:::     :::

สักที

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2562 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
2,770
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในที่สุดพลพรรค เชลซี ก็สามารถคว้าชัยชนะเกมอย่างเป็นทางการในบ้านได้สำเร็จในยุคของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด

แม้จะเป็นการคว้าชัยเหนือทีมรองบ่อนอย่าง กริมสบี้ ที่อยู่ในลีก ทู แต่มันก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะตัวเลขของสกอร์ที่ล้นหลามถึง 7-1

แม้ว่านักเตะเกือบทั้งทีมที่ถูกส่งลงสนามจะเป็นตัวสำรองในทีมก็ตามที แต่มันก็ทำให้รู้ว่า "สิงห์บลูส์" ยังมีนักเตะที่พร้อมทำหน้าที่แทนผู้เล่นตัวจริงในยามที่ทีมเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บ

วิลลี่ กาบาเยโร่, รีซ เจมส์, คูร์ท ซูม่า, มาร์ค กูอี้, มาร์กอส อลอนโซ่, รอสส์ บาร์คลี่ย์, บิลลี่ กัลมัวร์, คริสเตียน พูลิซิช, เปโดร โรดริเกซ, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และ มิชี่ บาตชูอายี่ คือผู้เล่น 11 คนแรกในเกมคาราบาว คัพ 

        

เข้าใจการปรับผังผู้เล่นเนื่องจากนักเตะตัวหลักจะได้พักบ้าง คู่แข่งก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก คงเป็นโอกาสดีที่ตัวสำรองจะได้โชว์ฟอร์มเรียกความมั่นใจบ้าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกลับมาจากอาการบาดเจ็บของแข้งดาวรุ่งอย่าง เจมส์ และ ฮัดสัน-โอดอย ที่ถูกวางว่าจะเป็นตัวหลักของทีมในฤดูกาลนี้

เช่นเดียวกับ พูลิซิช ที่หายหน้าไปในช่วงหลังก็ได้กลับมาวาดลวดลายหลังถูกตั้งความหวังอย่างสูงในการเข้ามาแทนที่ เอแด็น อาซาร์

การได้เห็นดาวรุ่งลงสนามอาจจะเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เนื่องจากทีมโดนลงโทษห้ามซื้อนักเตะ และการให้โอกาสลงสนามเพื่อทดสอบศักยภาพของผู้เล่นเหล่านั้นถือเป็นเรื่องที่ส่งผลดีกับทีมในปีนี้ที่มีโปรแกรมให้ลงสนามแน่นทุกรายการ


นอกจากตัวจริงที่ลงเล่นในเกมนี้ที่ได้เห็นแข้งวัยละอ่อนมากมาย ทีมยังได้เห็นตัวสำรองอย่าง เอียน มาตเซ่น และ ฟาอุสติโน่ อันโยเน่น สองดาวรุ่งที่ลงสนามมาให้แฟนๆได้เห็นหน้ากันด้วย

เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ส่งผลกับทีมในระยะยาวได้ เด็กจะได้สัมผัสเกม, มีส่วนร่วมกับการทำประตูรวมถึงชัยชนะสวยๆ นี่แหละคือสิ่งที่ผู้จัดการทีมต้องการ

โดยเฉพาะในตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ส่ง เอียน มาตเซ่น ลงเล่นหลังจากที่ เอแมร์ซอน เจ็บและต้องพักร่วมเดือน แม้จะมี มาร์กอส อลอนโซ่ อยู่แต่ก็ต้องมีอะไหล่เอาไว้ด้วย

        

ถึงกระนั้น แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็ยังมีทางเลือกอีกทางในการขยับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ไปเล่น แล้วให้ทางขวาเป็นหน้าที่ของ รีซ เจมส์ ก็ดูเป็นไอเดียที่เข้าท่าเช่นกัน แม้กัปตันทีมตัวเก่งจะทำได้ดีในตำแหน่งแบ็กขวามากกว่า แต่มันก็มีโอกาสที่จะได้ลองเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้ด้วยนั่นเอง

ไม่ว่าทีมจะเล่นในระบบกองหลัง 4 คน หรือเล่นแบบ "วิง-แบ็ก" เหมือนที่เคยใช้มาแล้วในเกมบุกถล่ม วูล์ฟแฮมป์ตัน 5-2

แน่นอนว่าผลงานในเกมนี้มีนักเตะที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาแย่งตำแหน่ง 11 คนแรกของทีมสู้ศึกพรีเมียร์ลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่เป็นรายการสำคัญของสโมสร

หนึ่งในนั้นหนีไม่พ้น คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ที่ได้รับการคาดหมายอยู่แล้วว่าจะเป็นกำลังสำคัญหลังทำผลงานได้น่าประทับใจ 

        

หากได้เห็นเกมรุกพลังหนุ่มอย่าง ฮัดสัน-โอดอย, เมสัน เมาท์ และ คริสเตียน พูลิซิช อาจจะเป็นสามประสานในฝันของเหล่าสาวกสีน้ำเงิน

เพราะต้องยอมรับว่า วิลเลี่ยน ประสบการณ์เยอะจริง แต่ช่วงหลังยามได้โอกาสลงสนามแทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ส่วน เปโดร โรดริเกซ มีวูบวาบอยู่บ้าง แต่ปัญหาคือความต่อเนื่อง ฟอร์มการเล่นยังลูกผีลูกคนอยู่

ส่วนแบ็กขวาอย่าง รีซ เจมส์ ที่แฟนๆเชียร์ให้ยึดตำแหน่งตัวจริง อาจจะดูทำร้ายจิตใจกัปตันทีมอย่าง อัซปิลิกวยต้า ไปสักหน่อย ซึ่งอย่างที่บอกนอกจากนายใหญ่ทัพสิงห์จะโยกไปยืนทางซ้ายเพื่อเปิดทางให้ เจมส์ ได้ลงเล่น เพราะในเกมคาราบาว คัพถือว่าฟอร์มน่าประทับใจทีเดียว และดูท่าทางก็น่าจะฟิตเต็มที่แล้ว

       

อีกจุดที่สำคัญที่เสริมสร้างกำลังใจให้ทีมก็คือการผ่านเข้ารอบต่อไป สานต่อผลงานจากปีที่แล้วที่ทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก่อนไปพ่ายในการดวลจุดโทษให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แต่เกมในรอบถัดไปทีมต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งถือว่าเป็นเกมใหญ่และทีมก็เคยบุกไปโดนถล่มมาแล้วในนัดเปิดซีซั่นฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

จะบอกว่าโชคร้ายก็สามารถว่าอย่างนั้นเพราะยังมีทีมรองบ่อนอีกเพียบทั้ง ครอว์ลี่ย์ ทาวน์, โคลเชสเตอร์, อ๊อกฟอร์ด, ซันเดอร์แลนด์, เบอร์ตัน หรืออีกหลายทีมในลีกสูงสุด แต่กลับมาเจอ "ปีศาจแดง" ที่แม้จะฟอร์มไม่ดีนัก แต่ศักยภาพก็อยู่ในระดับสูง

ถึงอย่างนั้น แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็ไม่ได้ตัดพ้ออะไร พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และหวังจะถอนแค้นจากความพ่ายแพ้ในลีกด้วย


ก็ต้องวัดใจกันว่าเจ้านายจะยังเลือกส่งเด็กรวมถึงเหล่าบรรดาตัวสำรองลงเล่นหรือจะมาใช้ผู้เล่นชุดใหญ่

แต่ก่อนจะถึงเกมนั้น ทีมยังต้องฟาดกันกับโปรแกรมทั้งในลีกและบอลยุโรป เริ่มจากวันเสาร์นี้ในการเจอกับ ไบรท์ตัน ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

หวังว่ามันจะเป็นสามแต้มในบ้านเกมแรกในพรีเมียร์ลีกสักที


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด