:::     :::

ปืนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

วันจันทร์ที่ 06 พฤศจิกายน 2560 คอลัมน์ สนามเด็กเล่น โดย เสือเตี้ย
5,221
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การแข่งขันผ่านไปเพียง 11 นัด แต่ราศีแชมป์ของแมนฯ ซิตี้ โดดเด่นเหลือเกินพร้อมทิ้ง ห่างคู่แข่งไป 8 คะแนนเข้าให้แล้ว

หนึ่งในคู่แข่งที่เรือใบสีฟ้าโกยหนีแบบไม่เห็นฝุ่นคือ อาร์เซน่อล

นัดล่าสุดที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า แมนฯ ซิตี้ ก้าวนำหน้าอาร์เซน่อลไปแล้วหลายก้าว 

ต่อให้ไม่ได้จุดโทษหรือลูกล้ำหน้าปัญหาที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ออกมาโวยหลังจบเกม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 90 นาทีบ่งบอกว่า "เรือใบสีฟ้า" สมควรเป็นผู้ชนะมากกว่า

เวนเกอร์ ทำตัวเองลำบากตั้งแต่การจัดตัว การปรับเปลี่ยนทีมเป็นสิ่งที่โค้ชทุกคนต้องทำ แต่ต้องยืดหยุ่น เหมาะสม ไม่ใช่อ่อนยวบ จิ้มไปตรงไหนก็เจอจุดอ่อน


แมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าทุกกระบวนท่า

ฟร็องซิส โกเกอแล็ง ที่หมดสภาพไปนานแล้วถูกถอยลงไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวล่างสุด แทนตำแหน่งของ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ที่ดันป่วยก่อนเกม

นี่คือเซอร์ไพรส์ที่แม้แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังไม่คาดคิด แต่ เวนเกอร์ กล้าๆ ทำ

กลายเป็นว่า 3 เซนเตอร์ฮาล์ฟมีเพียง โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ คนเดียวที่เล่นในตำแหน่งตัวเองจริงๆ อีกคนอย่าง นาโช่ มอนเรอัล ก็ขัดตาทัพมานานจนหลายคนอาจลืมไปว่าเป็นแบ็กซ้ายอาชีพ

แต่ที่ขัดหูขัดตาแฟนบอลมากที่สุดคือการดร็อป อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ เป็นสำรอง

เวนเกอร์ ยอมทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสร 60 ล้านยูโร (รวมโบนัส) เพื่อนำเข้าดาวยิงที่คิดว่าจะสร้างความแตกต่างในเกมใหญ่เกมสำคัญได้เพราะที่ผ่านมา โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยังตอบโจทย์ตรงนี้ไม่ชัดเจน 

แต่พอถึงเวลาจริง กลับไม่กล้าใช้งาน เกมเยือนลิเวอร์พูลก็แบบนี้ 

ลากาแซตต์ มีผลงานจับต้องได้ชัดเจน สถิติยิงประตูมากกว่าทุกคนในทีมถึง 2 เท่า และการลงสนามมายิงตีไข่แตกก็ยืนยันอีกครั้งว่า อดีตหัวหอกลียง "มีของ" เกินกว่าถูกจับให้นั่งข้างสนามโดยเฉพาะเกมใหญ่แบบนี้


อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ลงมาช้าไป อันที่จริงควรต้องออกสตาร์ตแต่แรกด้วยซ้ำ

การยืนเซนเตอร์ของ "ก็อก" ยังพอรับได้ในเหตุผลที่กองหลังนัดกันหายหัวหลายคนเพราะ ชโคดราน มุสตาฟี่, ร็อบ โฮลอิ้ง และ คาลั่ม แชมเบอร์ส เจ็บหมด 

เวนเกอร์เองก็ไม่กล้าเสี่ยงกลับไปเล่นระบบแบ็กโฟร์ในการมาเยือนทีมที่ว่ากันว่าดีที่สุดตลอดกาลอีกทีมของพรีเมียร์ลีก 

แต่การขัง ลากาแซตต์ ไว้ที่ข้างสนามก็เท่ากับตัดอาวุธในแนวรุกของตัวเองแบบไม่จำเป็น 

แมนฯ ซิตี้ ทำได้ดีกว่าตลอดทั้งเกม อาร์เซน่อลเหมือนจะได้ลุ้นช่วงสั้นๆ หลังถอด ก็อกโกแล็ง ออกแล้วส่ง ลากาแซตต์ ลงมาพร้อมปรับเล่นหลังสี่จนได้ประตูตีไข่แตก 

แต่ความอ่อนหัดในเกมรับก็ทำให้พวกเขาหมดลุ้นอีกครั้ง

ดาบิด ซิลบา ล้ำหน้าจริงในจังหวะสอดไปรับบอลก่อนเปิดง่ายๆ ให้ กาเบรียล เชซุส ยิง

แต่ในเมื่อผู้กำกับเส้นไม่ยกธง กองหลังอาร์เซน่อลก็ควรต้องป้องกันไว้ก่อน ต้องวิ่งตาม เชซุส หรือใครก็ตามในเขตโทษ ไม่ใช่มัวแต่ยืนโวยวายว่าทำไมไม่ล้ำหน้า

จังหวะแบบนี้ผู้ตัดสินพลาดกันได้ อาร์เซน่อลเองก็เคยได้ประโยชน์ไปไม่รู้กี่ครั้ง ดังนั้นจึงไม่ควรยกมาเป็นข้อแก้ตัวในความพ่ายแพ้เพราะความเป็นจริงฟ้องอยู่ทนโท่ว่าทำตัวอ่อนแอเอง 

นักเตะแมนฯ ซิตี้ เข้าใจและเล่นในแบบที่ เป๊ป ต้องการได้ครบถ้วน แนวรุกมีคววมเร็ว สอดประสานกันได้ดี วิ่งหาพื้นที่รอบอลทั้งด้านกว้างและตรงกลาง 

ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นได้เลยว่า เวลาที่ ซาเน่ หรือ ราฮีม ตัดเข้ากลาง ดาบิด ซิลบา และ เควิน เดอ บรอยน์ จะฉีกออกด้านข้าง คอยสอดพื้นที่ว่างระหว่างเซนเตอร์กับแบ็ก ทุกอย่างเป็นไปแบบอัตโนมัติ 


สกอร์อาจขาดลอยกว่านี้หาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ เลรอย ซาเน่ ไม่ทำเสียของ

เกมรุกแมนฯ ซิตี้ เป็นแบบนี้ทุกจังหวะ วิ่งทำทางด้วยความเข้าใจ ไม่ต้องชี้นิ้่วสั่งกันเพราะฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี และตรงนี้ทำให้แนวรับอาร์เซน่อลเปิดตำราป้องกันลำบาก

จังหวะที่ มอนเรอัล ไปกระแทก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จนเสียจุดโทษ โค้ชที่ดีควรมองว่าทำไมกองหลังตัวเองถึงยืนลอยสูงปล่อยให้ปีกแมนฯ ซิตี้ ได้หลุดเดี่ยวขนาดนั้น

แต่ เวนเกอร์ กลับโทษการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินเป็นหลักทั้งที่จังหวะนี้ ฟาวล์ชัดเจน ไม่มีอะไรให้ต้องค้านสายตาด้วยซ้ำ

บีบีซี วิเคราห์อีกจุดน่าสนใจเกี่ยวกับการพยายามเพรสซิ่งสูงของอาร์เซน่อล

นักเตะหลายคนพยายามวิ่งไล่บอลจากแนวรับรวมถึงผู้รักษาประตูของซิตี้เพื่อโชว์ให้แฟนบอลเห็นว่าวิ่งมากขึ้น ไม่ได้เหยาะแหยะ ทำให้เห็นว่าช่วยหยุดเกมรุกตั้งแต่การเซตบอลจากหลังบ้านคู่แข่ง

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เวลาไล่บีบไล่กดดันก็วิ่งแค่คนเดียว เป็น อเล็กซิส บ้าง แรมซี่ย์ บ้าง ไม่ได้เคลื่อนที่พร้อมกันทั้งหมด และนั่นก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้เจ้าถิ่นเลย

เจอวิ่งเข้าหาตรงกลาง จอห์น สโตนส์ หรือ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ก็ป้ายออกซ้ายหรือขวาง่ายๆ แถมข้างหลังยังมี เอแดร์ซอน 

ตรงนี้ต่างจากแมนฯ ซิตี้ ที่หากไล่บอลจริงๆ ก็เคลื่อนกันหมด ราฮีม, ซาเน่ รับผิดชอบด้านข้าง เดอ บรอยน์ หรือแม้แต่ "กุน" กดดันตรงกลาง แถมยังสลับตำแหน่งกันได้เรื่อยๆ 

นี่คือแนวทางที่ถูกต้องเพราะฟุตบอลคือการเล่นเป็นทีม ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งแบกภาระจนหลังแอ่น 

แมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าอาร์เซน่อลในทุกจุด จะวัดกันที่ทีมเวิร์ก หรือความสามารถเฉพาะตัวก็ไม่เป็นรอง แถมกุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ยิ่งให้ อาร์แซน เวนเกอร์ เหมือนคนตกยุคยิ่งกว่าเดิม

หาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไม่ทำเสียของในหลายจังหวะ สกอร์จะออกมาขาดลอยยิ่งกว่านี้แน่ 


อเล็กซิส ซานเชซ ทำอะไรไม่ได้กับการยืนหน้าเป้าในเกมนี้

ศาสตร์ฟุตบอลทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก โค้ชที่ปรับตัวได้ และประเมินคู่แข่งเป็น รวมถึงมีแผนสำรอง และขุมกำลังเผื่อเหลือเผื่อขาดให้พร้อมจึงเอาตัวรอดได้

ฤดูกาลก่อน เป๊ป เห็นปัญหาในเกมรับและไม่รอช้าที่จะแก้ไข ฟูลแล็ก 4 คนถูกโละออกไปหมด เคลาดิโอ บราโว่ ที่ดึงมากับมือแต่ไม่เวิร์กก็พร้อมทุ่มเอาคนใหม่อย่าง เอแดร์ซอน เข้ามา

เวนเกอร์ ก็ทำกับการดึง ลากาแซตต์ มาอุดปัญหาแดนหน้า แต่เมื่อไม่กล้าใช้งานจะมีประโยชน์อะไร กว่าจะส่งลงมาได้คือเสียไปแล้ว 2 ประตูซึ่งเป็นงานยากมากที่จะกลับมาได้เพราะนี่คือ แมนฯ ซิตี้ ที่กำลังบินสูง และยังไม่แพ้ใครเลยนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา

เรื่องการลุ้นแชมป์สำหรับอาร์เซน่อลตัดไปได้เลยตั้งแต่เพียง 11 นัดแรกของฤดูกาล ภารกิจไม่ได้มีเพียงไล่ตามแมนฯ ซิตี้ ที่หนีไปแล้ว 12 คะแนน แต่ยังมี แมนฯ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส และ เชลซี รวมถึง ลิเวอร์พูล ที่ต่างดูได้ลุ้นมากกว่า

นี่แค่เข้าสู่เดือนพฤศจิกายนยังขนาดนี้ อีก 2-3 เดือนคงมองไม่เห็นหลัง เลรอย ซาเน่ กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แน่นอน 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด