:::     :::

"กว่าหมากจะสุก แรชก็ไหม้" การสุกงอมบนซากปรักหักพังของยูไนเต็ด

วันพุธที่ 04 กันยายน 2562 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
3,566
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้เราจะไม่เคยลืมว่าเจ้าเด็กสองคนนี้เพิ่งจะอายุ20ต้นๆทั้งคู่ยังไปได้อีกไกล แต่กว่าจะถึงเวลานั้น ยูไนเต็ดอาจจะไม่ได้เตะแม้กระทั่งยูโรป้าลีก

ผมเชื่อว่าแฟนบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจำนวนมากในขณะนี้คงจะมีความรู้สึกคล้ายๆกันกับผลงานปัจจุบันของทีมที่ย่ำแย่ ทั้งการแพ้คาบ้านแก่ทีมอ่อนชั้นกว่าอย่างคริสตัล พาเลซ การพลาดทำสองแต้มตกหล่นอีกสองนัดกับวูล์ฟที่อาจจะไม่เสียหายเท่าไหร่ แต่ก็ไป"หล่น"กับเซาท์แธมตันอีกทีม ทั้งๆที่ตัวผู้เล่นเหนือกว่าแต่ก็ไม่สามารถช่วงชิงประตูชัยมาได้ เท่ากับว่าตอนนี้แมนยูไนเต็ดทำคะแนนหายไป7แต้มเน็ทๆแล้วจากสามนัดล่าสุดในลีก   การที่ต้องแทบจะหมดลุ้นตั้งแต่นัดที่2-3ของฤดูกาล มันทำให้บรรยากาศการเชียร์ของแฟนแมนยูอึมครึมอย่างรวดเร็ว

ไม่เหลือแม้แต่เวลาให้ฝันในช่วงต้นซีซั่นเลย หลังจากการชนะเชลซีมาท่วมท้น4-0แค่เพียงนัดเดียว จากนั้นถูกกระชากกลับลงมาสู่ความเป็นจริงอย่างไว!

แฟนแมนยูช่วงนี้ก็อาจจะต้องอดทนกันเป็นพิเศษ และอย่าไปตอบโต้ความคิดเห็นยั่วยุจากแฟนทีมอื่น เราจะหงุดหงิด มีปัญหา ตั้งกระทู้บ่น ก่นด่า ติทีมอะไรกันยังไง ก็พูดคุยกันในพื้นที่ของเราเองด้วยเหตุและผล ส่วนใครที่มันคิดว่าแฟนแมนยูรุ่นใหม่มีปัญหารอคอยไม่ได้ อดทนไม่ได้ ก็ตอกย้อนกลับไปได้เลยว่า เรามีปัญหากันมา5-6ปีเต็มๆแล้ว  ไม่บ่นสิประหลาด และที่นั่งวิพากษ์วิจารณ์กันนี้ส่วนใหญ่ก็ดูบอลกันมานานแล้วทั้งนั้น บางทีอาจจะนานกว่าคนพูดเริ่มเชียร์บอลเสียด้วย

ก็เพราะเรารักทีมเรามานานแล้วไง เราถึงต้องบ่นทีมตัวเองกันเป็นพิเศษ เพราะมันไม่ได้ดั่งใจหวังนี่ล่ะ

ภาพจำยังช้าดดดดเจนนนน เหมือนเดิมทุกอย่าง

เราจะไม่พูดถึงปัญหาทั้งหมดส่วนอื่นๆว่ามันมีอะไรบ้างในวันนี้ เพราะแฟนผีรู้กันดีอยู่แล้ว และถกประเด็นกันบ่อยๆ แต่วันนี้คือเรื่องสำคัญมากอีกเรื่องที่จำเป็นต้องพูด นั่นก็คือปัญหาในเรื่องของ "เกมรุก" ของทีม ที่ต้องบอกว่า ย่ำแย่มานานหลายซีซั่นแล้ว เกมรุกนั้นขาดรูปแบบการเข้าทำ และวิธีการเล่นที่ชัดเจน ต่างกันกับทีมในระดับเดียวกันที่เริ่มพัฒนาแล้ว อย่างเชลซี หรือ อาร์เซนอลเอง ก็ยังดูมีทรงการเล่นมากกว่าเรา เช่น เน้นการครองบอล วิ่งจ่ายสั้นทำช่อง หรือแม้กระทั่งบอลไดเร็คเอง ทีมอื่นมีชัดเจนหมด และล้วนแล้วแต่มีประสิทธิภาพมาก การที่จะเอาประตูต่อหนึ่งเกมให้ได้อย่างต่ำๆ2ลูกไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขา

ทางด้านแมนยูไนเต็ดเอง ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะมีสิ่งที่เป็นรูปแบบชัดๆอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ การใช้ความเร็วเล่นสวนกลับ ซึ่งตอนนี้ทุกทีมก็รู้หมดแล้วว่า แมนยูไนเต็ดนั้นจะเล่นรูปแบบเช่นนี้ จึงได้ถูกเตรียมการป้องกัน และรับมือกับบอลเร็วใช้พื้นที่สวนกลับอยู่เป็นประจำ

หลายๆครั้งคู่ต่อสู้ลงไปแพ็คเกมรับแน่นมากๆอยู่หน้ากรอบเขตโทษตัวเอง และใครจะมาบอกว่า รับลึก อุด หรืออะไรก็แล้วแต่ เราไม่มีสิทธิ์ไปว่าทีมเหล่านั้น เพราะนี่ก็คือหนึ่งใน"วิธีการเล่น" ที่ใช้การได้จริงและมีประสิทธิภาพด้วย  เมื่อเป็นเช่นนี้ ยูไนเต็ดเจอเกมรับลึกในแดนตัวเอง  ทุกๆครั้งทีมเราจะมีปัญหาเสมอ นั่นก็คือ บุกแทบตายแต่เจาะเข้าไปทำประตูกันไม่ได้  ไม่มีประสิทธิภาพในการเล่น

แค่ป้องกันไม่ให้นักเตะเรามีพื้นที่เล่น ก็แทบจะ"ปิดผนึก"เกมรุกของเราหมดแล้วอย่างที่เห็น


เมื่อส่วนใหญ่ใช้วิธีแบบนี้กับเรา จึงเกิดปัญหาอย่างชัดเจน และเรื่องเดิมๆที่กลับมาหลอกหลอนก็คือ แมนยูไนเต็ดทำเกมบุกได้แย่มาก และส่วนใหญ่ก็จะยิงกันได้นัดละประตูเท่านั้น บางครั้งนำก่อน แต่ก็กลับไม่มีความเฉียบคมพอจะกดประตูที่สองฝัง  เล่นไปเล่นมาก็โดนยิงประตูตีเสมอทุกครั้ง จากนั้นเราก็ทำอะไรเขาไม่ได้ แถมยังจะเสียวแพ้อีก นี่คือปัญหาของแมนยูไนเต็ดในยุคปัจจุบันนี้ ที่ก็ไม่ต่างอะไรกับตอนมูรินโญ่คุม ที่ยิงประตูกันได้น้อยมาก และเกมบุกไม่มีพิษสงใดๆ

เรามีปัญหาเรื่องรูปแบบวิธีการบุกที่ไร้ประสิทธิภาพ และไม่มีวิธีการเล่นที่ชัดเจนในการบุกเจาะใส่คู่ต่อสู้ที่แพ็คเกมรับแน่นๆแบบนี้เป็นประจำ เราก็จะทำได้เพียงแค่เฉียดไปเฉียดมา ไม่ใกล้เคียง   บางครั้งโอกาสยิงดีๆยังไม่มีเลยเพราะว่า ขาดตัวรุกที่จะปั้นเกมบุกให้ไปสู่การยิงจังหวะสุดท้ายได้นั้น ไม่มีเลย  ก็อย่างที่หลายๆคนรู้ ตัวรุกเรานั้นแทบจะไม่มีจังหวะคีย์พาสให้เพื่อนเลย ได้แต่ป้ายไปป้ายมา แต่ไม่เสี่ยงเล่นเข้าพื้นที่สุดท้ายให้เรามีจังหวะจบ   ซึ่งเปรียบเทียบง่ายๆ ถ้าแอสซิสต์ คือการจ่ายให้เพื่อนได้ประตู  คีย์พาสมันก็คือ การจ่ายให้เพื่อนได้ยิง  นั่นแหละคือคีย์พาส (คนละอันกับคิลเลอร์พาสนะ)

จะไปไหน รับตะขาบจากตูไปซะ!!!

ซึ่งจากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้น นั่นคือปัญหาเกมรุกของแมนยูไนเต็ดที่เรามี  คือเกมการบุกที่ไร้ประสิทธิภาพ ไร้จินตนาการ ไม่มีรูปแบบที่ใช้งานและเจาะคู่ต่อสู้ได้ เพราะถ้าถูกปิดเกมสวนกลับ เราก็แทบจะไร้น้ำยาแล้ว  นี่คือเกมรุกของแมนยูไนเต็ด  แต่สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็น "ส่วนหนึ่งของปัญหาเกมรุกที่ไร้ประสิทธิภาพ" ของทีมเราแล้วนั้น ผมคิดว่ามันยังคงเป็นเพราะว่า "คุณภาพของนักเตะเกมรุกของเรามันยังไม่พอ" สำหรับการที่จะประสบความสำเร็จ หรือเอาชนะทีมอื่นเพื่อเก็บคะแนนไปเรื่อยๆได้

นักเตะเรายังไม่ดีเท่ากับแนวรุกของทีมอื่นนั่นเอง

แน่นอนว่า ตัวรุกสองคนที่ผมตัดทิ้งออกไปก่อน ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าใช้งานไม่ได้ นั่นก็คือ เจสซี่ ลินการ์ด และ อันเดรส เปเรร่า ที่รายหลังก็เห็นแล้วว่า เอาใจช่วยให้ได้ลงอยู่เป็นประจำ แต่ถึงเวลาจริงก็ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันอยู่ดีจนเอาโอกาสไปทิ้งเสียดื้อๆ ดังนั้นเราก็จะเหลือ เมสัน กรีนวู้ด ที่น่าจับลงไปยืนหน้าขวามากๆ / ฆวน มาต้า ที่น่าจะเหมาะกับการยืนกลางรุกให้เราแก้ขัดไปก่อน ยังไงก็ดีกว่าลินการ์ดเห็นๆทั้งเซนส์บอล และคุณภาพการเล่น ที่ขาดก็เพียงความเร็วที่จะวิ่งเพรสซิ่งเท่านั้น แต่นอกนั้นดีกว่าลินการ์ดหมด / โกเมส ที่ยังคงรอโอกาส และแฟนบอลก็อยากเห็นเขาได้ลงตัวจริง

แต่สองคนที่ผมจะโฟกัสเรื่องนี้ ในวันนี้ คือสองนักเตะตัวจริงหลักประจำการแนวรุกของเรา นั่นก็คือกองหน้าคู่ของเราอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล นั่นเอง


แน่นอนว่าผมเป็นติ่งตัวยงของเด็กสองคนนี้ และแฮปปี้มากๆที่จะปั้นให้เขาเติบโตและพัฒนาไปเป็นยอดกองหน้าในอนาคต ส่งใจเชียร์์มาตลอด และเชื่อว่าpotentialที่ซ่อนอยู่ของสองคนนี้มันมหาศาลพอที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะทรงคุณภาพได้ในอนาคตทั้งคู่  เพียงแต่ว่า กว่าที่จะไปถึงเวลานั้น  แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะเป็นยังไง และจะเหลืออะไรบ้าง

กว่าที่หมากกับแรชจะสุกงอม แมนยูไนเต็ดอาจจะตกลงไปอยู่อันดับ 7 ถึงอันดับ 9 แล้วก็ได้

นี่ไม่ใช่การพูดให้panic หรือดูโหดร้ายกว่าปกติ แต่นี่คือความเป็นจริงว่า หากเรายังมีฟอร์มระดับ แพ้พาเลซคาบ้าน เสมอกับวูล์ฟ เสมอกับทีมอย่างเซาท์แธมตันเช่นนี้  การแย่งพื้นที่บอลยุโรปนั้นจะยากหนักหนาสาหัสมาก  ลืมเรื่องการแย่งอันดับ1-4 ในท็อปโฟร์ไปได้เลย เพราะเอาจริงๆเล่นแบบนี้  อันดับ 5-6 ยัง"ยากส์" พูดตรงๆ เล่นแบบนี้มันจะตกไปเยอะกว่าอันดับที่ว่าเสียอีก

เรื่องคุณภาพของ มาร์กซิยาล และ แรชฟอร์ด ในปัจจุบันนี้นั้น ผมถือว่า ผ่าน ในระดับอายุเท่านี้ และสามารถพอที่จะใช้งานลงสนามได้ ข้อนี้ไม่เถียงเลย .. แต่ว่าถ้าหากแฟนบอลหวังผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ประหนึ่งอยากระเบิดเหมืองแร่ทองคำแล้วขุดสมบัติขึ้นมา แต่คุณยังใช้อุปกรณ์แค่จอบกับเสียมไปขุดภูเขาใหญ่ตรงหน้าให้มันทะลุ 

คำถามคือ ใช้แค่จอบเสียมเจาะภูเขา ชาติไหนเราถึงจะได้สมบัติ?


เปรียบเปรยเช่นกัน ให้เทียบว่า "สมบัติล้ำค่า" มันคือ "ฟอร์มการเล่นเจ๋งๆ" ที่เราอยากได้ ยกตัวอย่างเช่น เราอยากมีแนวรุกดีๆแบบซิตี้ หรือลิเวอร์พูล ที่ยิงกระจุยกระจายอย่างที่รู้กัน  หรืออยากมีแนวรุกที่เฟี้ยวฟ้าวแบบอาร์เซนอล  รึจะเป็นพลังทำลายอันมีประสิทธิภาพของสเปอร์ก็ตามที   เราอยากได้สมบัติที่ว่านั่น

แต่สิ่งที่เรามีคือ จอบ และ เสียม ที่มีชื่อว่า  มาร์กซิยาล และ แรชฟอร์ด  ที่ก็เหมือนกับอุปกรณ์คู่มือของเราที่ "มีขีดจำกัดของประสิทธิภาพในการใช้มัน"  เท่าที่มี   .. หมายความว่า หมาก กับ แรช มันก็เก่งได้เท่าที่มันจะเก่งอย่างในตอนนี้นั่นแหละ

ฟอร์มการเล่นที่เป็นประหนึ่งสมบัติที่ว่า  ทีมอื่นๆนั้นเขามีอุปกรณ์ที่ดี และโหดสัสๆอยู่มากมายในการจะได้มาซึ่งสมบัติ ไม่ว่าจะเป็นใช้รถเจาะ ใช้ระเบิด หรือเครื่องตัดทำลายหิน ระเบิดภูเขา เปรียบเปรยก็เหมือนทีมพวกนั้นที่มีนักเตะเจ๋งๆอยู่ในมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ราฮีม ซิลบา เดอบรอย(เหนอะ) ของซิตี้ / แฮรี่เคน ซอนเฮืองมิน ลูคัสมูร่า ในมือสเปอร์ / โอบาเมยอง ลากาแซตต์ เปเป้ ของอาร์เซนอล และ  ฟีมีร์โนแฟนน้องเบียร์ เฮียมาเน่ ซาลาห์ปลาเผา ของลิเวอร์พูล

คุณลองดูตัวรุกพวกนี้ของทีมอื่น แล้วมาเทียบกับ แรชฟอร์ด มาร์กซิยัลของเรา

เรียงจากซ้ายไปขวา : สว่านเจาะผาหิน / ระเบิดถล่มภูเขาจากเยอรมัน / ดาบอาถรรพ์ผ่าได้ทุกอย่าง โชได คิเทสึ

จะเห็นได้ว่า คุณภาพของ หมากแรชนั้น ถ้าเทียบกับทีมชั้นนำทีมอื่น  เด็กสองคนนี้อยู่ในระดับท้ายๆที่ยังไม่สามารถไปเทียบชั้นนักเตะเหล่านั้นได้ ที่มีคุณภาพการเล่นและความแน่นอนของฟอร์มที่เหนือกว่า ในขณะที่เด็กเรายังขาดๆเกินๆ เล่นฟอร์มดีบ้าง บางนัดก็หายไปเลย หรือยังมีช็อตประหลาดๆที่ปลิ้นๆไม่ควรเล่นอีกเพียบ

หมากแรช รั้งท้ายเลย สู้ตัวรุกทีมอื่นเหล่านั้นไม่ได้เลยอย่างเห็นได้ชัด

ว่าด้วยเรื่องของเรา ผมได้มีโอกาสอีกเช่นกันในการได้นั่งดูบอลทีมอื่นๆเล่น และแน่นอน นักเตะที่อยู่ในทีมใหญ่ทีมอื่นของยุโรป ก็ล้วนแล้วแต่มีศักยภาพที่สูงมากๆไม่ต่างกับพวกที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น  .. อาทิตย์ก่อน ผมได้นั่งดูเลวานดอฟสกี้ของทีมบาวาเรียมิวนิค(ฮา) เลวานกดแฮททริกให้ได้เห็น เหมือนปกติที่เขาทำได้ แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนมากๆจากการนั่งดูเขาก็คือ "คุณภาพของการเล่น"  จากนักเตะชั้นนำที่เป็นตัวจริงให้กับทีมใหญ่ๆของยุโรปนั้น มันควรจะได้มาตรฐานเช่นนี้

เลวานมีการรุกที่ยอดเยี่ยม มีประสิทธิภาพที่หวังผลได้  และคมกริบทุกจังหวะที่เข้าทำ  เรียกง่ายๆว่า ประสิทธิภาพสูงและแน่นอนมากๆ  กองหน้าชั้นนำควรจะทำได้เช่นนี้แหละ ไม่ต่างอะไรกับพวกในพรีเมียร์อย่างระดับ เคน  โอบา ราฮีม มาเน่  พวกนี้มีการเล่นที่แน่นอน พึ่งพาได้ และ"ชัวร์"มากๆในเกมรุก

มอง"เลวาน" แล้วหันกลับมาดูนักเตะที่ต้อง "เลหลัง" ของทีมเราแล้วละเหี่ยใจ

อยากได้เหรอ เอาเงินมาซื้อสิ แล้วข้าจะยกประตูทั้งหมดของข้าที่เก็บไว้ให้กับพวกเจ้า แฟนบอลแมนยูไนเต็ด

เคสนี้แสดงให้เห็นถึงความต่างได้อย่างชัดเจนว่า หมาก กับ แรช  คุณภาพยังไปไม่ได้ใกล้เคียงกับเลเวลของนักเตะพวกนี้เลย ดังนั้นในเมื่อแมนยูไนเต็ดมีนักเตะแบบนี้เล่นเป็นตัวรุกหลัก ก็เหมือนกับการจะขุดสมบัติ โดยที่มีเพียงแค่จอบกับเสียมจะเอาไปเจาะภูเขานั่นแหละ   แฟนแมนยูจะหวังผลอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้ยังไงในเมื่อเด็กสองคนของเรามันยังไปไม่ถึงจุดนั้น ..ที่เขียนเช่นนี้ไม่ใช่หมดหวังหรือไม่เชื่อใจในตัวสองคนนี้นะ ก็อย่างที่บอก พวกมันแค่ 23 กับ 21 เท่านั้นเอง ยังพัฒนาได้อีกไกล

เพียงแต่ว่า กว่าจะอัพเกรดขึ้นมาได้ แฟนผีต้องเชียร์บอลสภาพนี้กันไปอีกกี่ปีถึงจะพอ?

