คุยกับ "เต้ พิธิวัต" : มิดฟิลด์ตัวรับ "ช้างศึก" เจเนอเรชั่นใหม่
แมน : สวัสดีครับเต้ พี่อยากขอรบกวนเวลาคุยกับเต้เขียนเป็นคอลัมน์หน่อยครับ ช่วงนี้มีแต่คนรีเควสต์พี่มาว่าอยากอ่านคอลัมน์เรื่องของเต้
พิธิวัต : อ๋อได้ครับพี่
แมน : ขอถามวิธีการอ่านนามสกุลของเต้หน่อยครับ อ่านว่า พิธิวัต สุก-จิด-ทำ-กุน หรือ สุก-จิด-ทำ-มะ-กุน จะได้อ่านไม่ผิดกัน
พิธิวัต : สุก-จิด-ทำ-มะ-กุน ครับ
แมน : โอเค ก่อนอื่นก็ขอแสดงความยินดีกับการได้ติดและลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่นะครับ
พิธิวัต : อ๋อ ขอบคุณมากครับ
แมน : รู้สึกยังไงบ้างก่อนและหลัง เอาตั้งแต่ตอนที่มีชื่อติด และหลังจากที่ได้ลงเล่นแล้ว ความรู้สึกแตกต่างกันแค่ไหน
พิธิวัต : จริงๆ ก็ตื่นเต้นมาตั้งแต่มีชื่อติด 23 คนแล้วครับ ยิ่งพอได้ลงเล่นด้วยก็ดีใจมากพี่ ที่โค้ชไว้วางใจให้เราได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเลย
แมน : ดูนิชิโนะจะไว้วางใจให้นักเตะที่อายุน้อย หรือไม่เคยติดทีมชาติได้ลงสนาม อย่างมากเลยนะ อย่าง เต้ หรือ บุ๊ค (เอกนิษฐ์ ปัญญา) ก็เพิ่งประเดิมนัดแรกในคัดบอลโลกหนนี้เลย
พิธิวัต : ใช่ครับ โค้ชเขาน่าจะดูจากการซ้อมในช่วงเก็บตัวว่าจะใช้ใครเล่นในระบบที่เขาวางไว้ครับ
แมน : เต้ได้รู้ล่วงหน้ามาก่อนมั้ย ซักกี่วัน ว่าจะได้เป็นตัวจริงในเกมกับเวียดนาม และ อินโดนีเซีย
พิธิวัต : ไม่รู้มาก่อนเลยพี่ มารู้ก็คือก่อนวันแข่ง ที่โค้ชเขาวางตัว พวกนักเตะไม่น่ามีใครรู้ เพราะโค้ชเขาอยากให้ทุกคนพยายามแข่งขันกันให้เต็มที่
แมน : แล้วพอรู้ว่าจะได้ลงตัวจริง ได้บอกญาติพี่น้อง หรือเพื่อนๆ รึเปล่าครับ
พิธิวัต : ไม่ได้บอกครับ เพราะโค้ชเขาอยากให้เป็นเรื่องภายในทีมมากกว่า ถ้าบอกใครไปข้อมูลอาจจะหลุดไปถึงคนภายนอกได้
แมน : ที่บ้านได้ฉลองให้เต้มั้ยครับ หลังจากติดทีมชาติครั้งนี้
พิธิวัต : ไม่ได้ถึงกับฉลองอะไรขนาดนั้นครับ ก็มีโทรคุยกับพ่อแม่ ญาติๆ ก็ดีใจ ส่วนเพื่อนๆ ก็ส่งข้อความมาแซว มาแสดงความยินดีครับ
แมน : บรรยากาศในการเก็บตัวทีมชาติเป็นยังไงบ้าง พี่เคยได้ยินมาว่าแต่ก่อน นักเตะที่เป็นหน้าใหม่ๆ จะวางตัวไม่ค่อยถูก เหมือนยังมีช่องว่างระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องอยู่
พิธิวัต : แรกๆ ก็เกร็งๆ อยู่เหมือนกันครับ เพราะผมเคยดูทีวีเชียร์พี่ๆ เขาเล่นทีมชาติ แต่พอมาได้เริ่มซ้อมด้วยกันก็รีแล็กซ์ขึ้นเยอะ เพราะพวกรุ่นพี่เข้ามาพูดคุย หยอกล้อ และให้คำแนะนำทุกๆ คนเลย อย่างนัดแรกที่เจอเวียดนาม อาจจะยังเกร็งๆ กันอยู่ แต่นัดที่สองก็เริ่มเข้าขา รู้จังหวะกันมากขึ้น ทำให้ผลงานออกมาดีขึ้นครับ
