:::     :::

คัมแบ็กเหลือเชื่อ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในยุคยิ่งใหญ่ของอาร์เซน่อล การพลิกกลับมาชนะหรือไล่ตีเสมอคู่แข่งในสถานการณ์ที่เสียเปรียบตัวผู้เล่น ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เพราะเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย เรียกได้ว่ามี "สปิริตนักสู้" เข้มข้นอย่างมาก

ในหลายนัดที่โดนใบแดง และเสียประตูไปก่อน ก็ยังสามารถรวมใจสู้จนกลับมาตีเสมอหรือแซงชนะได้ 

แต่ในหลายปีหลัง สปิริตนักสู้ตรงนี้หายไปพอสมควร การคัมแบ็กแบบหนล่าสุดกับ แอสตัน วิลล่า เมื่อวันอาทิตย์เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย 

คุณภาพการเล่นของอาร์เซน่อลยุคหลังเทียบไม่ได้เลยกับยุคทองที่ยอดเยี่ยมทั้งฝีเท้า สไตล์กาเรล่นเฉพาะตัว และการสู้ถวายหัว ไม่มีคำว่ายอมแพ้ง่ายๆ 

ปัหหาของทีมชุดนี้ภายใต้การนำของ อูไน เอเมรี่ มีหลายอย่าง จิ้มไปตรงไหนก็เจอ แต่ที่เด่นชัดสุดคือ "เกมรับ" ที่ไม่มีพัฒนาการในเชิงบวกเลยนับแตั้งแต่ เอเมรี่ เข้ามาคุมทีม 

อาร์เซน่อล เสียประตูง่ายไม่ต่างจากฤดูกาลก่อนที่เสียไปถึง 51 ประตูจาก 38 นัด ในกลุ่มท็อปเทนของตารางก็มีเพียง แมนฯ ยูไนเต็ด (54 ประตู) และ เวสต์แฮม (55 ประตู) ที่เสียมากกว่า 

ฤดูกาลนี้ ออกสตาร์ตมา 6 นัด โดนเจาะไปแล้ว 10 ประตูซึ่งแต่ละประตูที่เสียก็ไม่ใช่การทำเกมรุกที่เหนือชั้นของคู่แข่งแต่อย่างใด หากแต่เป็นความอ่อนหัดในเกมรับของอาร์เซน่อล 

ประตูแรกของ จอห์น แม็คกินน์ และประตูสองของ เวสลี่ย์ เป็นการเข้าทำในรูปแบบการเล่นทั่วไปคือ เปิดบอลโด่งจากด้านข้าง และกระชากถึงสุดเส้นแล้วเปิดหักเข้ามาตามลำดับ

แต่ความต่างระหว่างเกมกับ แอสตัน วิลล่า และสัปดาห์ก่อนหน้านี้กับ วัตฟอร์ด ที่ก็เล่นเกมรับได้แย่ยิ่งกว่าอีกคือ การฮึดสู้และไม่ยอมแพ้

ในสถานการณ์ที่เสียประตูไปก่อนและมาโดนใบแดงก่อนจบครึ่งแรกไม่กี่อึดใจ ขณะที่รูปเกมก็ไม่ได้ดีมากนัก การพลิกกลับมาชนะวิลล่าเป็นสิ่งที่ต้องยกย่องในหัวจิตหัวใจของทุกคนอย่างแท้จริง

จุดสำคัญคือการเปลี่ยนเอา กรานิต ชาคา ที่เล่นบอลช้า ออกในช่วง 20 นาทีสุดท้าย แล้วส่ง โจ วิลล็อค รวมถึง ลูคัส ตอร์เรร่า ที่แทน ดานี่ เซบายอส ลงมาช่วยยิ่งไล่บอล 

การเล่นต่อหน้ากองเชียร์ตัวเองทำให้อาร์เซน่อลพยายามโหมเกมรุกเพื่อตีเสมอให้ได้แม้จะเสียเปรียบตัวผู้เล่น หากเป็นเกมนอกบ้าน ผู้เล่นหลายคนอาจถอดใจไปแล้ว


เปเป้ ได้ยิงประตูแรกจากความใจกว้างของ โอบาเมย็อง

นั่นทำให้ตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง นักเตะอาร์เซน่อลใช้แรงไปเยอะมากในการบดบี้แย่งบอลและพยายามทำเกมรุก ดังนั้นการลงมาของ วิลล็อค กับ ตอร์เรร่า จึงเพิ่มความสดใหม่ให้กับทีมมากขึ้น

การมี ตอร์เรร่า คอยตัดเกมก็เปิดโอกาสให้ มัตเตโอ เก็นดูซี่ ได้ช่วยเกมรุกมากกว่าเดิมซึ่งกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสก็กลายเป็นหัวใจสำคัญในการคัมแบ็กอันเหลือเชื่อนี้

เก็นดูซี่ พลาดในครึ่งแรกที่ตามประกบ จอห์น แม็คกิน ไม่สุด ทำให้กองกลางวิลล่าได้หลุดเข้าไปดีดบอลง่ายๆ แต่ครึ่งหลังถือว่าแก้ตัวได้ตั้งแต่ลากพาบอลเข้าเขตโทษจนเรียกจุดโทษให้กับทีม 

ประตูตีเสมอ 2-2 ก็เป็น เก็นดูซี่ ที่หยอดบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาไปให้ คาลั่ม แชมเบอร์ส ที่ตั้งใจตบคืนเข้ากลางแต่ติดบล็อก ก่อนตามเก็บตกได้แล้วดีดบอลเสียบตาข่ายเข้าไป 

ในนัดก่อนกับวัตฟอร์ด เก็นดูซี่ ถูกวิจารณ์พอสมควรเพราะเล่นได้น่าผิดหวัง วิ่งพล่านไม่รู้ตำแหน่ง และไม่สามารถช่วยปิดเกมรับฝั่งขวาที่ เคราร์ด เดวโลเฟว ได้บุกสบายใจและเผาเครื่อง เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์ ไปหลายครั้ง แถมตอนถูกเปลี่ยนตัวออกยังไปชูนิ้วเย้นแฟนบอลเจ้าถิ่นที่ต่อมาโดนล้อคืนเพราะวัตฟอร์ดตีเสมอได้สำเร็จ

แต่นัดล่าสุด กองกลางดาวรุ่งวัย 20 ปีสามารถช่วยทีมได้จริง เด่นทั้งเกมรุกกับเกมรับ เล่นด้วยความกระตือรือร้นเหมือนวันที่ได้แมน ออฟ เดอะ แมตช์ นัดพาทีมไล่ตีเสมอ 2-2 

เพื่อนร่วมทีมคนอื่นก็พลอยตื่นตัวไปด้วย ช่วง 20 นาทีสุดท้ายจึงสามารถไล่บี้ไล่กดดันอยู่ในแดนของ แอสตัน วิลล่า ได้ราวกับว่าอาร์เซน่อลมีผู้เล่นมากกว่า 

วิลล่า พึงพอใจกับสกอร์นำ 2-1 มากไปจึงถอยตั้งรับกันลึก ทั้งที่สามารถบดขยี้เข้าใส่อาร์เซน่อลได้ไม่ยากด้วยความที่ได้เปรียบตัวผู้เล่น 


โอบาเมย็อง กดฟรีคิกได้ฉมังเหลือเกิน

สถิติบันทึกไว้ว่า ตอนจบ 45 นาทีแรก อาร์เซน่อล ได้ยิงเพียง 6 ครั้ง ส่วน วิลล่า ได้โอกาส 7 ครั้ง 

แต่ครึ่งหลังที่อาร์เซน่อลเล่นด้วยผู้เล่น 10 คนเต็มๆ กลับสามารถเล่นเกมรุกได้มากกว่าและได้โอกาสยิงถึง 15 ครั้ง ส่วน วิลล่า ได้โอกาส 7 ครั้งเท่าเดิม

การสู้ไม่ถอยของอาร์เซน่อลในนัดนี้ให้ได้สิ่งตอบแทนในที่สุดจากฮีโร่คนเดิมอย่าง โอบาเมย็อง ที่กดฟรีคิกประตูชัยที่ร้ายกาจอย่างมาก เป็นลูกยิงที่ ทอม ฮีตัน นายทวารวิลล่าไม่ต้องขยับตัวเลยเพราะยังไงก็ไปไม่ทัน 

โอบาเมย็อง ยังเป็นที่พึ่งให้กับทีมเช่นเคย ประตูของหัวหอกกาบองช่วยให้ทีมพลิกสถานการณ์ได้อีกครั้งและเป็น 3 คะแนนที่ล้ำค่าทั้งอันดับในตาราง และสร้างสปิริตในทีมให้ดีขึ้น

ฤดูกาลนี้ โอบาเมย็อง ยิงประตูสำคัญให้กับทีมมาตั้งแต่นัดแรกที่ยิงประตูชัยเอาชนะนิวคาสเซิ่ล 1-0, ประตูชัยเอาชนะเบิร์นลี่ย์ 2-1, ประตูตีเสมอสเปอร์ส 2-2, กด 2 ประตูให้ทีมนำวัตฟอร์ด 2-0 และล่าสุดกับฟรีคิกพาทีมลุกขึ้นมาจากหลุม

อีกเรื่องที่อดีตหัวหอกแซงต์-เอเตียนและดอร์ทมุนด์ได้รับคำชมคือ การเปิดโอกาสให้ นิโกล่าส์ เปเป้ ได้ยิงประตูแรกกับอาร์เซน่อลด้วยการสังหารจุดโทษตอนต้นครึ่งหลัง 

ก่อนลงสนามนัดล่าสุด เปเป้ เล่นให้อาร์เซน่อลไปแล้ว 6 นัด ยังไม่สามารถยิงประตูได้ เมื่อทีมได้จุดโทษ โอบาเมย็อง ก็เลยผายมือให้เพื่อนร่วมทีมคนใหม่ได้โอกาสยิงประตูแรก 

อูไน เอเมรี่ ยกย่อง โอบาเมย็อง ว่า "โอบาเมย็อง เป็นคนรับผิดชอบยิงจุดโทษ เช่นเดียวกับ ลากาแซ็ตต์ และในวันนี้ก็เป็นการตัดสินใจที่สำคัญของ โอบาเมย็อง ที่ปล่อยให้ เปเป้ ได้ยิงจุดโทษเพื่อเรียกความมั่นใจในการทำประตู"

"ผมมีความสุขนะที่เห็นการตัดสินใจแบบนี้ของ โอบาเมย็อง เขามีความกระหายในการยิงประตูในทุกวัน แต่วันนี้ การตัดสินใจดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้เล่นที่สุดยอด"

ในอดีตที่ผ่านมา โอบาเมย็อง กับ ลากาแซ็ตต์ ก็ช่วยเหลือกันและกันในสร้างความมั่นใจ โอบา ก็เคยมีช่วงปืนฝืดยิงไม่ได้หลายนัด แต่พอได้จุดโทษ ลากาแซ็ตต์ ก็เปิดโอกาสและเต็มใจให้เพื่อนได้ยิง เช่นเดียวกับช่วงที่ ลากาแซ็ตต์ หายเจ็บกลับมา โอบาเมย็อง ก็ไม่ขัดข้องใดๆ ที่เพื่อนจะยิงประตูเรียกความมั่นใจ 


โอบาเมย็อง เป็นฮีโร่ให้กับทีมอีกครั้ง

นี่คือสิ่งที่น่ายกย่องสำหรับกองหน้าอาร์เซน่อลโดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่หลายทีมมีประเด็นทางลบเกี่ยวกับการยิงจุดโทษ 

การสวมวิญญาณนักสู้พลิกกลับมาชนะได้คือคุณสมบัติที่ดีของทีมที่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด อาร์เซน่อล ไม่ควรทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบแบบไม่จำเป็นจนต้องมาเหนื่อยแบบนี้ 

เกมรับต้องปรับกันอีกเยอะ สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่าที่แฟนบอลต้องมาเห็นการเสียประตูแบบหมูตู้ราวกับเป็นทีมสมัครเล่น พอเสียประตูก่อนก็ลำบากเกมรุกที่ต้องออกแรงมากกว่าเดิมในการไล่ตีเสมอ 

เช่นเดียวกับการเสียใบเหลือง-ใบแดงที่ทำให้สถานการณ์แย่หนักไปกว่าเดิม กรณีของ เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์ ต้องไม่เกิดขึ้นเพราะเป็นการเล่นที่อันตรายต่อให้โดนบอลก่อนก็ตามที 

เมทแลนด์-ไนลส์ โดนใบเหลืองตั้งแต่ช่วงต้นเกมไปแล้ว ยิ่งต้องระวังตัวให้มาก การเล่นแบบนี้เสี่ยงทั้งต่ออาการบาดเจ็บของตัวเองและเพื่อนร่วมอาชีพ และทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปกว่าเดิม 

อาร์เซน่อลรอดตัวได้เพราะเกมรุกอยู่ในฟอร์มที่ดี โอบาเมย็อง ยิงต่อเนื่องประตูที่ 16 จาก 16 นัดหลังสุดกับทีม เปเป้ มีสกอร์แรกแล้ว ในนัดต่อๆ ไปก็รอแค่ให้ ลากาแซ็ตต์ หายเจ็บกลับมา 

แต่เกมรับก็ต้องทำให้ดีขึ้นด้วย เพราะเกมรุกคงไม่สามารถช่วยลบล้างความผิดได้ทุกครั้งไป 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด