:::     :::

คุยกับ ศศลักษณ์ ไหประโคน : "ผมไม่เคยหยุดพอใจแค่ปัจจุบัน"

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
4,141
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สัปดาห์นี้ผมมีโอกาสได้คุยกับ "พี" ศศลักษณ์ ไหประโคน ดาวเตะสารพัดประโยชน์ของ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมชาติไทย ที่นอกเหนือจากฟอร์มการเล่นจะโดดเด่นจนถูกกล่าวถึงแทบทุกนัด แล้วยังมีคาแร็คเตอร์ที่น่าสนใจในความทุ่มเทและมั่นใจชนิดไม่กลัวใครหน้าไหนในสนาม วันนี้ผมนำบทสนทนามาฝากเพื่อให้ได้เห็นถึงแนวความคิดและทัศนคติของเขากัน (บทสัมภาษณ์นี้ผมคุยกับพีก่อนทีมชาติเรียกเก็บตัวนะครับ))

แมน : สวัสดีครับพี เป็นไงบ้างช่วงนี้พอใจกับฟอร์มของตัวเองมั้ยครับ

ศศลักษณ์ : ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ครับ ผมเคยทำได้ดีกว่านี้ อยากจะทำให้ดีขึ้นไปอีกครับ 

แมน : ไม่รู้พีเคยเห็นหรือจำได้ป่าว เมื่อซักประมาณ 4-5 ปีที่แล้วมั้งพี่เคยโพสต์หลังจากไปดูแบงค็อกซ้อมว่า ศศลักษณ์ ไหประโคน เด็กคนนี้มีแววมากๆ ว่าจะอนาคตไกลเพราะดูมีความมั่นใจและกล้าลากเลื้อยผ่านรุ่นพี่แบบไม่มีเกรงศักดิ์ศรีเลย ตอนนั้นพียังเป็นดาวรุ่งขึ้นมาใหม่ๆ 

ศศลักษณ์ : ไม่แน่นะใจพี่ แต่คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นครับ

แมน : พี่ไปนั่งดูที่บียูมาใช้สนามซ้อมเมืองทอง พีถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นเป็นปีกขวา เห็นดวลกับลีซอ (ธีรเทพ วิโนทัย) ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว และก็มาเห็นช็อตแบบนี้อีกทีตอนที่พีอยู่บุรีรัมย์เจอกับ ลีซอ ที่อยู่ชลบุรี

ศศลักษณ์ : ผมกับพี่ซอเวลาเจอกันในสนามก็แบบนี้อยู่แล้วครับ ตอนที่อยู่บียูพี่เขาก็สอนอะไรผมหลายๆ อย่าง พี่หลายคนเลยครับที่ให้คำแนะนำทั้งเรื่องในสนามและนอกสนาม


แมน : แนะนำยังไงบ้างครับ

ศศลักษณ์ : อย่างพี่ซอ ก็บอกประมาณว่าให้เรามั่นใจในตัวเองเข้าไว้ ไม่ต้องไปกลัวคนด่า คือผมชอบคาแร็คเตอร์ของแกอยู่แล้ว ถ้าเราอยู่ในสนามเราก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ต้องเป็นมืออาชีพ ทำเพื่อสโมสรครับ แต่นอกสนามเราก็เป็นพี่เป็นน้องกัน

แมน : นัดที่เจอชลบุรี พีจะมีช็อตที่ดวลกับลีซอบ่อยๆ เลยนะ

ศศลักษณ์ : ผมเองก็อยากพิสูจน์ตัวเอง อยากเอาชนะไม่ว่าเจอใครก็ตาม แต่ผมก็จะพยายามปรับให้มันพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไปครับ

แมน : การประสานงานในทีมเป็นไงบ้างพอเลกสองมีการดึงตัวต่างชาติเข้ามาใหม่ จูนกันได้หรือยัง

ศศลักษณ์ : มันยากอยู่แล้วพี่เพราะเขาก็ไม่เคยเล่นในไทยมาก่อนเลย ทุกคนต้องช่วยๆ กัน ตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ 

แมน : มีบางคนบอกว่าพีไม่เหมือนเดิม เดี๋ยวนี้เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูงมาก แต่ก่อนจะเป็นเด็กอ่อนน้อมถ่อมตนกว่านี้ พีคิดยังไง 

ศศลักษณ์ : คาร์แร็คเตอร์แบบนี้คนไทยอาจจะไม่ค่อยชิน คนไทยอาจจะหมั่นไส้ คิดว่าติดแอ็ค หลงตัวเอง แต่ฝรั่งเขาจะมองอีกแบบนะครับ 


แมน : แต่ชีวิตคนเราก็ไม่ได้มีแค่เรื่องในสนามฟุตบอลนะ

ศศลักษณ์ : ครับ นอกสนามผมก็เคารพรุ่นพี่ทุกคน แต่ถ้าลงไปในสนามแล้ว ไม่มีคำว่าพี่น้องครับ ผมเชื่อว่าพี่ๆ เขาก็เข้าใจ อย่างพี่ซอ หรือพี่แคมป์ (สรรวัชญ์ เดชมิตร) นอกสนามผมก็สนิทกันครับ แต่ในสนามเจอกันก็ไม่มียั้ง

แมน : มองในแง่ดีก็เป็นคาร์แร็คเตอร์ที่ดีนะ ที่มีความก้าวร้าวยามลงสนาม และมีความกระหายที่อยากจะทำผลงานให้ออกมาเต็มที่ สมัยที่พีอยู่บียู ก็มีดาวรุ่งหลายๆ คนที่น่าจับตามองนะ แต่ก็มีไม่กี่คนที่ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของสโมสรต่างๆ ในปัจจุบัน

ศศลักษณ์ : ใช่ครับ ผมยกตัวอย่างประตูของแมนฯยูฯ พี่รู้จัก เบน ฟอสเตอร์ ใช่มั้ยครับ ตอนที่ย้ายมาแมนฯยูฯ เขาบอกว่าแค่ได้มาอยู่กับทีมโปรดของเขาก็ภูมิใจแล้ว เขาอยู่ตั้ง 5-6 ปี แถมได้ติดทีมชาติอังกฤษ แต่แทบไม่ได้ลงเล่นให้แมนฯยูฯเลย แล้วต่อมาก็ถูกปล่อยออกไป แต่ผมไม่คิดแบบนั้นพี่ ผมคิดว่าเวลาไปอยู่ทีมไหนก็ตาม ผมไม่ต้องการแค่ได้อยู่ในทีม แต่ผมต้องได้ลงเล่นและมีบทบาทสำคัญด้วย เราต้องก้าวขึ้นมาให้ได้


แมน : คล้ายๆ เคสของ ราเวล มอร์ริสัน กับ ปอล ป็อกบา เปล่า ที่เป็นดาวรุ่งแมนฯยูฯ รุ่นเดียวกัน ตอนแรก ราเวล คนชื่นชมมากกว่า จนกลายเป็นเริ่มเหลิงและใช้ชีวิตแบบเหลวไหล ต่อมากลายเป็นป็อกบาที่มุ่งมั่นมากกว่าจนก้าวไปคว้าแชมป์โลกได้ แต่ ราเวล หายไปไหนแล้วไม่รู้

ศศลักษณ์ : คนละแบบกันพี่ ราเวล ตอนดาวรุ่งเก่งกว่าป็อกบา แต่เขาไปใช้ชีวิตไม่ดีก็เลยถูก ป็อกบา แซง แต่เรื่องของ เบน ฟอสเตอร์ มันเป็นเรื่องความทะเยอทะยานครับ คือสำหรับผม แค่ได้ไปอยู่กับทีมใหญ่ยังไม่พอ มันต้องได้เล่นและเป็นตัวหลักให้ได้ด้วยครับ แล้วก็ต้องก้าวสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าเราพอใจแค่ปัจจุบันเราก็จะไม่โตไปกว่านี้

แมน : เออเจ๋งแฮะ แล้วกับทีมชาติล่ะ การเข้ามาอยู่ใน 33 คนของโค้ชใหม่อย่าง อากิระ นิชิโนะ พีคิดว่าตัวเองน่าจะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน

ศศลักษณ์ : คิดว่ามีโอกาสนะครับ จากฟอร์มการเล่นของผมซึ่งน่าจะเข้ากับแนวทางของโค้ชได้ 


แมน : ตำแหน่งที่ พี ถนัดที่สุดคือตรงไหนครับ เห็นบางทีก็เป็นแบ็คซ้าย, แบ็คขวา, ปีกซ้าย, ปีกขวา บางนัดบุรีรัมย์เคยจับมายืนกลางรุกด้วยซ้ำ 

ศศลักษณ์ : น่าจะเป็นริมเส้นทางฝั่งซ้ายครับ 

แมน : บุรีรัมย์มีลุ้นแชมป์ 3 รายการ ซึ่งโปรแกรมน่าจะหนักมากๆ แล้วทีมก็ไม่ค่อยได้โรเตชั่นผู้เล่นเท่าไหร่ พีคิดว่านักเตะในทีมจะมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายบ้างมั้ย 

ศศลักษณ์ : ไม่รู้สิพี่ ผมรู้แต่ว่ายังไงก็ต้องทำให้ได้แหละ

แมน : ฤดูกาลนี้พีพลาดนัดไหนไปบ้างมั้ยครับ

ศศลักษณ์ : น่าจะไม่พลาดเลยครับ มีแต่ถูกเปลี่ยนตัวออกบ้าง แต่น่าจะลงครบทุกเกม

แมน : พีได้ติดตามดูฟุตบอลเจลีกบ้างมั้ยครับ 

ศศลักษณ์ : ดูตลอดครับ ผมชอบดูพี่อุ้ม เพราะพี่เขาเป็นไอดอลผมอยู่แล้ว ผมชอบคาแร็คเตอร์ของแก


