เด็กหนุ่มจากเมือง เซา เปาโล ย้ายจาก ซานโตส มาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 45 ล้านยูโร ท่ามกลางข้อสงสัยว่า ซีเนดีน ซีดาน จะจัดการกับอนาคตของแข้งวัย 18 ปีอย่างไร 

สองทางเลือกของ ซีดาน คือการปล่อย โรดรีโก้ โกเอส เรียนรู้แนวทางการเล่นของฟุตบอลสเปนกับ เรอัล มาดริด กาสตีย่า ภายใต้การดูแลของ ราอูล กอนซาเลซ หรือจะปล่อยไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมอื่นด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสเลือกทางแรกเพราะนักเตะจะอยู่ใกล้หูใกล้ตาสามารถติดตามพัฒนาการของอดีตเด็กปั้นของซานโตสได้มากกว่า

ราอูล ส่งหนุ่มโรดรีโก้ลงประเดิมสนามกับ เรอัล มาดริด กาสตีย่า ในเกมเสมอ ลานเกรโอ 0-0 หลัง ซีดาน เรียกนักเตะขึ้นมาเป็นตัวสำรองในเกมชนะ เลบันเต้ 3-2 เนื่องจากทีมชุดขาวมีผู้เล่นบาดเจ็บหลายคน แต่ด้วยเหตุที่นักเตะไม่ได้ลงสนามจึงมาเล่นกับทีมของราอูลในวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา 

'เรามีนักเตะ 18 คนในทีมและเขาอยู่ข้างหลังเพราะเขาเป็นนักเตะของทีมชุดใหญ่' ราอูล กล่าวถึง โรดรีโก้ 'เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาบอกเราว่าเขา (โรดรีโก้) ต้องมา (กับ กาสตีย่า) ผมดีใจมากที่มีเขา' 

จากปัญหานักเตะบาดเจ็บทำให้หนุ่มโรดรีโก้มีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่มากขึ้นหลังเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสเรียกตัวติดโผเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก แต่แข้งดาวรุ่งชาวบราซิเลียนไม่ได้ลงเล่นเกมดังกล่าวก่อนทัพ'โลส บลังโกส'จะประเดิมการเล่นรอบแบ่งกลุ่มด้วยการปราชัยยับเยิน 0-3 

วันที่ โรดรีโก้ รอคอยก็มาถึงในเกมเปิดบ้านรับมือ โอซาซูน่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากการบาดเจ็บของนักเตะและซีดานยังเลือกพักแข้งตัวหลักบางรายเนื่องจากทีมชุดขาวยังมีศึกมาดริดดาร์บี้แมตช์รออยู่ในวันเสาร์นี้ 

ดังนั้น โรดรีโก้ จึงถูกเรียกตัวติดโผและมีชื่อเป็นตัวสำรองอีกครั้ง ก่อน ซีดาน จะส่งนักเตะลงเล่นแทน วินิซิอุส จูเนียร์ รุ่นพี่ร่วมชาติช่วงนาที 71 แถมยังเป็นวันพิเศษของแนวรุกวัย 18 ปีหลังการยิงประตูจากการลงประเดิมเกมแรกต่อหน้าสาวกมาดริดิสต้าบนสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'อีกด้วย 

โรดรีโก้ ใช้เวลาในสนามเพียง 95 วินาทียิงประตูแรกของเขากับทัพ'โลส บลังโกส'สำเร็จ จากการวางบอลยาวของ การ์ลอส กาเซมีโร่ ให้แนวรุกวัย 18 ปีทางฝั่งซ้ายและหักเข้ากลางแต่ง 1-2 จังหวะก่อนสับไกด้วยขวาเป็นประตูตอกฝาโลงทีมโรคีโย่ กลายเป็นการเปิดตัวที่สวยงามของเด็กหนุ่มชาวบราซิเลียนจนถูกนำไปเปรียบเทียบกับกองหน้าระดับตำนานอย่าง โรนัลโด้ นาซารีโอ 

โรนัลโด้ ย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน มาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2002 หลังการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติบราซิลในปีดังกล่าว ก่อนกองหน้าระดับตำนานของเมืองกาแฟจะเปิดตัวอย่างสวยหรูด้วยการใช้เวลาเพียง 63 วินาทีกระทุ้งประตู อลาเบส ก่อนทีมชุดขาวจะยำทีมเยือนจากแคว้นบาสก์ 5-2 

หนุ่มโรดรีโก้ยังทำผลงานเหนือ เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษที่เคยใช้เวลา 124 วินาทีในการยิงประตูเกมประเดิมสนามกับ เรอัล มาดริด นัดพบ เรอัล เบติส เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2003 ด้วย

การลงสนามเกมแรก เล่นต่อหน้าสาวกมาดริดิสต้าในเบร์นาเบวและยังยิงประตูได้ทันทีเป็นการเปิดตัวที่เหมือนฝัน ซึ่งคงไม่มีใครจะสุขใจมากเท่าหนุ่มโรดรีโก้อีกแล้ว

'ผมพูดไม่ออกเลย ผมฝันถึงช่วงเวลาแบบนี้ตั้งแต่ผมย้ายมา เรอัล มาดริด และวิ่งลงไปที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว พร้อมกับแฟนบอลที่ตะโกนเรียกชื่อผม ดังนั้นผมมีความสุขมาก' โรดรีโก้ เปิดอก

ก่อนจะกล่าวถึงจังหวะการทำประตูแรกในคราบชุดขาวว่า'ผมควบคุมมันได้ดีและรู้ว่าถ้ายิงจากตรงนั้นสามารถหวังผลได้ ผมต้องการแสดงให้เห็นเสมอว่าผมมีความสามารถที่จะเล่นที่นี่ได้' 

โรดรีโก้ ปรับตัวเข้ากับวิถีลูกหนังและการใช้ชีวิตในเมืองกระทิงเร็วกว่าที่คิดส่วนหนึ่งมาจากความช่วยเหลือของแข้งรุ่นพี่ร่วมชาติอย่าง การ์ลอส กาเซมีโร่, มาร์เซโล่ วิเอยร่า รวมถึง วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ย้ายมาก่อนหน้าเขาหนึ่งปี

'กาเซมีโร่, มาร์เซโล่ และ วินิซิอุส ที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ก่อนหนึ่งปีช่วยสร้างความมั่นใจกับผมได้มาก พวกเขาคุยกับผมทุกวันและมันช่วยให้ผมปรับตัวง่ายขึ้นมาก' แข้งวัย 18 ปีเปิดเผย 

แน่นอนว่าหนุ่มโรดรีโก้ไม่ต้องการให้สื่อนำเขาไปเปรียบเทียบกับกองหน้าระดับตำนานอย่าง โรนัลโด้ นาซารีโอ แม้ว่าเขาจะทำประตูได้ตั้งแต่เกมประเดิมสังเวียนกับทีมชุดขาวเหมือนกองหน้ารุ่นคุณน้าก็ตาม

'ผมไม่ต้องการเปรียบเทียบกับ โรนัลโด้ (นาซารีโอ) เพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นดีที่สุดตลอดกาลและหนึ่งในนักเตะดีที่สุดในประเทศของผม'

โรดรีโก้ อาจประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่อย่างยอดเยี่ยม แต่แนวรุกวัย 18 ปียังไม่ปักหลักแบบถาวร เนื่องจาก ซีดาน ยืนยันว่าแข้งหนุ่มชาวบราซิเลียนยังต้องลดระดับไปเล่นบางเกมกับ เรอัล มาดริด กาสตีย่า แต่สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ โรดรีโก้ อาจได้รับโอกาสลงเล่นกับทีมของเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสมากขึ้น ซึ่งเขาเต็มใจที่จะอดทนรอโอกาสต่อไป

'เจ้านายรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่และเขาคุยกับผมทุกวันเพื่อบอกให้ผมทำงานหนักต่อไป ผมอยู่ที่ เรอัล มาดริด และผมไม่แคร์ว่าผมจะเล่นให้ กาสตีย่า ภายใต้การดูแลของ ราอูล หรือลงเล่นกับทีมชุดใหญ่' โรดรีโก้ ยืนยัน

โรดรีโก้ เจิมประตูแรกกับ เรอัล มาดริด ก่อน ลูก้า โยวิช กองหน้าชาวเซิร์บที่ย้ายมาจาก แฟร้งค์เฟิร์ต ในช่วงเวลาเดียวกัน หลังอดีตกองหน้าทีมอินทรีแดง-ดำได้โอกาสออกสตาร์ทแทน คาริม เบนเซม่า เขามีโอกาสจะแจ้งสองครั้งจากจังหวะพลาดของ รูเบน อีบัน มาร์ตีเนซ นายทวารโอซาซูน่าในช่วงครึ่งแรก แต่ โยวิช ยิงระยะเผาขนข้ามคาน ก่อนส่งบอลตุงตาข่ายสำเร็จ ทว่าถูกวีเออาร์ยึดคืนเนื่องจากล้ำหน้าทำให้กองหน้าค่าตัว 60 ล้านยูโรยังต้องรอประตูแรกของเขาต่อไป

แข้งหนุ่มชาวบราซิเลียนยังเอาชนะใจซีดานขึ้นมาเป็นตัวเลือกของเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสก่อน บราอิม ดีอาซ สำเร็จ หลังแข้งดาวรุ่งชาวสเปนเคยเป็นนักเตะที่'ซิซู'โปรดปรานก่อนหน้านี้ 

สถานการณ์ของ โรดรีโก้ กับ บราอิม แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ณ ช่วงเวลานี้ เขาถูก ซีดาน ตัดชื่อออกจากโผตัวเลือกทั้งที่มีนักเตะบาดเจ็บหลายคนทั้งเกมกับ เลบันเต้ หรือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ขณะที่ โรดรีโก้ มีชื่อติดทีมและเป็นตัวสำรองแม้ว่ายังไม่ได้โอกาสลงสนามก็ตาม 

มันอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับการเลือกตัดคนใดคนหนึ่งออกจากทีม แม้ว่าการบาดเจ็บของนักเตะหลายรายจะมีส่วนทำให้ซีดานตัดสินใจง่ายขึ้นก็ตาม แต่คงไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีนักสำหรับ บราอิม หลังเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสเลือกใช้งานแนวรุกชาวบราซิเลียนก่อนเขา 

พัฒนาการของ บราอิม ดีอาซ ไม่ก้าวหน้าอย่างที่คาดหวัง ส่วนหนึ่งมาจากการบาดเจ็บของอดีตดาวรุ่ง แมนฯซิตี้ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นหลังมีปัญหาที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังจนต้องพักนานร่วมเดือนจนพลาดการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องมาโดยตลอด 

แม้นักเตะจะเรียกความฟิตกลับมาทันจนมีชื่อติดโผเกมเยือน เซลต้า บีโก้ ในเกมเปิดซีซั่นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมาก็ตาม แต่ 3 วันหลังจากนั้น บราอิม มีปัญหาที่กล้ามเนื้อต้นขาจนไม่ได้ลงซ้อมแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยจนกระทั่งถึงวันที่ 11 กันยายน ทว่าช่วงเวลาดังกล่าว เขาก็ถูก โรดรีโก้ แซงหน้าไปไกลพอสมควร 

แนวรุกชาวบราซิเลียนเคยมีปัญหาที่กล้ามเนื้อต้นขาก่อนหน้านี้เช่นเดียวกัน แต่อดีตเด็กปั้นของซานโตสฟื้นตัวเร็วกว่า บราอิม และกลับมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ต่อหน้าซีดานที่สามารถดูพัฒนาการของนักเตะอย่างต่อเนื่องและที่สำคัญหนุ่มโรดรีโก้ยังใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ได้รับเป็นอย่างดีด้วย

โรดรีโก้ ยังแสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่ดี, ขยันฝึกซ้อม, ไม่ปริปากบ่น, ไม่เกี่ยงว่าจะต้องลดระดับไปเล่นกับทีมเยาวชนและอดทนรอโอกาสที่จะสร้างความแตกต่างเหมือนเกมกับ โอซาซูน่า เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ดังนั้นแข้งหนุ่มชาวบราซิเลียนน่าจะมีอนาคตค้าแข้งที่สดใสกับทัพ'โลส บลังโกส'แน่นอน