แมน : พอใจกับผลงานของตัวเองใน 2 เกมแรกมั้ยครับ
พิธิวัต : พอใจในระดับนึงครับ แต่ยังต้องทำให้ดียิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก
แมน : คิดว่าเรื่องไหนที่ยังเป็นจุดด้อยของเต้อยู่บ้าง ที่อยากพัฒนาให้ดีกว่านี้
พิธิวัต : ผมว่าทุกๆ จุดเลยครับ ผมไม่ได้คิดเลยว่าตอนนี้เราเก่งแล้ว ผมยังต้องพัฒนาในทุกๆ ด้านครับ
แมน : เท่าที่ได้สัมผัสโค้ชหลายๆ คนมา อากิระ นิชิโนะ มีความแตกต่างจากคนอื่นๆ ยังไง
พิธิวัต : เขาเน้นเรื่องระเบียบวินัย และการสื่อสารภายในทีมครับ
แมน : การสื่อสารภายในทีมนี่คือ?
พิธิวัต : ระหว่างซ้อมโค้ชเขาอาจจะไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ถ้าจุดไหนไม่ตรงกับที่เขาต้องการเขาก็จะเรียกมาให้คำแนะนำ ส่วนนักเตะด้วยกัน โค้ชเขาก็บอกให้คุยกันเยอะๆ ครับ อย่างผมเองซึ่งเล่นกองกลางก็จะคอยปรึกษาและซักซ้อมความเข้าใจกันกับคนที่เล่นกองกลางด้วยกัน พวกรุ่นพี่อย่างพี่เจ (ชนาธิป สรงกระสินธุ์), พี่ตัง (สารัช อยู่เย็น) หรือ พี่อุ้ม (ธีราทร บุญมาทัน) ก็จะคอยให้คำแนะนำ เช่นพี่เจก็จะสอนผมว่าควรรับบอลยังไง พอรับได้แล้วให้จ่ายบอลแบบไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่โค้ชเขาอยากให้พวกเราสื่อสารกันเยอะๆ ครับ
แมน : ตรงนี้ก็น่าจะเป็นจุดที่แตกต่างจากสมัยของ มิโลวาน ราเยวัช นะ เพราะได้ยินมาว่าช่วงนั้นบรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด และต่างคนก็ต่างก้มหน้าก้มตาซ้อม
พิธิวัต : อาจจะเป็นอย่างนั้นครับพี่ แต่บรรยากาศที่ผมไปเจอไม่ตึงเครียดเลยครับ เพราะทุกๆ คนคอยช่วยเหลือกันดีมาก
แมน : ตอนเก็บตัวนี่ใครเป็นรูมเมทของเต้นะครับ
พิธิวัต : บุ๊ค (เอกนิษฐ์ ปัญญา) ครับ
แมน : อ๋อ ก็จากทีมเชียงรายด้วยกันเลย เอ้อ แล้วพี่จุ่น (อนุรักษ์ ศรีเกิด) แกแนะนำอะไรเต้มั้ยครับ เพราะเล่นตำแหน่งคล้ายๆ กันในสมัยที่แกเล่นทีมชาติ
พิธิวัต : พี่จุ่นก็แนะนำหลายเรื่องครับ อย่างเช่นการคอยดีเลย์เกมไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามได้บุกขึ้นมาถึงกองหลังเรา และพอได้บอลมาแล้วต้องทำยังไงต่อไป
แมน : นิชิโนะล่ะครับ กำหนดจ็อบให้ เต้ ยังไงบ้างในแต่ละเกม
พิธิวัต : ไม่ได้กำหนดอะไรเป็นพิเศษครับ เขาบอกให้ทุกๆ คนช่วยกันเล่น ให้ขยับเคลื่อนที่เพื่อต่อบอลกันเป็นกลุ่ม และทุกๆ คนสามารถมีส่วนร่วมในการทำประตูได้ อย่างเกมที่แล้วพี่โย่ง (พรรษา เหมวิบูลย์) ก็เกือบยิงได้เลยครับ
แมน : อ๋อ เหมือนที่นิชิโนะให้สัมภาษณ์หลังเกมกับเวียดนามเนอะ ที่เขาอยากให้ทุกๆ คนมีส่วนร่วมทำประตู แล้วเต้เองไม่ลองส่องไกลบ้างหรอ เหมือนกับว่าบทบาทในเชียงรายกับทีมชาติจะต่างกันอยู่ เพราะในสโมสร เต้ จะเล่นเกมรุกมากกว่านี้เป็นสไตล์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์
พิธิวัต : จังหวะมันยังไม่มาครับพี่ ถ้ามีจังหวะผมก็ยิงแน่ๆ ครับ 555 จริงๆ ผมเล่นบทบาทไหนก็ได้ครับแล้วแต่โค้ชมอบหมาย ผมคิดว่าการที่โค้ชเลือกให้เราลงเล่นก็แสดงว่าเขามั่นใจว่าเราสามารถทำในสิ่งที่เขาต้องการได้ครับ
แมน : เต้เป็นคน จ.ระยอง ใช่มั้ยครับ อยู่อำเภออะไรนะ
พิธิวัต : อ.เมือง ครับ
แมน : อ๋อ พี่จันทบุรี อยู่ใกล้ๆ กัน แล้วตอนนี้ทางครอบครัวก็อยู่ที่ระยองใช่มั้ยครับ เต้ได้กลับไปบ้างมั้ย แล้วตอนนี้ที่อยู่เชียงรายนี่เป็นบ้านหรือคอนโดหรือยังไงนะครับ
พิธิวัต : ครอบครัว, ญาติๆ อยู่ระยองหมดเลยครับ ผมนานๆ ก็กลับที ตอนนี้ที่เชียงรายผมเช่าบ้านอยู่ครับ
แมน : ในทีมชาติไทยยุคก่อนๆ เรามีใครเป็นไอดอลบ้างหรือเปล่า
พิธิวัต : ทุกๆ คนเลยครับ นักเตะที่เคยติดทีมชาติไทยมาก่อนผมทุกคน คือไอดอลของผม เพราะแต่ก่อนผมเคยได้แต่เป็นคนดู ได้แต่คิดว่าสักวันนึงเราอยากจะมีโอกาสได้มาอยู่ในชุดทีมชาติบ้าง
แมน : โอ้โหตอบอย่างหล่ออะ 555 แล้วนักเตะต่างชาติล่ะ มีไอดอลมั้ย ที่เราเอาวิธีการเล่นมาศึกษาและปรับใช้
พิธิวัต : ผมชอบ (เอ็นโกโล่) ก็องเต้ ครับ อีกคนก็ ซาอูล (นิเกซ) ของ แอตเลติโก มาดริด พี่รู้จักมั้ยครับ
แมน : พูดถึงมิดฟิลด์ตัวรับสมัยนี้ ก็ต้องสร้างเกมรุก จ่ายบอลได้ และเทคนิคต้องดีด้วยเนอะ อย่าง ก็องเต้ เดี๋ยวนี้ก็ต้องเล่นเกมรุกด้วย ไม่ค่อยเห็นสไตล์ขาโหดแบบ รอย คีน, เจนนาโร่ กัตตูโซ่ พวกนี้แล้ว
พิธิวัต : สไตล์พันธุ์ดุ จอมโหดไม่ค่อยเห็นแล้วจริงๆ ด้วยพี่
แมน : เอ้อพี่ว่าจะถามอยู่ เต้เป็นเด็ก เจเอ็มจี อคาเดมี่ รุ่นเดียวกับพวก พิชา อุทรา, สุริยา สิงห์มุ้ย ใช่มั้ยครับ แล้วก็เคยไปฝึกที่แอตฯมาดริด ด้วยเท่าที่พี่จำได้
พิธิวัต : ใช่ครับพี่
แมน : แล้วเต้ได้อะไรจากการไปฝึกต่างประเทศมาบ้าง ที่นำมาปรับใช้ได้จนถึงทุกวันนี้
พิธิวัต : ก็ได้ไปเห็นการฝึกซ้อม การลงแข่งของนักเตะมืออาชีพ เราได้ไปตามดูเกมลีกหลายๆ เกมแล้วก็เห็นว่าในลีกระดับโลกเขาเคลื่อนที่, เขาจ่ายบอล มีวิธีคิดในการเล่นจังหวะต่างๆ ยังไงบ้าง ส่วนตอนซ้อมทุกคนก็จริงจังมาก ผมได้ไปเห็นพวก ฟัลเกา, ดิเอโก้ คอสต้า เขาซ้อมกับตาตัวเอง
แมน : สปีดบอลในลา ลีกา นี่เร็วกว่าไทยลีกเยอะเลยสิ พอได้ไปเห็นถึงสนาม อย่างพี่เอง บางทีดูบอลเจลีกช่วงกลางวันเสร็จแล้วดูไทยลีกต่อ บอลไทยเหมือนกลายเป็นสโลว์โมชั่นไปเลย
พิธิวัต : 555 ใช่ครับพี่ เจลีกนี่ต้องฟิตจริงๆ ยิ่งถ้าเป็นลีกยุโรปนี่ยิ่งเล่นกันเร็วมากครับ
แมน : ใช่ ขนาดนิว (ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์) อยู่ไทยว่าฟิตระดับต้นๆ แล้ว พอไปเจลีก ท้ายๆ เกมยังดูหมดแรงเลย เออแล้ว เต้ มองอนาคตตัวเองไว้ว่าอยากไปเล่นเจลีกมั้ยครับ เพราะการที่ นิชิโนะ มาคุมทีมชาติไทย แล้วเขาเป็นคนที่มีอิทธิพลในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ถ้าใครเล่นได้ดีก็น่าจะมีการแนะนำไปให้ทางเจลีกด้วย
พิธิวัต : ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดไปถึงขนาดนั้นครับ ขอเต็มที่กับเชียงรายก่อน ปีนี้ก็อยากจะช่วยทีมคว้าแชมป์ไทยลีกให้ได้สักครั้งในชีวิต บอลถ้วยรายการอื่นทั้งลีกคัพ, เอฟเอ คัพ ก็ได้มาหมดแล้ว เหลือไทยลีกอย่างเดียว ซึ่งปีนี้มันยังมีโอกาสด้วย
แมน : แล้วถ้าจบปีนี้ไปแล้วล่ะ เรื่องค้าแข้งต่างประเทศจะกลับมาเริ่มคิดอีกครั้งมั้ย
พิธิวัต : ถ้ามีโอกาส ก็อยากไปเหมือนกันครับ
แมน : คัดบอลโลกนัดหน้า เปิดบ้านเจอ ยูเออี คิดว่าจะเก็บ 3 แต้มได้มั้ย เต้เคยเจอทีมจากตะวันออกกลางมาก่อนหรือเปล่า
พิธิวัต : เคยเจอแต่ในระดับเยาวชนครับ ตอนไปแข่งดูไบคัพ ก่อนซีเกมส์ครั้งที่แล้ว ที่พี่โย่ง (วรวุฒิ ศรีมะฆะ) คุมทีม ที่เราได้แชมป์ แต่ในระดับชุดใหญ่ยังไม่เคยเจอ ผมคิดว่ามันจะเป็นเกมที่ยาก แต่ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของโค้ชและนักเตะทีมชาติไทย ว่าเราสามารถเอาชนะได้แน่นอนครับ
แมน : โอเคครับเต้ ขอให้เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จนะครับ วันนี้ขอบคุณมากครับ ไว้คุยกันใหม่นะ
พิธิวัต : ครับพี่ ขอบคุณครับ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ : พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล
เกิด : 1 กุมภาพันธ์ 1995 (24 ปี)
สถานที่เกิด : จ.ระยอง
ส่วนสูง : 1.72 เมตร
ตำแหน่ง : กองกลางตัวรับ
สโมสรเยาวชน
2010-2012 เจเอ็มจี อะคาเดมี่
2013 เมืองทอง ยูไนเต็ด
สโมสรอาชีพ
2013-2015 เมืองทอง ยูไนเต็ด
2016 บีอีซี เทโรศาสน
2017 เชียงราย ยูไนเต็ด
ทีมชาติ
2013-2014 ไทย ยู-19
2016-2018 ไทย ยู-23
2019 ไทยชุดใหญ่
ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)