ศึกหนล่าสุดที่ เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดียม จบลงด้วยการแบ่งแต้ม ส่งผลให้สาวกปิศาจแดงผิดหวังไม่น้อยเพราะรูปเกมที่ออกมารวมไปถึงโอกาสการเข้าทำมันบ่งชี้ว่าทีมเยือนจากแมนเชสเตอร์สมควรได้ 3 คะแนน

กระนั้นมันก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่แสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนในแนวรุก รวมไปถึงจังหวะเข้าทำและคว้าโอกาสทอง ซึ่งมันแสดงออกมาให้เห็นหลายครั้งในยุคของ โซลชา

นั่นคือจุดสำคัญที่ต้องแก้ไข แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถหาสิ่งเติมเต็มมาอุดช่องว่างตรงนี้ไปได้ ซึ่งเกมที่ผ่านมาก็ไม่ต่างไปจาก 2 เกมก่อนหน้านั้น

ไล่ย้อนกลับไปถึงเกมดวลกับ วูล์ฟส์ ทีมที่มักจะสร้างปัญหายามที่ ผีแดง ต้องออกไปเยือนในช่วงหลัง ทว่าลูกทีมของ โอเล่ กลับทำได้ดีเกินคาดและเกือบจะคว้าชัยได้สำเร็จ ซึ่งหากไม่นับการพลาดจุดโทษของ ปอล ป็อกบา ก็คงจะพอพูดได้ว่าหากทีมมีความเฉียบขาดกว่า 3 แต้มที่มิดแลนด์สคงไม่หนีไปไหน

ไม่ต่างไปจากเกมเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่พลาดท่าโดน คริสตัล พาเลซ เสกลงหม้อเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะ ปิศาจแดง กดดันแล้วกดดันอีกก่อนจะมาโดนประตูออกนำแบบงงๆ และนั่นส่งผลให้รูปเกมเสียไปเลย แม้จะตั้งลำกลับมาใหม่แต่ก็อย่างที่เห็นไปโอกาสแล้วโอกาสเล่าที่เข้ามาก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้สักที

เกมล่าสุดยิ่งชัดเจน เมื่อถึงสถานการณ์ที่ทีมต้องเดินหน้าบุกเอาประตูชัยบวกกับสถานการณ์ที่เป็นต่อเรื่องผู้เล่น แต่บรรดาแนวรุกก็พลาดโอกาสไปเสียหมด

สิ่งเหล่านี้ทุกคน เห็นได้อย่างชัดเจนและทราบดีว่ามันเป็นปัญหาของทีมที่ส่งผลให้ไม่สามารถคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้ โซลชา ก็ทราบซึ่งเขาพยายามที่จะแก้ไขแต่ดูเหมือนว่าที่ผ่านมายังไม่ประสบผล

อย่างหลังจบเกมที่ผ่านมากุนซือชาวนอร์เวย์จากรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ยอมรับอีกครั้งว่าทีมมีโอกาสากมายแต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการคว้าน้ำเหลว (เพียง 1 คะแนน) 

"เรามีโอกาสมากมาย สร้างโอกาสเยอะแยะแต่ก็พลาดในจังหวะสุดท้าย เราต้องเรียนรู้ในการฉวยโอกาสในการทำประตูในจังหวะเล็กๆน้อยๆเหล่านั้น ไม่ใช่ทำแต่ประตูที่สวยงาม"

ถึงจะออกมาตำหนิเช่นนี้แต่อย่างที่เรียนไปว่า โซลชา ยังคงมั่นใจว่าทีมกำลังดำเนินมาถูกทางเหลือเพียงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเท่านั้นที่จะทำให้ทีมสามารถเดินหน้าเก็บชัยและคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการมาได้

อะไรทำให้กุนซือใหญ่ของปิศาจแดงรายนี้มั่นใจว่าพวกเขากำลังมาถูกทาง หากเดาใจตอนนี้ด้วยมุมมองจากคนภายนอกคงเป็นเพราะนี่คือทีมที่เขาคัดสรรมาแล้วจะนำมาพัฒนาและผลักดันสู่อนาคต

การปรับปรุงทีมในช่วงที่ผ่านมาก็ชัดเจนว่า โซลชา และทีมงานดูจะพอใจกับแนวรุกของทีมเป็นอย่างมาก พวกเขาเลือกที่จะจัดการเสริมแนวรับด้วยการดึง อารอน วาน-บิสซาก้า และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เข้ามาซึ่งก็ส่งผลดีขึ้นมาก (แม้จะเสียประตูตลอด 3 เกมหลัง) โดยเฉพาะการเล่นและการสอดประสานกันระหว่างเกม

รวมไปถึง แดเนี่ยล เจมส์ ที่กำลังได้รับคำชมอย่างล้นหลามในค่ายผีแดงโดยเฉพาะการเล่นที่สร้างผลกระทบทางบวกได้เป็นอย่างดี

แข้งชาวเวลส์รายนี้สามารถเข้ามาเพิ่มศักยภาพในการทำประตูของทีม แต่ก็อย่างที่เรียนไปว่าบางครั้งโอกาสที่มีกับประตูที่ได้มันไม่สัมพันธ์กัน ซึ่งนั่นคือการบ้านของบรรดาแนวรุกที่ต้องนำไปแก้ไขและตีโจทย์ให้แตก

ทำอย่างไรให้พวกเขาเล่นสอดประสานกันอย่างลงตัวและที่สำคัญคือจบสกอร์ได้ในทันที ไม่ต้องทำเกมให้สวยงามมากนักแต่สิ่งสำคัญคือประสิทธิภาพในการส่งบอลซุกก้นตาข่าย ซึ่งนั่นสำคัญกว่า

มองในแง่ดีสุดๆ ตอนนี้ทุกตำแหน่งกำลังลงตัวมากขึ้นแดนกลาง โอเล่ มั่นใจ ปอล ป็อกบา กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ให้คุมพื้นที่ แม้จะยังไม่เนียนเป๊ะหรือดีมากมายอะไรแต่ก็สามารถทำลาย (เกมคู่แข่ง) และสร้างสรรค์เกม ได้ดีพอสมควร

แนวรับก็สามารถจัดการกับการคุกคามฝ่ายตรงข้ามได้ดีขึ้น แม้จะยังมีจังหวะผิดพลาดในเรื่องการประกบลูกนิ่ง แต่ส่วนอื่นๆก็ถือว่าสอบผ่าน

"ผมคิดว่าเรากำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง เรากำลังสร้างโอกาสมากมายในเกมที่ต้องออกไปเยือนทีมที่ต้องการเล่นแบบกดดันและสร้างความยากลำบากให้กับเรา แม้แต่หลังจากที่เราสร้างความผิดพลาด 2 ครั้ง เราก็ยังเชื่อมั่นในตนเองและเล่นในทิศทางของเรา แต่เราไม่สามารถที่จะจบสกอร์ได้ก็เท่านั้น"

หากอ่านจากบทสัมภาษณ์ของ โซลชา ที่ให้ไว้หลังจบเกมนัดล่าสุด ถึงตรงนี้อยู่ที่แนวรุกแล้วว่าจะสามารถแก้ปัญหาที่ว่ามาอย่างไร เพราะบางครั้งทีมเสียประตูไม่ว่าขอแค่ยิงให้ได้มากกว่าเป็นพอ เหมือนยุคสมัยหนึ่งของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

(ขอ) ย้อนกลับไปในช่วงนั้น บางนัดแนวรับมีปัญหา บางยุคกองหลังก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากมาย แต่ทีมอาศัยแนวรุกบุกเดินหน้าฆ่าไม่เลี้ยงก่อนจะเอาชนะมาด้วยการทำประตูที่มากกว่าจำนวนที่เสียไปในแต่ละเกม

มันก็ขึ้นอยู่กับ โซลชา และทีมงานแล้วว่าพวกเขาจะสามารถปรับแต่งเรื่องแทคติกหรือระบบ รวมไปถึงทัศนคติของลูกทีมโดยเฉพาะในแนวรุกให้ดีกว่าเดิมได้หรือไม่ เพราะหากยังเป็นเช่นนี้ต่อเชื่อว่าแต่ละเกมคงเป็นการลุ้นที่หืดจับและอันตรายต่อหัวใจแฟนบอลไม่น้อย

แต่ ... ถ้าพวกเขาสามารถปรับแต่งให้ลงตัวและสามารถเพิ่มเติมการเล่นที่รวดเร็วให้มีความดุดันและเฉียบคมเข้าไปด้วยเชื่อว่าอย่างน้อยๆ ประกายความหวังจะค่อยๆส่องแสงออกมา

เหมือนอย่างที่ โซลชา กล่าวไว้นั่นแหละ 'ฉวยโอกาส' หัดเล่นง่ายๆและทรงประสิทธิภาพ เพราะบางครั้งฟุตบอลไม่ได้ต้องการความซับซ้อนอะไรมากมายโดยเฉพาะจังหวะจบสกอร์

นั่นคืองานที่พวกเขามีเวลาไปประชุมทีมและมองถึงจุดที่ต้องปรับแต่งก่อนจะกลับมาลงสนามในนัดต่อไปกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังโปรแกรมทีมชาติ

ส่วนแฟนบอลอย่างเราและท่านทั้งหลายก็ได้แต่หวังว่าจะเห็นพัฒนาการที่ดีกว่า 3 เกมที่ผ่านมา โดยเฉพาะจังหวะจบสกอร์ (ยามที่ต้องเดินหน้าบุก) แบบที่ไม่ต้องมานั่งลุ้นจนเยี่ยวเหนียวจนวินาทีสุดท้ายเช่นนี้