หลายคนอาจไม่รู้มากนักว่า เส้นทางชีวิตของ นิโกล่าส์ เปเป้ เป็นมาอย่างไร ทำไมในวันนี้เขาถึงกลายเป็นนักเตะอาร์เซน่อลที่ค่าตัวแพงสุด 72 ล้านปอนด์
นิโกล่าส์ เปเป้ เปิดใจเล่าทุกเรื่องด้วยตัวเอง
"ครอบครัวเสียสละในทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ผมได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ และที่ผมบอกว่า 'ทุกสิ่งทุกอย่าง' ผมก็หมายความในแบบนั้นจริงๆ"
"ครอบครัวผมย้ายจากไอวอรี่ โคสต์มาฝรั่งเศสในปี 1995 และผมก็ได้รับการบอกอยู่เสมอว่ามันยากลำบากเพียงใดในตอนนั้นโดยเฉพาะช่วงที่ผมเข้าโรงเรียน พ่อกับแม่ผมเล่าให้ฟังถึงช่วงที่เคยมีทุกอย่างเช่นเดียวกับวันที่ไม่มีอะไรเลย"
"พวกเขาเล่าให้ฟังว่าต้องเดินทางด้วยเท้าเป็น 10 กิโมเมตร และเราก็โชคดีแล้วที่มีรถบัสรับส่งไปโรงเรียน ตอนที่ผมเติบโตขึ้น พ่อและแม่ต้องหยุดทำงานเพื่อมาใช้ชีวิตร่วมกับผมให้เต็มที่เพื่อให้ความฝันในการนักฟุตบอลของผมกลายเป็นจริง"
"ท่านทั้งสองอยู่กับผมทั้งในช่วงเวลาที่ยากลำบากและช่วงที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับในปัจจุบัน นั่นคือสิ่งที่พวกท่านทำจนถึงทุกวันนี้ พ่อกับแม่ช่วยให้ผมทำฝันของผมเป็นจริงและพร้อมจะอยู่เคียงข้างไปตลอด"
"ในช่วงเริ่มต้นการเล่นฟุตบอล ผมเคยเล่นเป็นผู้รักษาประตูมาก่อน ตอนที่เป็นผู้รักษาประตู ผมจำได้ว่าเราเคยชนะ 6-0 หรือ 7-0 และผมก็ถามว่าขอเปลี่ยนตำแหน่งได้มั้ยเพื่อจะได้เล่นในสนาม ผมเบื่อที่ต้องเฝ้าประตู จากนั้นผมก็เปลี่ยนตำแหน่ง แถมยิงประตูได้ด้วย"
ดร็อกบา ต้นแบบของ เปเป้ ทั้งการเล่นและลีลาดีใจ
"การเล่นเป็นผู้รักษาประตูในตอนนั้นช่วยผมได้อย่างมาก ผมรู้จังหวะการเคลื่อนที่ไปหาบอลของผู้เล่นตำแหน่งนี้ นั่นหมายความว่าผมมีวิธีที่แตกต่างเพื่อประเมินการยืนตำแหน่งผู้รักษาประตูซึ่งต่างจากคนอื่นที่ไม่เข้าใจนักว่าพวกเขามีการขยับตัวอย่างไร ผมรู้ดีถึงสิ่งที่ผู้รักษาประตูคิดและเคลื่อนที่ตามตำแหน่งของลูกบอล"
"ตอนเด็กมากๆ ผมก็รักการเล่นเป็นผู้รักษาประตูนะ แต่พออายุ 13 ขวบ ผมก็เปลี่ยนไปเล่นตำแหน่งเอาต์ฟิลด์ นั่นคือช่วงที่ผมเริ่มเลียนแบบ (ดีดิเย่ร์) ดร็อกบา รวมไปถึงท่าดีใจของเขา เขาเริ่มเล่นกับ มาร์กเซย และผมก็เคยไปดูเขาเล่น เวลาเขาไปเล่นให้ไอวอรี่ โคสต์ และแสดงความดีใจท่า "coupé-décalé?" เราอยากทำแบบนั้นกับเพื่อนบ่อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยลืมเลย"
"หลังอยู่กับปัวติเย่ร์ช่วงหนึ่ง ผมก็เริ่มต้นอาชีพกับ อองเช่ร์ ผมจดจำได้ดีถึงการเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรก ผมถูกส่งไปเล่นในระดับนาซิยงนาล หรือ ดิวิชั่น 3 ด้วยสัญญายืมตัวที่ ออร์กเลอ็องส์ ซึ่งอยู่ในลีกที่ต่ำกว่าที่ผมต้องการอย่างมาก"
"มันยากนะเพราะผมเพิ่งเซ็นสัญญาอาชีพกับทีมในลีก เอิง แต่ในทันทีทันใด ผมจำเป็นต้องไปเล่นในลีกล่างเพื่อพัฒนาการเล่นของตัวเองก่อนกลับมาด้วยความแข็งแกร่งมากขึ้น มีเพียงช่วง 2 เดือนแรกที่ยาก นั่นแหละ"
"ตอนเล่นให้อองเช่ร์ ผมไม่ได้ประจำทางกราบขวาตลอดและก็ได้เรียนรู้อย่างมาก ในวันที่ผมเดินทางไปถึงสนามซ้อมช่วงเริ่มต้นปรีซีซั่น ผมไว้ผมทรงโมฮอว์ก โค้ชสั่งให้ผมไปตัดทิ้งซะ ผมไม่ได้ตัดในทันทีหรอกนะ ผมไว้เหมือนเดิม ทว่ายิ่งผมของผมยาวกว่าขึ้น ผมก็ยิ่งได้ซ้อมน้อยลง สุดท้ายก็เลยต้องไปตัดทิ้ง"
ทรงผมสมัยเล่นให้อองเช่ร์เฟี้ยวฟ้าวไม่เบา
"ในช่วงแรกของอาชีพ ผมมีคนใกล้ชิดมากมายทั้งเอเยนต์ของ และโค้ช อับเดล บูฮาซาม่า ที่เข้มงวดกับผม มีหลายสิ่งผิดพลาดที่บทเรียนและช่วยให้ผมไม่ก่อความผิดพลาดแบบเดิมเกิดขึ้นอีก
"ในตอนนั้นผมยังอ่อนต่อโลก และแสดงมันออกมาในสนามเป็นส่วนใหญ่ มีหลายครั้งที่ผมรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ยกตัวอย่าง ผมจำได้ถึงตอนเล่นให้ทีมยู-19 ที่พบ แก็งก็อง วันนั้น บูฮาซาม่า ตะโกนมาที่ผม"
"ผมตอบโต้เขากลับไป เขาจึงเปลี่ยนผมออกทันที และเราก็แพ้ในวันนั้น เขาบอกผมว่าเปลี่ยนเพราะเหตุการณ์นั้นเลย นั่นคือสิ่งที่ผมทำซึ่งผมอยากขอโทษต่อเพื่อนร่วมทีมที่ผมทำให้ต้องลำบาก ผมได้เรียนรู้มากมายในช่วงเวลานั้น และทำให้รู้ว่าต้องเป็นมืออาชีพมากกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก
"บูฮาซาม่า มีอิทธิพลในการซ้อมของผมอย่างมาก เขาคือโค้ชที่สำคัญต่อผมสุดๆ ไม่เพียงแค่เรื่องฟุตบอล แต่รวมถึงการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เขาสอนพวกเรามากมาย สอนผมและเด็กๆ ในศูนย์ฝึก เขาพร่ำสอนพวกเราเพราะอย่างที่เขาเคยบอก ชีวิตมีอะไรมากกว่าฟุตบอล - นั่นคือมีชีวิตด้วย"
"หากว่าคุณไม่มีฟุตบอล คุณก็ต้องทำงานอย่างหนักในชีวิต ยกตัวอย่างเช่น เขาจะสั่งให้เราลุกขึ้นวิ่งตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อให้เห็นว่าแท้จริงแล้วในชีวิตแต่ละวันเป็นอย่างไร ในขณะที่เราซ้อมอยู่ในสนาม เราก็เห็นคนเก็บขยะมาเก็บขณะในตอน 6 โมงเช้า"
"เขาต้องการสื่อให้เห็นว่าเราโชคดีแค่ไหนที่ได้เล่นฟุตบอล ดังนั้นเราจึงต้องพยายามอย่างถึงที่สุด นี่คือสิ่งที่เราเริ่มเข้าใจ เราก็เคยมองเป็นเรื่องขำขันอยู่บ้างนะเพราะเราก็เห็นแบบนี้อยู่ทุกวัน แต่ตอนนั้นก็ทำให้เราเอาจริงเอาจังกับการซ้อมของตัวเอง การเป็นนักฟุตบอลเป็นอาชีพทำมาหากินได้จริงๆ นี่คือสิ่งที่เขาพยายามสอนเราอย่างมาก"
พร้อมเล่นงานกองหลังในพรีเมียร์ลีกแล้ว
"คุณคงเห็นแล้วว่ามันไม่ง่ายสำหรับผม และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงซาบซึ้งใจอย่างมากที่ได้ย้ายมาที่นี่ (อาร์เซน่อล) ผมเดินทางมาไกลและต่อสู้มามากมาย การได้เห็นสัญญากับสโมสรที่ยิ่งใหญ่นี้คือรางวัลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่"
"ครอบครับของผม เอเยนต์ของผม และตัวผมพูดคุยกันอย่างมากระหว่างศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ มันสำคัญสำหรับผมที่ต้องตัดสินใจให้ถูกต้องในก้าวเดินต่อไปของชีวิต และผมก็เชื่อว่าอาร์เซน่อลคือตัวเลือกที่ใช่"
"เมื่อผมนึกถึงสโมสรนี้ ผมก็นึกถึงนักเตะฝรั่งเศสอย่าง เธียร์รี่ อองรี, ปาทริค วิเอร่า และ โรแบร์ ปิแรส และผมก็นึกถึงแชมป์โลกอย่าง เมซุต โอซิล นึกถึง อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง และอีกหลายต่อหลายคน"
"โอบา กับ ลากา แว่บขึ้นมาในหัวเพราะผมเคยดูพวกเขาเล่นตอนที่ผมอยู่ลีลล์ ลากา เคยเล่นให้กับ ลียง ผมก็เลยได้ดวลกับเขามาแล้ว และตอนนี้ก็นับเป็นเกียรติที่ได้เล่นเคียงข้างกับกัน"
"ผมยังนึกถึงนักเตะไอวอรี่ โคสต์ ที่เคยเล่นให้สโมสรก่อนหน้าผม ผมได้เดินตามรอย โคโล่ ตูเร่, มานู เอบูเอ้ และ แชร์วินโญ่ พวกเขาเป็นนักเตะคนสำคัญจากไอวอรี่ โคสต์ ยกตัวอย่าง เราพูดถึง แชร์วินโญ่ บ่อยมากเพราะเขาเคยเล่นให้ ลีลล์ แล้วได้ย้ายมา อาร์เซน่อล ดังนั้นผมจึงอยู่บนเส้นเดียวกับเขา ทั้งหมดคือตัวอย่างสำหรับนักเตะดาวรุ่งไอวอรี่ โคสต์ และผมก็หวังว่าเราจะสามารถเดินตามรอยเหล่านี้ได้"
"โคโล่ อยู่ในทีมชาติกับเราในฐานะผู้ช่วยโค้ช เขาคุยกับผมเยอะมากเกี่ยวกับการเล่นระดับสูง เล่าว่าตัวเขาได้ย้ายมาอาร์เซน่อลอ่ยางไร เล่าถึงการทำงานให้หนักอยู่เสมอ ทุ่มเทในแต่ละวันเพื่อพยายามไปให้ถึงระดับสูงสุดให้ได้"
"ผมเคยทำผิดพลาด แต่ผมได้เรียนรู้จากสิ่งที่ทำ ผมมาถึงตรงนี้ด้วยการทำงานหนักและทุ่มเท ผมพร้อมแล้วที่จะทำสิ่งนี้ที่อาร์เซน่อล"
นิโกล่าส์ เปเป้