แมน : แล้วคิดมั้ยว่าตัวเองอยากจะไปเล่นเจลีกบ้าง

ศศลักษณ์ : อยากลองไปเหมือนกันครับ

แมน : ถ้าให้เลือกระหว่างไปยุโรปเลยหรือไปญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ จะไปที่ไหน

ศศลักษณ์ : เอาทีละสเต็ปดีกว่าพี่ ผมขอไปญี่ปุ่นก่อนดีกว่า หรือเกาหลีใต้ก็ได้ 

แมน : เคยมีใครมาคุยถึงเรื่องจะพาไปเล่นลีกต่างประเทศบ้างหรือยัง

ศศลักษณ์ : ยังไม่เคยครับ สำหรับผมก็แล้วแต่สโมสรด้วยครับ

แมน : แล้วพีมีนักเตะคนไหนเป็นไอดอลมั้ยครับ

ศศลักษณ์ : ผมชอบ (คริสเตียโน่) โรนัลโด้ครับ ชอบแนวความคิดของเขา ตอนเขาย้ายมาแมนฯยูฯใหม่ๆ คนก็ด่าเขาเยอะว่ามั่นใจในตัวเองสูง บ้าเลี้ยง แต่เขาก็พิสูจน์ตัวเองด้วยความสามารถและไม่ทิ้งสไตล์ของตัวเองไป ผมยึดถือเขาเป็นแบบอย่าง อยากทำให้ได้แบบเขาครับ


แมน : ก่อนหน้านี้พีเคยถูกเรียกติดทีมชาติมาบ้างแล้ว เมื่อปีก่อนในยุคของ มิโลวาน ราเยวัช กับ พี่โต่ย, พี่โชค คิดว่าตัวเองได้รับโอกาสน้อยไปมั้ย

ศศลักษณ์ : ก็คิดว่าน่าจะได้โอกาสมากกว่านี้ครับ แต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าผมทำผลงานได้ดีกับสโมสร วันนึงโอกาสก็น่าจะมาถึงเรามากขึ้นครับ

แมน : การที่เราเป็นน้องใหม่เข้าไปอยู่ในทีมชาติช่วงก่อนหน้านี้ ปรับตัวยากมั้ย

ศศลักษณ์ : ยากเหมือนกันพี่ เพราะเราไม่ค่อยรู้จักหรือสนิทกับใคร ยังดีที่มีพี่ๆ ในทีมบุรีรัมย์อยู่บ้าง บางทีก็วางตัวไม่ถูกครับ เพราะเวลาอยู่ร่วมกันก่อนแข่งมันน้อยด้วย 

แมน : ความสัมพันธ์ภายในทีมสำคัญมากนะ แล้วพอเปลี่ยนโค้ชมาเป็นนิชิโนะ มีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ เข้าไปติดเยอะขึ้น การปรับตัวจะง่ายหรือยากกว่าเดิมมั้ย

ศศลักษณ์ : คิดว่าน่าจะง่ายขึ้นนะพี่ เพราะโค้ชเขาน่าจะเน้นเรื่องความสัมพันธ์ในทีม และมีเวลารวมตัวกันเยอะกว่าครั้งก่อนๆ น่าจะสนิทกันง่ายขึ้นครับ

แมน : ไทยเราไม่ชนะ เวียดนาม ทุกชุดมาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2560 นี่ผ่านมา 2 ปีกว่าแล้ว ซึ่งนัดนั้นพีก็อยู่ในสนามเนอะ ตอนชนะในซีเกมส์ ที่มาเลเซีย 3-0 มาเจอกันในฟุตบอลโลกครั้งนี้ พีคิดว่าถึงเวลาหรือยังที่เราจะชนะเขาได้อีก

ศศลักษณ์ : ผมว่าต้องครั้งนี้แล้วล่ะครับ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว ด้วยสภาพทีม การเป็นเจ้าบ้าน ถ้าไม่ชนะครั้งนี้ก็ลำบากเลยพี่ 

แมน : โอเคขอบคุณมากครับพี  ถ้าพีได้ลงนัดเจอเวียดนาม ฝากยิงซักลูกสองลูก หรือแอสซิสต์ก็ได้นะ

ศศลักษณ์ : 555 ได้เลยพี่ ขอบคุณครับ


ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ : ศศลักษณ์ ไหประโคน (พี)

วันเกิด : 8 มกราคม 1996 (อายุ 23 ปี)

สถานที่เกิด : จังหวัดบุรีรัมย์

ส่วนสูง : 1.69 เมตร

ตำแหน่ง : วิงแบ็ค, ปีกซ้าย-ขวา 

สโมสรเยาวชน

2011-2013 โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี

สโมสรอาชีพ

2014-2017 แบงค็อก ยูไนเต็ด

2017 -> บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ยืมตัว)

2018-ปัจจุบัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ทีมชาติ

2016 ไทย ยู-21 

2017 ไทย ยู-23

2018-ปัจจบัน ไทย ชุดใหญ่ 



ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด