลายคนที่ทีมชุดขาวมีอยู่ในทีมไม่ว่าจะเป็น คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์, ลูกัส บาซเกซ หรือ โรดรีโก้ โกเอส เพียงแต่ ซีดาน จะให้โอกาสพิสูจน์เหมือน เบล หรือไม่เท่านั้น 

แต่ปัญหาของ ฮาเมส คือเขาไม่มีส่วนร่วมกับทีมตลอดช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา แข้งวัย 28 ปีทำได้แค่ฝึกซ้อมเท่านั้น เขาไม่ได้ลงเล่นเกมมาตั้งแต่การทำศึก โกปา อเมริกา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ในเกมดวลเป้าพ่าย ชิลี ในรอบควอเตอร์ไฟนัล 

อาซาร์ ยังไม่พร้อมลงช่วยทีมชุดขาวในเกมแรกของซีซั่นบนสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ในเกมรับมือ เรอัล บายาโดลิด วันเสาร์นี้ อีกทั้ง ซีดาน ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ลูก้า โมดริช ซึ่งติดโทษพักแข้งหลังถูกไล่ออกจากสนามในเกมเยือนเมืองบีโก้ด้วย สื่อเมืองกระทิงจึงตั้งประเด็นน่าสนใจว่าเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสจะมอบโอกาสให้สตาร์ชาวโคลอมเบียนลงสนามเหมือนการส่ง เบล ลงเล่นในเกมเปิดฤดูกาลหรือไม่ 


ทว่าการเรื้อสนามมานานกว่า 50 วันของ ฮาเมส คงจะเป็นการเสี่ยงเกินไปสำหรับการออกสตาร์ททันที เพลย์เมกเกอร์วัย 28 ปีน่าจะเริ่มต้นด้วยการเป็นตัวสำรองไม่ต่างจากเกมเยือนบาไลโดสเพียงแต่ ซีดาน น่าจะส่ง ฮาเมส ลงสนามช่วงใดช่วงหนึ่งของเกมเพื่อเรียกความคุ้นเคยบางส่วนกลับมาบ้าง

แต่อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้หลัง ซีดาน เคยออกมากล่าวผ่านสื่อก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นการย้ายเข้าหรือย้ายออกจนกว่าตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์จะปิดทำการในวันที่ 2 กันยายนนี้

ยังไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับ ฮาเมส โรดรีเกซ ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่แข้งชาวโคลอมเบียนมีโอกาสที่จะอยู่กับทีมชุดขาวต่อไปในซีซั่นนี้ แม้ยังไม่มีการยืนยัน 100 เปอร์เซนต์ก็ตาม โดยมีเรื่องราวตลอดช่วง 21 สัปดาห์ที่เกิดขึ้นกับเขานับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา 


สัปดาห์ 1 (วันที่ 2 เมษายน)

คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ซีอีโอของ บาเยิร์น มิวนิค ออกมาบอกกล่าวผ่านสื่อว่า'เรามีความสุขมากกับ ฮาเมส เรามีอ็อปชั่นในการซื้อตัวร่วมทีมแบบถาวรและเราวางแผนที่จะดำเนินการตามนั้น'

สัปดาห์ที่ 2 (วันที่ 8 เมษายน)

ฮาเมส ได้สัญชาติสเปน ซึ่งจะส่งผลดีต่อ เรอัล มาดริด หลังเขาเคยลงเล่นกับทีมชุดขาวในฐานะนักเตะนอกโควตาอียูตลอดช่วง 3 ปีแรก ขณะเดียวกันยังมีความเห็นแตกต่างกันใน บาเยิร์น มิวนิค เนื่องจาก อูลี่ เฮอเนส ประธานทีมเสือใต้ไม่ต้องการเซ็นสัญญาถาวรกับ ฮาเมส เหมือนคำสัมภาษณ์ของ รุมเมนิกเก้ ก่อนหน้านี้ 

สัปดาห์ที่ 3 (วันที่ 17 เมษายน)

จอร์จ เมนเดส เอเยนต์ของ ฮาเมส โรดรีเกซ เริ่มเพิ่มแรงกดดันหลัง บาเยิร์น มิวนิค ยังไม่แสดงความชัดเจนว่าจะจัดการกับอนาคตของนักเตะในการดูแลของเขาอย่างไร 

สัปดาห์ที่ 4 (วันที่ 25 เมษายน)

ฮาเมส โรดรีเกซ ไม่มีส่วนร่วมกับเกมของ บาเยิร์น มิวนิค 4 นัดติดต่อกัน มันกลายเป็นการแสดงความชัดเจนจากทีมเสือใต้ว่าสตาร์ชาวโคลอมเบียนจะไม่ได้ไปต่อกับทีมดังแคว้นบาวาเรียน


สัปดาห์ที่ 5 (วันที่ 3 พฤษภาคม)

หลัง บาเยิร์น มิวนิค อาจจะไม่ใช้อ็อปชั่นเซ็นสัญญาถาวรกับนักเตะ นั่นหมายความว่า ฮาเมส โรดรีเกซ จะต้องกลับ เรอัล มาดริด แต่ ซีเนดีน ซีดาน แสดงความชัดเจนเช่นเดียวกันว่าเขาไม่ต้องการแข้งชาวโคลอมเบียน

สัปดาห์ที่ 6 (วันที่ 8 พฤษภาคม)

ฮาเมส โรดรีเกซ ร้องขอให้มีการประชุมกับ รุมเมนิกเก้ เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตที่ไม่แน่นอนของเขา แต่ทีมเสือใต้ยังทอดเวลาการตัดสินใจเรื่องดังกล่าว

สัปดาห์ที่ 7 (วันที่ 18 พฤษภาคม)

ท่ามกลางอนาคตที่ยังไม่มีความแน่นอน ฮาเมส โรดรีเกซ ร่วมฉลองการคว้าแชมป์บุนเดสลีกากับ บาเยิร์น มิวนิค อีกหนึ่งสมัย

สัปดาห์ที่ 8 (วันที่ 20 พฤษภาคม)

'มาร์ก้า'ตั้งคำถามสำรวจความคิดเห็นของแฟนบอล ซึ่งชัดเจนว่าสาวกมาดริดิสต้าส่วนใหญ่ยังคงรักและหนุนหลังดาวเตะชาวโคลอมเบียน ก่อนที่ ฮาเมส จะเผยผ่านสื่อในอีก 5 วันต่อมาว่าเขายังไม่ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับอนาคตข้างหน้า แต่ยืนยันว่าต้องการค้าแข้งอยู่ในถิ่น'อัลลีอันซ์ อารีน่า'ต่อไป 


สัปดาห์ที่ 9 (วันที่ 27 พฤษภาคม)

รุมเมนิกเก้ ซีอีโอทีมเสือใต้ประกาศว่าจะพูดคุยกันครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับอนาคตของ ฮาเมส และใกล้จะยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามิดฟิลด์โคลอมเบียจะได้ไปต่อหรือไม่? ก่อนที่ คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์นาโปลีจะเปิดเผยผ่านสื่อเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนว่าเขาสนใจลูกน้องเก่า

สัปดาห์ที่ 10 (วันที่ 4 มิถุนายน)

บาเยิร์น มิวนิค ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าสโมสรจะไม่เซ็นสัญญาถาวรกับ ฮาเมส โรดรีเกซ และแข้งชาวโคลอมเบียนจะกลับ เรอัล มาดริด หลังสิ้นสุดพันธะในวันที่ 30 มิถุนายน

สัปดาห์ที่ 11 (วันที่ 11 มิถุนายน)

มาร์ก้า รายงานข่าวว่า นาโปลี ต้องการดึง ฮาเมส โรดรีเกซ ไปร่วมทีมและ ออเรลีโอ เด เลาเรนตีส ประธานทีมดังเมืองเนเปิ้ลส์บอกผ่านสื่อว่าการย้ายทีมครั้งนี้มีโอกาสเป็นไปได้ 


สัปดาห์ที่ 12 (วันที่ 19 มิถุนายน)

นาโปลี ยื่นข้อเสนอแรกถึง เรอัล มาดริด ด้วยเงินก้อนแรก 10 ล้านยูโรและจะจ่ายเพิ่มอีก 40 ล้านยูโรภายในหนึ่งปี แต่ทีมชุดขาวยังไม่ตอบสนองข้อเสนอดังกล่าว ขณะที่ ฮาเมส กล่าวระหว่างการลงทำศึก โกปา อเมริกา เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนว่าอนาคตของเขาอยู่ในกำมือ เรอัล มาดริด 

สัปดาห์ที่ 13 (วันที่ 24 มิถุนายน)

ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานลูกหนังของ นาโปลี หนุนทีมเก่าเซ็นสัญญากับดาวเตะชาวโคลอมเบียน ขณะที่พ่อของนักเตะเปิดเผยผ่านสื่อเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนว่าข้อดีของการย้ายไปค้าแข้งในอิตาลีจะทำให้ลูกชายของเขาแฮปปี้มีความสุขและจะได้อยู่ทีมเดียวกับเพื่อนสนิทอย่าง ดาวิด ออสปีน่า ด้วย

สัปดาห์ที่ 14 (วันที่ 3 กรกฎาคม) 

ดานิเอเล่ ออสปีน่า (น้องสาว ดาวิด ออสปีน่า) อดีตภรรยาของ ฮาเมส โรดรีเกซ มองมุมต่างโดยกล่าวกับสื่อว่าเธอคาดหวังว่าสามีเก่าจะอยู่ในมาดริดต่อไป ก่อนจะมีอีกหนึ่งตัวละครเพิ่มเข้ามาคือ แอตเลติโก มาดริด ที่ตกเป็นข่าวว่าสนใจนักเตะตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 


สัปดาห์ที่ 15 (วันที่ 12 กรกฏาคม)

การเจรจาระหว่าง นาโปลี กับ เรอัล มาดริด ถึงจุดสะดุด หลัง เด เลาเรนตีส เล่นบทเขี้ยวพยายามต่อรองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จน ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ รู้สึกรำคาญจนไม่อยากคุยกับประธานนาโปลีอีกต่อไป 

สัปดาห์ที่ 16 (วันที่ 16 กรกฎาคม)

นาโปลี ต้องการดึง ฮาเมส ไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวเท่านั้น แต่ เรอัล มาดริด ไม่เล่นด้วย ก่อนที่ทีมดังเมืองเนเปิ้ลส์จะสับขาหลอกด้วยการเบนเป้าหมายไปหาผู้เล่นรายอื่น ก่อน แอตเลติโก มาดริด จะก้าวขึ้นมาเป็นทีมเต็งที่มีโอกาสเซ็นสัญญากับดาวดังชาวโคลอมเบียน 

สัปดาห์ที่ 17 (วันที่ 23 กรกฎาคม)

ฮาเมส โรดรีเกซ เดินทางกลับมาถึงนครมาดริดหลังสิ้นสุดการพักร้อนและวางแผนคุยกับทีมชุดขาวเกี่ยวกับอนาคตค้าแข้งของตนเอง โดยมีการเผยแพร่ความเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง 

สัปดาห์ที่ 18 (วันที่ 1 สิงหาคม)

ฮาเมส โรดรีเกซ เริ่มต้นฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นวันแรกกับ เรอัล มาดริด ที่ บัลเดเบาส 

สัปดาห์ที่ 19 (วันที่ 9 สิงหาคม)

เรอัล มาดริด ประกาศเบอร์เสื้อนักเตะประจำซีซั่น 2019-2020 ปรากฎว่า ฮาเมส โรดรีเกซ จะสวมเสื้อหมายเลข 16 


สัปดาห์ที่ 20 (วันที่ 13 สิงหาคม)

เสื้อหมายเลข 16 ของ ฮาเมส โรดรีเกซ ถูกวางจำหน่ายที่ชอปขายสินค้าที่ระลึกใน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' ก่อนมิดฟิลด์ทีมชาติโคลอมเบียจะถูก ซีดาน เรียกตัวติดโผสำหรับเกมเยือน เซลต้า บีโก้ ในนัดเปิดซีซั่นใหม่และฮาเมสมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมดังกล่าวด้วย 

สัปดาห์ที่ 21 (วันที่ 20 สิงหาคม) 

การเริ่มต้นครั้งที่สองของ ฮาเมส โรดรีเกซ กับ เรอัล มาดริด กำลังจะเกิดขึ้น หลังการบาดเจ็บของ เอแด็น อาซาร์ ขณะที่ ลูก้า โมดริช ติดโทษแบน ดังนั้นมันจึงมีความเป็นไปได้ว่า ซีดาน อาจจะเลือก ฮาเมส ลงเล่นในเกมเปิดเบร์นาเนวรับมือ เรอัล บายาโดลิด บนเวทีลีกาในวันเสาร์นี้ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด