:::     :::

คุยกับ "เดอะตุ๊ก" : ควันหลงหลังช้างศึกถล่มอินโด

วันพุธที่ 11 กันยายน 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
15,136
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังจากนัดแรกทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอเวียดนาม 0-0 ชัยชนะ 3-0 เหนือ อินโดนีเซีย ที่เกโลร่า บุงกาโน่ ถือเป็นการคลายความกดดันของทั้งนักเตะช้างศึก, กุนซืออากิระ นิชิโนะ รวมถึงสมาคมฟุตบอลฯ ที่สามารถกอบกู้ศรัทธาแฟนบอลกลับมาได้ไม่มากก็น้อย มีหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมที่ผ่านมา ผมจึงขอนำบทสัมภาษณ์กับ "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานกองหน้าทีมชาติไทย มาถ่ายทอดความรู้สึกในมุมมองของคนในวงการลูกหนังไทย

แมน : สวัสดีครับพี่ตุ๊ก ได้ดูเกมที่ไทยชนะอินโด 3-0 ใช่มั้ยครับ

ปิยะพงษ์ : ได้ดูครับ ก็เป็นชัยชนะที่เหมือนกับผลตอบแทนความพยายามของทั้งนักเตะและทีมงานสตาฟฟ์ทุกคนครับ

แมน : สกอร์เหนือกว่าที่คาดไว้มั้ยครับ

ปิยะพงษ์ : เราคนไทยก็หวังชนะอยู่แล้วครับ แต่สกอร์ 3-0 ก็เหนือความคาดหมายอยู่เหมือนกัน อาจเพราะตอนแรกคิดว่าแฟนบอลอินโดเขาน่าจะเข้ามาเยอะ จะทำให้เกมมันยากกว่านี้ ถือเป็นโชคดีของเราที่แฟนอินโดมาน้อย ทำให้นักเตะเราไม่ต้องเจอความกดดันมากเท่าไหร่ แล้วตอนที่เราได้ลูกแรก นักเตะเรารีแล็กซ์กันมากขึ้น อินโดก็เริ่มเร่งจังหวะตัวเองแล้วเสียบอลง่ายจนเราโต้กลับได้เพิ่มอีก 2 ประตู

แมน : รู้สึกว่า นิชิโนะ เขาค่อนข้างมั่นใจและไว้ใจที่จะใช้นักเตะดาวรุ่งอายุน้อยลงสนามมากนะครับ นัดนี้ เอกนิษฐ์ ปัญญา ก็ได้ออกสตาร์ทตัวจริงและเป็นเกมแรกในทีมชาติของเขาด้วย หรืออย่าง พิธิวัต (สุขจิตธรรมกุล) ก็น่าจะกลายเป็นแกนหลักของชุดนี้ไปแล้ว เพราะทำผลงานได้ดีด้วย


ปิยะพงษ์ : เพราะโค้ชเขาเลือกผู้เล่นจากความเป็นจริงไง ทั้ง พิธิวัต หรือ เอกนิษฐ์ หรือ มานูเอล ทอม เบียรห์ ผลงานกับสโมสรในศึกโตโยต้า ไทยลีก เขาทำได้ดี โค้ชเขาไม่ได้เลือกจากความเชื่อ ถ้าเลือกจากความเชื่อก็คือเชื่อว่าน่าจะยังเล่นดีอยู่ แต่ในความเป็นจริงมันอาจไม่ได้เป็นแบบนั้น

แมน : สารัช (อยู่เย็น) ก็เล่นดีนะครับ ได้รับคำชมมากเลย

ปิยะพงษ์ : สารัชก็เรียกความมั่นใจกลับมาได้เยอะครับ เขาเป็นผู้เล่นที่ถนัดในเรื่องการเชื่อมเกม, ต่อบอล แล้วพอมีมิดฟิลด์พันธุ์ดุที่เล่นบ็อกซ์ทูบ็อกซ์อย่าง พิธิวัต เข้ามาช่วย ก็ยิ่งเล่นง่ายเลย เพราะเขาไม่ต้องไปห่วงข้างหลังมากเท่าไหร่

แมน : นิชิโนะปรับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 ซึ่งเป็นระบบถนัดของเขาตั้งแต่ตอนทำทีมชาติญี่ปุ่น แล้วรูปแบบก็ดีขึ้นเลย

ปิยะพงษ์ : ไม่เกี่ยวหรอกครับว่าเป็นแผนถนัดของนิชิโนะ หรือเปล่า มันต้องเป็นแผนที่นักเตะไทยเราถนัดด้วยถึงจะเวิร์ค ซึ่งการเลือกใช้งานนักเตะกับระบบนี้ของไทยเราก็ดูโอเคลงตัวดี นี่ยิ่งถ้าได้ ธีรศิลป์ แดงดา กลับมาจะยิ่งเพอร์เฟ็คเข้าไปใหญ่

แมน : นัดหน้าเจอ ยูเออี อาจจะเรียกกลับมาก็ได้นะครับ เพราะเห็นว่าหายเจ็บแล้ว

ปิยะพงษ์ : ควรเรียกมาเลย เพราะจังหวะเก็บบอล พักบอล รวมถึงเข้าฮอร์ส ธีรศิลป์ เขาเป็นกองหน้าที่มีคลาสอยู่แล้ว จะเข้ามาช่วยการเล่นของไทยได้เยอะแน่

แมน : ศุภชัย (ใจเด็ด) ก็เล่นได้ดีเลยนะครับ จังหวะเก็บบอล เชื่อมเกม โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลัง


ปิยะพงษ์ : ศุภชัย ก็เก็บบอลได้ดี แต่อยากให้เพิ่มเรื่องสปีดขึ้นมาหน่อย ดูเขายังวิ่งเอื่อยๆ ไปนิด ถ้าเพิ่มสปีดขึ้นมาได้ก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก

แมน : พี่ตุ๊กประทับใจนักเตะไทยคนไหนเป็นพิเศษมั้ยครับในเกมนี้

ปิยะพงษ์ : พี่ประทับใจทั้งทีมนะ ทั้ง ศิวรักษ์ ผู้รักษาประตูก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม (นัดแรก เวียดนามยิงเข้ากรอบ 4 ครั้ง เซฟทั้ง 4 ครั้ง, นัดเจออินโด เข้ากรอบ 3 ครั้ง  เซฟ 3 ครั้ง) กองหลังก็ถือว่าโอเค ธีราทร เล่นได้ตามมาตรฐานอยู่แล้ว คู่เซนเตอร์ ทอม เบียรห์ กับ พรรษา ก็ใช้ได้แต่อาจจะต้องเล่นด้วยกันให้คุ้นเคยกว่านี้อีกหน่อย, แบ็กขวา ทริสต็อง โด ในจังหวะเติมก็ใช้ได้แต่ลูกเปิดยังไม่ค่อยได้เปรียบ, กลางคู่ พิธิวัต กับ สารัช ก็ดี ชนาธิป ก็อาจจะไม่ได้โดดเด่นอย่างที่คาดไว้แต่เขาก็ประสานงานกับน้องๆ ในแนวรุกและช่วยดึงความสนใจจากตัวประกบได้, เอกนิษฐ์ ก็อาจจะเพราะเป็นเกมแรกก็ยังดูประหม่าอยู่บ้าง 

แมน : เกมแรกสำหรับเด็กอายุ 19 ปีก็ถือว่าใช้ได้นะครับ มีส่วนร่วมกับประตูที่ทำได้ด้วย

ปิยะพงษ์ : แน่นอนครับ ไม่ว่าจะ เอกนิษฐ์, สุภโชค หรือ ศุภชัย นักเตะเหล่านี้มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวง แต่ยังขาดประสบการณ์ ต้องชื่นชมนิชิโนะที่เขาให้โอกาส เพราะนักเตะเหล่านี้นี่แหละที่จะเป็นอนาคตให้กับทีมชาติไทย ยิ่งถ้า นิชิโนะ อยู่ไปยาวๆ ยิ่งนานเท่าไหร่ พี่ก็เชื่อว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับนักเตะไทยของเราได้อีกเยอะ


แมน : เท่าที่ติดตาม การบริหารจัดการภายในทีมของ นิชิโนะ ดีเลยนะครับ ในการประสานงานกับทุกๆ ฝ่าย

ปิยะพงษ์ : ใช่เพราะ นิชิโนะ ถึงจะมาในสไตล์ปลาดิบ แต่เขาก็พยายามปรับตัว เขาสามารถปรับเป็นสไตล์ปลาดิบใส่ผงชูรสก็อร่อยกันไปใหญ่ หรือจะลองปรับมาเป็นปลาดิบผสมปลาแดกก็ยังได้

แมน : เห็นที่เขาให้สัมภาษณ์ บอกว่า เจ ชนาธิป เรียกรุ่นน้องอย่าง เอกนิษฐ์, สุภโชค, ศุภชัย ไปคุยนัดแนะกันว่าจะเล่นด้วยกันยังไง

ปิยะพงษ์ : เป็นธรรมดาครับ ในทีมก็ต้องมีคุยกันอยู่แล้ว ด้วยความที่ ชนาธิป เขาก็ถือเป็นรุ่นพี่ระดับพี่รองของทีมชาติแล้ว บวกกับประสบการณ์ในการ ไปค้าแข้งเจลีก ก็ย่อมได้รับการยอมรับนับถือจากคนอื่นๆ ในทีม ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีครับ ทำให้บรรยากาศในทีมมีความเป็นกันเองเข้าหากันปรึกษากันได้ง่ายขึ้น

แมน : แล้วนิชิโนะ เขาก็ยังส่ง โค้ชหระ (อิสระ ศรีทะโร) ไปนั่งดูเกม มาเลเซีย เจอ อินโดนีเซีย นัดก่อนยังส่งโค้ชแบน (ธชตวัน ศรีปาน) ไปดู มาเลเซีย เจอ ยูเออี อีก ดูทำงานเป็นระบบขึ้นมาก แต่ก่อนมันมีแบบนี้มั้ยครับ


ปิยะพงษ์ : การเก็บข้อมูลของคู่แข่ง มันควรจะมีอยู่แล้ว ในการส่งทีมงานไปสเกาท์คู่แข่ง ก่อนหน้านี้เราอาจจะขี้เหนียวเกินไปหน่อย ก็เลยไม่ได้ทำ

แมน : อยากให้พี่ตุ๊กพูดถึง สุภโชค หน่อย นัดแรกมีคนวิจารณ์เยอะเรื่องที่เลือกยิงไม่เลือกส่ง แล้วก็มาพิสูจน์ตัวเองได้ในเกมต่อมา

ปิยะพงษ์ : สุภโชค  เป็นนักเตะที่มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวง  การที่เขากล้าตัดสินใจยิงในพื้นที่สุดท้าย นั่นคือหน้าที่ของนักเตะในแนวรุกอยู่แล้ว หากคุณไปถึงพื้นที่สุดท้ายแล้วไม่กล้ายิง มัวแต่ล็อกมัวแต่จ่ายให้คนอื่น แบบนั้นสิถึงจะน่าด่า โค้ชทั่วโลกเขาปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กๆ ว่าถ้าไปถึงพื้นที่สุดท้ายแล้วต้องกล้ายิง ซึ่งผมก็มองว่า สุภโชค เขามีความมุ่งมั่นและความกล้าที่จะจบสกอร์เอง นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว


แมน : มีข่าวว่า เอกนิษฐ์ ปัญญา ได้รับความสนใจจาก คอนซาโดเล ซัปโปโร อาจจะได้ไปเล่นแทน ชนาธิป ที่มีข่าวกับทีมในยุโรป ซึ่ง เอกนิษฐ์ เองก็เคยมีข่าวกับทีมในสเปนด้วย พี่ตุ๊กคิดว่าถ้าน้องมีโอกาสควรเลือกไปญี่ปุ่นหรือยุโรปก่อนครับ

ปิยะพงษ์ : ไปญี่ปุ่นก่อนสิ ไปเรียนรู้ความเป็นมืออาชีพการปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างก่อน มันต้องก้าวทีละขั้น อยู่ญี่ปุ่นสัก 2-3 ปีแล้วค่อยไปยุโรป ชนาธิปก็เหมือนกันตอนนี้เขาควรไปยุโรปให้เร็วที่สุดได้แล้ว ในวัย 25-26 นี่แหละ เพราะถ้าไปรอจนอายุเกือบ 30 มันจะช้าเกินไป สปีดความเร็วที่เป็นจุดเด่นมันอาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้ สเต็ปของชนาธิปคือไปยุโรปซัก2-3ปี กลับมาเล่นญี่ปุ่นอีกซัก 2 ปี แล้วค่อยกลับมาแขวนสตั๊ดที่ไทย แบบนี้สวยจะตาย


แมน : แล้วก็ทำงานเป็นโค้ชต่อเลย

ปิยะพงษ์ : ได้อยู่แล้ว เพราะประสบการณ์ตอนนั้นก็ถือว่าล้นเหลือแล้ว อยากทำอะไรก็ทำได้

แมน : พี่ตุ๊กคิดว่าตอนนี้ทีมชาติไทยกำลังมาถูกทางแล้วใช่มั้ยครับ

ปิยะพงษ์ : แน่นอน การที่ได้โค้ชที่มีทั้งฝีมือและประสบการณ์อย่างนิชิโนะ เข้ามา ผมอยากให้แฟนบอลใจเย็นๆ คือการด่าของแฟนบอลมันเป็นเรื่องปกติ มันต้องเจออยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูด้วยว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ มันมีทิศทางที่ดี มันมีแนวโน้มที่ดี ก็ต้องให้การสนับสนุนกันต่อไป


แมน : ผมยังห่วงอีกเรื่องคือชุดยู-22 ที่เราไม่ได้มีแมตช์อุ่นเครื่องเลย ในขณะที่ชาติอื่นๆ เขาอุ่นเครื่องกัน แล้วเดือนพ.ย.นี้ ซีเกมส์จะเตะแล้ว ม.ค. นี้ก็จะคัดโอลิมปิกแล้ว แต่การเตรียมทีมของเรายังเงียบสนิท

ปิยะพงษ์ : นี่คือสิ่งที่สมาคมต้องวางแผนเตรียมงานแล้ว ชุดยู-22ก็สำคัญมากเพราะเรามีทัวร์นาเม้นต์สำคัญรออยู่ ส่วนตัวผมคิดเองนะว่าน่าจะให้แบน (ธชตวัน ศรีปาน) มาคุมยู22 ในช่วงซีเกมส์ เพราะมันคาบเกี่ยวกับบอลโลก พอถึงคัดโอลิมปิก นิชิโนะก็ค่อยลงมากำกับเอง ผมว่าถึงเวลาของแบนแล้วล่ะ แล้วที่สำคัญนะคือโค้ชกับผู้ช่วยต้องทำงานสัมพันธ์กัน ไม่ใช่นิชิโนะเล่นระบบนี้แล้วผู้ช่วยไปคุมทีมอีกระบบ แบบนั้นไปด้วยกันไม่ได้แน่ๆ

แมน : โปรเจ็คพัฒนากองหน้าของพี่ตุ๊กที่นำเสนอสมาคมไปถึงขั้นตอนไหนแล้วครับ

ปิยะพงษ์ : ผมเขียนแผนส่งให้ทางสมาคมไปแล้วครับทั้งระยะสั้น, ระยะกลาง และระยะยาว ก็อยู่ที่สมาคมว่าจะเลือกนำมาปฏิบัติในส่วนไหนก่อนหลัง

แมน : ประชุมกับสมาคมอีกทีเมื่อไหร่นะครับ

ปิยะพงษ์ : 2 ต.ค. นี้ครับ

แมน : โอเคครับขอบคุณมากครับพี่ตุ๊ก ที่สละเวลามาพูดคุยครับ

ปิยะพงษ์ : ยินดีครับๆ

ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด