อังกฤษ มีโปรแกรมแรกนับตั้งแต่คว้าอันดับสาม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่ดวลจุดโทษชนะ สวิตเซอร์แลนด์ มาได้ในช่วงเดือนมิถุนายน และถือเป็นสองเกมที่ไม่หนักหนาอะไรกับการลงเล่นในบ้านเจอกับ บัลแกเรีย ที่ เวมบลีย์ และพบ โคโซโว ที่ เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม รังของ เซาธ์แฮมป์ตัน

จากการประกาศรายชื่อทีมออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี เซาธ์เกต เรียกนักเตะหน้าใหม่มาติดทีมครั้งแรกสองราย อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็กขวาตัวใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ไทโรน มิงส์ เซนเตอร์แบ็กร่างใหญ่ของ แอสตัน วิลล่า

วาน-บิสซาก้า ถูกคาดการณ์ว่าน่าจะมีชื่อติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ชุดที่แล้ว แต่ก็ไร้เงา จนกระทั่งฟอร์มแจ่มกับ ปีศาจแดง ในช่วงต้นซีซั่น เซาธ์เกต จึงต้องเรียกมาทดลองฝีเท้า ขณะที่ มิงส์ ถือว่าเซอร์ไพรส์มาก เพราะเซนเตอร์แบ็กวัย 26 ปี ไม่เคยรับใช้ทีมชาติในชุดเยาวชนให้กับประเทศใดมาก่อนเลย และไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าชาตินี้จะมีบุญได้ติดทีมชาติ

บวกกับอีกสองหน้าเกือบใหม่ เมสัน เมาท์ กองกลางตัวรุกของ เชลซี กับ เจมส์ แมดดิสัน มิดฟิลด์ตัวรุกเช่นกันของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่บอกว่าเกือบใหม่ ก็เพราะทั้งคู่เคยถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่มาแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ประเดิมสนาม

เมาท์ ถูก เซาธ์เกต เรียกตัวมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกก่อนเริ่มต้นฟุตบอลโลก 2018 และถูกเรียกตัวมาติดจริงๆ ในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่เจอกับ โครเอเชีย และ สเปน ในเดือนตุลาคมปี 2018 โชคร้ายที่บาดเจ็บจนต้องถอนตัว และบังเอิญว่า แมดดิสัน ก็ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในช่วงเวลาเดียวกัน และตอนนั้นไม่มีโอกาสได้ลงสัมผัสเกม

"เมื่อ ไคล์ มีสภาพจิตใจที่มั่งคงแข็งแกร่ง เขารู้ดีว่าเขาต้องทำอะไร และเขาก็ทำได้ดีเสมอ ทำได้อย่างมั่นคงแน่วแน่ที่นี่ การเล่นอย่างสม่ำเสมอ การได้คะแนน 7 หรือ 8 อยู่ตลอดเวลา นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำงานร่วมกับเขา เขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ และเขาจะกลับมาได้"

"เขาเล่นได้ดีจริงๆ ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล พยายามที่จะเข้าใจว่า วาน-บิสซาก้า กับ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็เป็นฟูลแบ็กที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน เขาต้องรักษาผลงานที่ดีแบบนี้ต่อไปเพื่อกลับสู่ทีมชาติอีกครั้ง" เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ข้องใจกับการหลุดโผทีมชาติอังกฤษของ ไคล์ วอล์คเกอร์

เช่นเดียวกับใครหลายๆ คนที่ประหลาดใจเมื่อเห็นฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ วอล์คเกอร์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่กลับไม่มีชื่อในทีมชาติชุดนี้ โดยทีมชุดนี้ เซาธ์เกต ยังคงเรียกแบ็กขวาเข้ามาสามรายเหมือนดิม เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาจาก ลิเวอร์พูล กับ คีแรน ทริปเปียร์ แข้งใหม่ของ แอตเลติโก มาดริด ยืนพื้น และ อารอน วาน-บิสซาก้า ติดทัพครั้งใหญ่ตามกระแสเรียกร้อง

เซาธ์เกต พูดเอาไว้ชัดเจนทีเดียวสำหรับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กองกลาง ลิเวอร์พูล ที่พักฟื้นไปนานหลายเดือน และในช่วงต้นฤดูกาลก็ยังคงได้ลงสนามในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มากนัก

"ผมหวังว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ ผมคิดว่าเราค่อนข้างชัดเจนว่าเขาจะอยู่ในทีมตัวจริงของเราในฟุตบอลโลก ถ้าเขาฟิตสมบูรณ์ เขามีฟอร์มที่ยอดเยี่ยม และอาการบาดเจ็บก็พรากสิ่งนั้นไปจากเขา"

"ผมดีใจที่เขากลับมาอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้ง เขายังไม่กลับสู่มาตรฐานที่ดีที่สุดของเขา แต่ผมคิดว่าเขาเล่นได้ดีทีเดียว และหวังว่าเราจะสามารถช่วยเขากลับสู่ระดับของตัวเองได้อีกครั้ง เขาได้เห็นแล้วว่าเรามีความเชื่อมั่นในตัวเขา"

นอกจาก อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่คัมแบ็กทีมชาติอังกฤษอีกครั้ง นิค โพ๊ป ผู้รักษาประตูจากค่าย เบิร์นลี่ย์ ก็กลับมามีชื่อในทีมของ เซาธ์เกต เช่นกัน สาเหตุสำคัญคือฟอร์มห่วยของ แจ๊ค บัตแลนด์ จนถึงขั้น สโต๊ค ซิตี้ ทีมท้ายตารางแชมเปี้ยนชิพ ยังต้องดร็อปเป็นสำรอง

ยังคงมีนักเตะหลายคนที่หายหน้าหายตาไปจากทีมชุดนี้ เพราะอาการบาดเจ็บ หนึ่งในนั้นคือ เดเล่ อัลลี กองกลาง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ช่วงหลังๆ ยิ่งเล่นยิ่งฟอร์มตกด้วย

"เดเล่ อาจจะฟิตสมบูรณ์ แต่เราไม่ได้เรียกเขา เพราะไม่รู้ว่าเขาจะพร้อมลงเล่นตลอด 90 นาทีได้หรือเปล่า ผมคิดว่าเราน่าจะให้เวลาเขาได้เรียกความฟิต" เซาธ์เกต พูดถึงมิดฟิลด์ที่ยังไม่ได้ลงเล่นให้ สเปอร์ส ในฤดูกาลนี้เลย

นอกจาก อัลลี แล้ว เซาธ์เกต ยังต้องเจออาการบาดเจ็บของลูกทีมอีกหลายคน ทั้ง ลุค ชอว์ แบ็กซ้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, รูเบน ลอฟตัส-ชีค กับ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย สองมิดฟิลด์ เชลซี และ เนธาน เร้ดมอนด์ ปีก เซาธ์แฮมป์ตัน ที่มีชื่ออยู่ในทีมชุดก่อนหน้านี้

และที่หลุดโผจากชุดก่อนอีกสี่ราย จอห์น สโตนส์ เซนเตอร์แบ็กของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เอริค ดายเออร์ กองกลางตัวรับจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, ฟาเบียน เดลฟ์ กองกลางตัวใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน และ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ เจ้าพ่อลูกนิ่งของ เซาธ์แฮมป์ตัน