ความปราชัยที่ แคร์โรว์ โร้ด ทำให้พวก 'เรือใบสีฟ้า' มันตาสว่างทั้งองค์กร ตั้งแต่คนบัญชาการอย่าง เป๊ป หรือผู้เล่นตัวจริง-ตัวสำรอง ว่าเล่นติดเก๊กหล่อไม่ได้อีก 

ยอมรับกันเหอะ!หากวันนั้นหากเป็น 'หงส์แดง' ก็อาจเลินเล่อเช่นกัน 

มีอย่างที่ไหน 24 ชั่วโมงก่อนบอลเตะ ผจก.ทีม ดาเนียล ฟาร์เค่ ของ'นกขมิ้นสีเหลืองอ่อน' ขุดบ่อล่อว่าขุมกำลังเดี้ยงรวม 11 ราย แถมเหลือกองหลังอาชีพใช้งานสองคน 

เป็นเราก็ต้องลูบปากรอถล่ม 

บวกตัวเองถือฐานะแชมป์เก่า ต่อให้เล่นเกมเยือน แค่คู่แข่งคือไอ้ทีมน้องใหม่สภาพพิการ - เค้นฝีเท้า 70-80% พวกกูก็ชนะได้ - เชื่อว่าก่อนคิก-ออฟ ทุกภาคส่วนของ ซิตี้ มองแบบนั้นจริงๆ 

โค้ชเหม่งถึงกับมึน

กุนซือเหม่งมันเลยเลือกพัก เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางมันสมอง โดยอ้างเหตุผลเรื่องเหนื่อยจากทีมชาติเบลเยียมตลอด 2 เกมคัดเลือกฟุตบอลยุโรป 

นี่คือบทเรียนที่หนึ่งซึ่ง กวาร์ดิโอล่า ต้องจด เพราะวิสัยทัศน์ในการผ่านบอลของ 'เคดีบี' เป็นจุดเด่น ซิตี้ มาตลอดต้นซีซั่นนี้ 

การเจอทีมเล็ก ซึ่งวินัยรับแน่น ทีมเวิร์กเด่น แม่ทัพเบลเจี้ยนจำเป็นสำหรับ 'เรือใบสีฟ้า' แบบคูณสาม คูณสี่เท่า 

นึกสภาพเราเอาสว่านเจาะเหล็ก มันต้องใช้ดอกนำศูนย์ถึงจะผ่านทะลุแบบเนี้ยบเรียบร้อย - เดอ บรอยน์ มีคุณสมบัติเช่นนั้น 

แต่พอไม่มีแล้ว บอลของ ซิตี้ ลดความอันตรายไปเยอะ ดาบิด ซิลบา โรยไปหลายดีกรี, อิลคาย กุนโดกัน ไร้ทีเด็ดตรงนี้ แล้วมันยังทำให้ประสิทธิภาพของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่จะสร้างความอันตรายในกรอบ 18 หลาหายไปเพราะต้องฉีกออกมาสร้างสรรค์เกมเองทางริมเส้น

บทเรียนที่สองคือกองหลังติดประมาททั้งแผง 

คู่หู-คู่ฮา โอตาเมนดี้-สโตนส์

สกอร์แรกทำเก๋ายืนป้องกันเตะมุมแบบโซน เลยโดน นอริช สั่งสอนด้วยการวิ่งเติมมาโขก, สกอร์สองเช็คล้ำหน้าพลาดไอ้แบ็กขวา ไคล์ วอลเกอร์ กับ จอห์น สโตนส์ ฐานะตัวสั่งการไลน์ หารความผิดไปคนละครึ่ง 

ส่วนลูกสามเล่นอย่างคนไร้สมาธิ นิโกลัส โอตาเมนดี้ และ นายด่าน เอแดร์ซอน รับผิดชอบร่วมกัน 

บทเรียนที่สามต้องด่า กวาร์ดิโอล่า และสตาฟฟ์ว่าเหมือนไม่เคยทำการบ้านศึกษาแนวทางการเล่นของ นอริช 

รู้กันว่าทีมของ ฟาร์เค่ รับส่งบอลเข้าขารู้ใจ  วิ่งหาที่ว่าง แก้สถานการณ์เพรสซิ่งเก่ง 

นอริช แก้เพรสซิ่ง ซิตี้ ด้วยความสุขุม

ซิตี้ ก็ไม่ใช่ผู้เล่นเชี่ยวชาญการกดดันแดนบนอย่างมีศิลปะแบบ ลิเวอร์พูล เลยทำให้แข้ง 1,000 ล้านปอนด์ เหนื่อยฟรีวิ่งล่าคู่แข่งแล้วก็ถูกแก้มาสวยๆหลายต่อหลายครั้ง 

ความผิดพลาดพวกนี้ เป๊ป และมือขวา มีเกล อาร์เตต้า จดใส่สมุดขลุกอยู่กับมันจนกินไม่ได้ นอนหลับไม่เต็มตา 

ส่วนฟีดแบ็คจากแฟนบอล เดอะ ซิตี้เซ่นส์ จองเวรไปที่เกมรับไร้วินัย ถึงขั้นรวมพลังโหวตให้เกิดความเปลี่ยนแปลง 

46% เข้าไปแสดงความเห็นทางแมนเชสเตอร์ อีฟวีนิ่ง นิวส์ มองว่า สโตนส์ เล่นคู่ แฟร์นานดินโญ่ ดูอุ่นใจกว่าใช้สองปราการหลังตัวกลางอาชีพอย่างปัจจุบัน 

"หาก เป๊ป ไม่เปลี่ยนแนวรับที่มีอยู่ในปัจจุบัน ปีนี้เราคงไม่มีแชมป์ติดมือแหง เพราะทั้ง สโตนส์ หรือ โอตาเมนดี้ มันฟอร์มแย่มาก สมควรให้โอกาสดาวรุ่ง" หนึ่งมุมมองจากสาวก ซิตี้ อัปเปหิแข้งอังกฤษกับอาร์เจนไตน์ 

สำหรับอีกคนแก้ต่างแทนว่า 

"ซีซั่นแรกที่เราได้แชมป์ลีก โอตาเมนดี้ มันแกร่งอย่าหินผา!!!ทำไมแค่เกมแย่ๆนัดเดียว ผู้คนถึงอยากเขี่ยเขาทิ้ง เรื่องพรรค์นี้เกิดได้กับวงการฟุตบอล"  

เป็นเหตุให้ผลโหวตอื่นๆเสียงแตกเช่น สโตนส์ จับคู่ วอลเกอร์ แล้วให้ ชูเอา กานเซโล ยืนแบ็กขวา 25%,  สโตนส์-โอตาเมนดี้ เหมือนเดิม 21% และชอยส์อื่นๆ 8% 

เดาใจวิธีแก้ปัญหาฉบับ กวาร์ดิโอล่า โค้ชหัวก้าวหน้าจอมรั้น 

https://twitter.com/ManCityMEN/status/1173204797798998017

ผลโหวตของแฟนๆไม่ทำให้เป๊ปใจบาง

ตามธรรมชาติไม่ยอมให้ปากหอย ปากปู มาเขย่าขวัญกำลังใจองค์กรแน่ๆ สำหรับเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เยือน ชัคห์ตาร์ โดเนตส์ค พุธนี้( 18 ก.ย.) 

หนำซ้ำจะให้ สโตนส์ จับคู่ โอตาเมนดี้ ลงสนามเรียกความมั่นใจกลับมา เพราะเฮด-ทู-เฮด ชัดเจนผูกปิ่นโตใส่แชมป์ยูเครน ( ชนะ 3 จาก 4 นัดที่พบกัน) ซีซั่นล่าสุด สองเกมกรุ๊ป สเตจ ยิงรวมเก้าสกอร์ไม่เสียสักประตูเดียว 

คณะของ กวาร์ดิโอล่า จะเหินฟ้าสู่เมืองคาร์คีฟในวันอังคารนี้ พร้อมแบกความอัดอั้นเอาไประบายใส่ทีมลูกไล่ตามสไตล์ 

อนึ่งเด็กหงส์ฐานะกองแช่งจึงไม่ควรย่ามใจ หรือเคลื่อนไหวทางโซเชี่ยล มีเดีย จนเป็นกระแสให้ผู้เล่นเราระเริง ทางที่ดีควรเชียร์อัพให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไปรักษาคลีนชีตบ้าง หาทางติเพื่อก่อยกระดับองค์กร

ลองเปลี่ยนแนวไปป่วนสมาธิแบบที่ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ทำอยู่ก็ไม่เลว 

นั่นคือหันเหความสนใจไอ้เป๊ปให้เน้นรายการ ชปล.เต็มตัว 

ฟาวเลอร์ วางยากวาร์ดิโอล่า หันเหความสนใจไปทิศอื่น

'เดอะ ก็อด' ฐานะอดีตแข้ง ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เขียนคอลัมน์ส่งให้ 'เดลี่ มิร์เรอร์' จี้ใจโค้ชเหม่งว่าเริ่มกดดันตัวเองแล้วเพราะห่างหายแชมป์ยุโรปไปนานกว่า 8 ซีซั่น นับตั้งแต่เคยทำได้กับ บาร์เซโลน่า เมื่อฤดูกาล 2010-11 

ฟาวเลอร์ ที่ปัจจุบันคุมทีมบริสเบน รอร์ ในเอ-ลีก ออสเตรเลีย พูดกดดันสารพัดว่าบอร์ด แมนฯ ซิตี้ จ้าง เป๊ป มาพาทีมเป็นแชมป์ ชปล.แต่สามปีผ่านไปไม่ได้ใกล้เคียง, อ้างเรื่อง เรือใบสีฟ้า คือทีมร่ำรวยท็อปสามโลก แต่ขาดวาสนาสัมผัสบิ๊กเอียร์ โทรฟี่ 

ยิ่งนานวัน กวาร์ดิโอล่า ก็ถูกค่อนขอดว่าคว้าแชมป์ ชปล.เพราะ ลีโอเนล เมสซี่ ดังนั้นหากไม่อยากใจบางไปกว่านี้ ซีซั่น 2019-20 เทรนเนอร์สแปนิชจะหวังเหยียบเรือหลายแคมไม่ได้อีก สมควรเบนเข็มเน้นบอลยุโรปแบบสุดลิ่ม ทิ่มประตู 

ตำนานกองหน้าเบอร์#9 ของ ลิเวอร์พูล ยังเลื่อยขาเก้าอี้โค้ชเหม่งชงชื่อ ดีเอโก้ ซีเมโอเน่ เทรนเนอร์แอต.มาดริด ว่าเหมาะแก่การนำ ซิตี้ หยิบเบอร์หนึ่งยุโรป หากว่าบอร์ดบริหารต้องการความเปลี่ยนแปลง 

ล่อซิตี้ มันไปทางล่าเจ้ายุโรปแทนพวกเรา

เดอะ ค็อปเอาพี่ ฟาวเลอร์ เป็นพิมพ์เขียวหากรักกันจริงช่วยกันคนละไม้ละมือ หาเรื่องติทีมตัวเอง, ติดแฮชแท็กเซฟ สโตนส์-โอตาเมนดี้ และ เชียร์ไอ้เป๊ปมันไปล่าเจ้ายุโรป 

บุญกุศลซึ่งร่วมก่อดีเพื่อที่ว่ายอดปรารถนาซึ่งรอคอยกว่า 3 ทศวรรษ จะได้โยกกลับมาตั้ง ณ แอนฟิลด์อีกครั้ง