สิ่งที่ผมคิด นั่นก็คือ ทั้งหมากและแรช นั้นยังไม่สุกงอมอย่างเต็มที่  และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ควรจะทุ่มซื้อหา "ตัวรุกระดับพระกาฬ" เข้ามาสู่ทีมเพื่อยืนเป็นตัวหลัก และเป็นความหวังในเกมรุกของเราบ้างอย่างน้อยๆอีกสักหนึ่งตัวที่มายึดตำแหน่งตัวจริงกองหน้าเลย 1คนอย่างต่ำ (ยังไม่รวม กลางรุก กับ ปีกขวาอีกนะที่ก็ต้องซื้อตัวเด็ดๆเข้ามา)

เราเห็นกันแล้วว่า การได้ บิสซาก้า กับ แมกไกวร์ เข้ามาพร้อมกันในแนวหลัง ซึ่งเป็นนักเตะระดับท็อปทั้งคู่  พอเข้ามาแล้วการเปลี่ยนแปลงมันเห็นได้อย่างชัดเจนจากการเล่น  ซึ่งก็เช่นเดียวกัน เราควรจะทำแบบนั้นกับแนวรุกเหมือนกัน

อยากให้มองย้อนกลับไปตอนปีแรกของมูรินโญ่ที่มาที่นี่ และเราประสบความสำเร็จกันอย่างมาก คว้าแชมป์ถ้วยใหญ่อย่างยูโรป้าลีกมาได้สำเร็จ ซึ่งถ้าจำกันได้  ตอนนั้นเรามีนักเตะตัวหลักในแดนหน้าอยู่คนนึงที่เป็นตัวยืน คอยเป็นความหวัง และประคองทีมอยู่  นั่นก็คือ "ซลาตัน อิบราฮิโมวิช" ยืนอยู่ในแดนหน้า และคอยทำประตูให้กับทีมเราเบียดเอาชนะได้อยู่เป็นประจำ

เห็นชัดเจนว่า เรามีลูกพี่ในแดนหน้าอยู่ ผลงานทีมถึงได้สุดยอดและเอาชนะคู่แข่งได้เป็นประจำในปีนั้น

แมนยูไนเต็ดจำเป็นจะต้องหาตัวรุกหลักเก่งๆแบบนั้นเข้ามาเล่นเป็นหลัก แทนที่แรช กับ หมาก โดยให้สองคนนี้เป็นตัวรุกที่คอยสนับสนุน และสอดสลับขึ้นมาช่วยกันบุกยิงประตูแทน
แต่ทุกวันนี้คือ เราใช้สองคนนี้เป็นตัวความหวังหลักในแดนหน้า ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า "ศักยภาพ ณ ตอนนี้ของ หมาก กับ แรช ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เราได้รับผลการแข่งขันที่ดีได้อย่างที่แฟนบอลต้องการ ดังนั้นเราจึงต้องซื้อนักเตะตัวรุกเก่งมากๆเข้ามาอีกตัวหนึ่งเพื่อเป็นตัวยืนหลักให้กับเกมรุกของทีม"

นั่นแหละถึงจะเป็นวิธีแก้ปัญหาเรื่องเกมรุกของเราได้

ซึ่งก็ต้องบอกว่า มันยากถึงยากที่สุด เพราะว่า
1.โซลชาตั้งใจจะปั้นทีมเด็กแน่ๆแล้ว ไม่มีทางที่จะซื้อนักเตะเก่งๆที่มีอายุ แต่ไม่เข้าแก๊ปที่แกอยากได้มาร่วมทีมแน่ๆ แกจะปั้นเด็กใช้แบบนี้แหละ
2. บอร์ดไม่อนุมัติงบง่ายๆ (สึส)
3. นานเกินไปที่จะรอแก้ปัญหาเรื่องนี้ตอนตลาดเปิด  3.1) เอาง่ายๆ ช่วงตลาดหน้าหนาวปีใหม่ ถามจริงๆว่า ทีมไหนจะบ้าปล่อยกองหน้าตัวหลักเก่งๆของทีมมาให้เรา   3.2) ยังไม่ต้องไปพูดถึงซัมเมอร์ที่ว่า เตรียมตัวรอมหากาพย์ได้เลย หากปีศาจแดงอยากได้กองหน้าเก่งๆระดับโลกเข้าทีมมาจริงๆ  ดีลกันสามเดือนก็ไม่จบแน่

แฟนแมนยูไนเต็ด แชมป์ตัดต่อภาพนักเตะ 2019

ดังนั้นเรื่องการที่จะอิมพอร์ตกองหน้า ตัวรุกตัวใหม่ที่เก่งมากๆเข้ามายืนเป็นหลักแทนสองคนนี้นั้น คงจะต้องพับโครงการเก็บ และเลิกล้มความหวังไปก่อนล่วงหน้าเลย อย่างที่บอกไป  มกราคมใครเค้าจะบ้าปล่อยตัวดีๆให้เรา มันไม่มีแน่ๆ ไม่งั้นก็จะเสียเงินมหาศาลฟรีๆ กับนักเตะที่ต้องเสี่ยงดวงอีกว่าจะปังหรือแป้ก อย่างในเคส รอม กับ เล็ก ที่เราเข็ดไปจนตายนั่นล่ะ

วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก็คงจะต้องอาศัยการปรับแทคติก วิธีการเล่น และเอาตัวรอดไปเป็นเกมๆเพื่อที่จะหาสูตรที่สามารถใช้นักเตะที่พอจะมีในมือได้อย่างเต็มที่ และสามารถ "รีดเร้นศักยภาพอันสูงสุดของนักเตะตัวรุกที่มี"  ออกมาให้ได้มากกว่านี้ ซึ่งปัจจุบันผมว่า โอเล่ยังไม่สามารถดึงพลังแฝงของนักเตะเราออกมาได้มากมายเลย หลายคนน่าจะเก่งได้กว่านี้เยอะหากใช้งานถูกๆ ไม่ว่าจะเป็นป็อกบา มาต้า กรีนวู้ดก็ตามที อาจจะรวมถึงลินการ์ดเปเรร่าด้วยก็ได้  ข้อนี้จึงเป็นทางออกเดียวที่จะทำได้  หากว่าหมากแรช ยังไม่พร้อมยืนเป็นตัวหลักจริงๆ ก็คงต้องหาวิธีอื่นแก้ปัญหานี้ไป

ทั้งหมดนี้จึงเป็นภาพรวมของปัญหาเกมรุกแสนทื่อและการเข้าทำไม่เฉียบคมพอของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คือปัญหาเพียงแค่เรื่องหนึ่ง จากหลายๆเรื่องที่ต้องแก้ของแมนยู  ผมก็จะยืนยันคำเดิมตรงนี้ว่า "แมนยูจำเป็นต้องซื้อกองหน้าตัวรุกคนใหม่เข้ามายืนเป็นหลักให้กับเกมรุก เหมือนที่เราเคยมีซลาตันลงเล่นและประคองน้องๆไปด้วยกัน มันถึงจะดี แล้วใช้หมากแรช ในการเป็นตัวเสริม เพิ่มความอันตรายในแบบของตัวรุกรองคนที่2" แบบนี้จะดีที่สุด  และในระหว่างนี้ เราถึงจะสามารถรอคอยการปั้นหมากแรชได้ โดยที่เกมรุกของทีมก็ยังไปข้างหน้าได้ด้วย เพราะมีตัวความหวังคนอื่นที่คอยประคองทีมไปได้เรื่อยๆนั่นเอง  เวลาสองคนที่ว่านี้ฟอร์มหลุด ทีมจะได้ไม่เจ็บหนักมาก

เพราะหมากกับแรชในตอนนี้ ยังไม่สุกงอมพอที่เราจะเอาไปเทียบกับตัวรุกชั้นนำของทีมอื่นได้จริงๆ

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด