ช้างเผือกไทยในแดนผู้ดี
ความพยายามในหลากหลายวิธีที่ผ่านมายังไม่ใกล้เคียงกับคำว่า "สำเร็จ" ไม่ว่าจะเป็น "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่อยู่ในทีมสำรองของฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ยุคที่ยังไม่ได้ขึ้นมาพรีเมียร์ลีก
"แตงโม" พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน ลูกชาวหัวแก้วหัวแหวนของ "พี่ตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตดาวยิงขวัญใจชาวไทยที่ได้ทุนไปฝึกฟุตบอลที่มิดเดิ้ลสโบรช์ถึง 3 ปี แต่ก็ไม่สามารถขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ได้ ก่อนสุดท้ายมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังและหันเหไปเอาดีในวงการบันเทิง
"ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ได้รับการผลักดันจากสยามกีฬาให้ไปเล่นเรียนและฝึกฟุตบอลที่ "เบรนวู้ด" ซึ่งเป็นโรงเรียนชื่อดังที่ผลิตนักเตะป้อนสโมสรเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และมีตำนานทีมชาติอังกฤษ และเชลซีอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด เป็นหนึ่งในศิษย์เก่า
ดาวเตะแบงค็อก ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน ถือว่าโดดเด่นมากในฟุตบอลระดับนักเรียนที่อังกฤษจนได้เซ็นสัญญาเข้าทีมเยาวชนของคริสตัล พาเลซ และเล่นร่วมกับ เวย์น เร้าท์เล็ดจ์ ที่ตอนนี้ค้าแข้งอยู่กับ สวอนซี ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก
หรือกระทั่งรายล่าสุด "อั้ม" เพชรรัตน์ โชติปาละ เด็กสร้างเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อีกรายที่เดินตามรอย "ลีซอ" เข้าฟูมฝักฝีเท้าและเรียนหนังสือที่เบรนท์วู้ดอยู่หลายปี พาทีมกวาดแชมป์ทั่วประเทศจนได้ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของโรงเรียน และได้โอกาสไปทดสอบฝีเท้ากับ "ขุนค้อน"
"อั้ม" เพชรรัตน์ โชติปาละ เด็กไทยอีกคนที่เคยไปตามความฝันที่อังกฤษ
แต่เกือบทั้งหมดต้องหยุดเส้นทางเร็วกว่าที่คาดเพราะติดปัญหาเดียวกันคือ "เวิร์กเพอร์มิต" หรือใบอนุญาตทำงานในอังกฤษซึ่งเป็นอุปสวรรคสำคัญเพราะถ้าไม่มีก็จะไม่มีทางเล่นฟุตบอลอาชีพที่อังกฤษ
โค้ชโรงเรียนเบรนวู้ดเสียดายฝีเท้าของ "อั้ม" อย่างมากเพราะมั่นใจว่าก้าวขึ้นไปเล่นระดับอาชีพของอังกฤษได้แน่นอน แต่ปัญหาเวิร์กเพอร์มิตทำให้แข้งดาวรุ่งไทยต้องเดินทางกลับมาตุภูมิหลังเรียนจบเกรด 11 (เทียบเท่า ม.ปลาย)
ปัจจุบัน "อั้ม" ศึกษาอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมกับเล่นฟุตบอลให้ จามจุรี ยูไนเต็ด และไม่กี่เดือนก่อนเพิ่งติดทีมมหาวิทยาลัยที่คัดจากทั่วประเทศไปแข่งที่เกาหลีใต้แถมยิงประตูได้ด้วยทั้งที่เล่นตำแหน่งแบ็กขวา
"อั้ม" เล่าให้ฟังว่าขนาดเด็กจากสหรัฐฯ ที่มาเรียนด้วยกันยังขอเวิร์กเพอร์มิตไม่ได้ทั้งที่ฝีเท้าดีเยี่ยม สุดท้ายต้องกลับอเมริกาอีกรอบ
ความหวังที่จะเห็นเด็กไทยได้เล่นในพรีเมียร์ลีก หรือแม้แต่ลีกอาชีพรองๆ ลงมา ดูจะมืดดับลงไป แต่แล้วก็มีแสงไฟสว่างวูบขึ้นมาอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ภัทรพล คำสุข หรือ "บิ๊ก" (ซ้ายสุด) ช่วยทีมเต็มที่แต่ มิลตัน คีนส์ ดอนส์ ยังแกร่งกว่า
ใครที่ได้ดูการถ่ายทอดสดเกมเอฟเอ คัพ รอบแรก ระหว่าง ไฮด์ ยูไนเต็ด กับ มิลตัน คีนส์ ดอนส์ ทางช่อง 7 ต้องสะดุดตา สะดุดหูกับชื่อนักเตะไทยคนหนึ่งของฝั่งเจ้าบ้านที่ลงตัวจริงแถมยึดตำแหน่งหมายเลข 10 ในทีมอีกต่างหาก
เขาคนนั้นมีชื่อว่า "ภัทรพล คำสุข" (Phattharaphol Khamsuk) ผู้ลงสนามตัวจริงกับไฮด์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมระดับ นอร์ท พรีเมียร์ลีก (ดิวิชั่น 8) ของอังกฤษ
นักเตะสายเลือดไทยแท้ได้ลงเล่นในเอฟเอ คัพ ฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่และเปี่ยมมนต์ขลังของอังกฤษ...นี่คือประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึก
ลีลากระชากบอลหลอกล่อคู่แข่งในเกมนัดประวัติศาสตร์ของ "บิ๊ก"
เกมนี้ยังเป็นเกมใหญ่สุดในเอฟเอ คัพ ของไฮด์ในรอบ 23 ปีเพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาถึงรอบแรกได้เลย และ ภัทรพล หรือ "บิ๊ก" ก็คือหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีม
มิลตัน คีนส์ ดอนส์ เหนือกว่าเยอะทั้งเป็นทีมในลีก วัน หรือสูงกว่า ไฮด์ ถึง 5 ดิวิชั่น และ 3 ปีก่อนเคยไล่ยิงแมนฯ ยูไนเต็ด ขาดลอย 4-0 ในถ้วยลีก คัพ (ชุดนั้นมี เดเล่ อัลลี่ กับ เบนิค อโฟเบ้ เป็นตัวชูโรง) ก่อนเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ในสกอร์ 4-0
ทว่าผลงานของ "บิ๊ก" ถือว่าไม่ธรรมดาแม้เจ้าตัวจะยังไม่พอใจฟอร์มของตัวเองก็ตาม โดยแข้งไทยเล่นในตำแหน่งตัวปั้นเกม ลีลาคล่องแคล่ว เอาตัวรอดได้ดีกับการเผชิญหน้านักเตะที่สูงใหญ่กว่า แถมได้ยิงฟรีคิกเฉียดเสาแบบได้ลุ้น รวมถึงจ่ายให้เพื่อนหลุดเดี่ยวแต่ยิงพลาดไป
เดลี่ เมล พูดถึงแข้งไทยว่าเป็นหนึ่งในตัวหลัก และได้รับการจับตามองจากหลายทีมในฟุตบอลลีก
รายงานหลังเกมจากเดลี่ เมล ที่บอกว่าแข้งไทยหวิดทำประตูได้ในเกมนี้
ขณะที่ เดลี่ เมล สื่อดังกฤษที่รายงานผลการแข่งขันนัดนี้ยังกล่าวถึงแข้งดาวรุ่งวัย 21 ปีของไทยพอสมควร โดยบอกว่าเป็นหนึ่งในผลผลิตจากอะคาเดมี่สโมสร และได้รับการจับตามองจากหลายทีมในฟุตบอลลีก
ก่อนหน้าเกมนี้ยังมีสกู๊ปพูดถึงการเจอกันของ ไฮด์ กับ มิลตีน คีนส์ พร้อมยกให้แข้งสายเลือดไทยเป็นหนึ่งในผู้เล่นน่าจับตามองในฐานะ มิดฟิลด์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ (exciting midfielder)
ไฮด์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรสมัครเล่นที่ตั้งอยู่ละแวกแมนเชสเตอร์ นักเตะส่วนใหญ่ไม่ได้ยึดอาชีพค้าแข้งเป็นหลักเพราะต่างมีหน้าที่ประจำทำกันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นอาจารย์สอนหนังสือ พนักงานธนาคาร ฯลฯ
สกู๊ปก่อนเกมจาก เดลี่ เมล ที่บอกว่า ภัทรพล เป็นมิดฟิลด์ที่ลีลาน่าตื่นตาตื่นใจ
ส่วน "บิ๊ก" เรียนอยู่ที่แมนเชสเตอร์ พร้อมกับตามล่าความฝันในฐานะในนักเตะอาชีพด้วยการเข้าสังกัดของ ไฮด์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วก่อนไต่เต้าขึ้นมายึดตัวจริงในชุดใหญ่ได้สำเร็จหลังพิสูจน์ตัวเองว่าช่วยทีมได้จากตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ช่วงที่ผ่านมา "บิ๊ก" ร่วมกิจกรรมเตะฟุตบอลกับคนไทยที่เรียนและทำงานที่อังกฤษอยู่เรื่อยๆ เพราะในช่วงจบฤดูกาล ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ เอฟเวอร์ตันซึ่งเป็นพันธมิตรกับเครื่องดื่มสัญชาติไทย จะชวนคนไทยไปเล่นฟุตบอลที่สนามตลอด
นั่นทำให้คนไทยหลายคนได้โอกาสเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, สแตมฟอร์ด บริดจ์ และ กูดิสัน ปาร์ค ทุกปีเพราะทุกสโมสรจะเปลี่ยนหญ้าในสนามทุกซัมเมอร์ และก่อนจะรื้อหญ้าเก่าทิ้งก็เปิดโอกาสให้สปอนเซอร์สโมสรทำกิจกรรมและพาแฟนบอลมาลุยกันให้เต็มที่ส่งท้าย
ประวัติของ ภัทรพล คำสุข ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าอีกไม่กีเดือนต่อมา เด็กหนุ่มหน้าใสที่เล่นสนุกๆ ด้วยกันจะได้โอกาสลงสนามในรายการสำคัญอย่าง เอฟเอ คัพ และเจอทีมอาชีพในระดับลีก วัน ของประเทศ
ในเว็บไซต์ทางการของ ไฮด์ ยูไนเต็ด ระบุไว้ว่า "บิ๊ก" ไต่เต้าจากอะคาเดมี่สู่ทีมชุดใหญ่ระหว่างฤดูกาล 2015/16 พร้อมกับบรรยายสรรพคุณไว้ว่ามีจุดเด่นความขยัน, ไปกับบอลได้ดี และกัดไม่ปล่อยในการไล่บี้แย่งบอลกลับมาครอบครองอีกครั้ง
"บิ๊ก" (แถวหน้าขวาสุด) เมื่อครั้งเล่นบอลที่กูดิสัน ปาร์ค กับคนไทยในอังกฤษ
ฤดูกาลนี้ ภัทรพล หรือ บิ๊ก ลงสนามไปแล้ว 14 นัด ยิง 4 จ่าย 3 และคว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ถึง 2 ครั้ง
เว็บไซต์สโมสรยังได้เปิดเผยว่า แข้งตัวรุกชาวไทยซึ่งถือพาสปอร์ตสัญชาติสหราชอาณาจักรด้วยนั้น เคยไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรชั้นนำทั้งเลสเตอร์ และเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ มาก่อนด้วย
หลังกลายเป็นข่าวดังที่ไทย "บิ๊ก" เปิดเผยมีเอเยนต์ติดต่อให้กลับไปเล่นฟุตบอลที่ไทย แต่เจ้าตัวขอเลือกพิสูจน์ตัวเองในอังกฤษก่อนโดยเฉพาะการไต่ระดับขึ้นไปเล่นในลีกที่สูงกว่า
มักถูกเลือกให้สัมภาษณ์ในฐานะตัวหลักของทีม
ในฐานะคนไทยด้วยกัน การได้ยินเรื่องราวแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่ตั้งความหวังนิดๆ พร้อมทั้งส่งแรงใจเชียร์อยู่ห่างๆ
เส้นทางฟุตบอลอาชีพที่อังกฤษ "ไม่ง่าย" และเต็มไปด้วยอุปสวรรค นี่จึงเป็นเพียงก้าวแรกๆ จากระยะทางอีกนับหมื่นนับพันก้าวกว่าจะถึงเป้าหมาย
ระหว่างนี้เราคงต้องตามข่าว ภัทรพล คำสุข กันอย่างต่อเนื่อง และรอวันที่ทุกคนพูดถึงกันมานานเกิดขึ้นจริงหรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงมากกว่าเดิม
"คนไทยคนแรกที่ได้เล่นในเวทีพรีเมียร์ลีก"