:::     :::

ขับรถบัสไปรับถ้วย!

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
2,824
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เสียงกรีดร้องสะใจ ถูกระเบิดอย่างบ้าคลั่ง หลัง ซีเกต หมาดปูเต๊ะ ซัดจุดโทษผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน

“นายกเกียร์” ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ ประธานสโมสร พีที ประจวบ และสาวก “ต่อพิฆาต” ได้ปลดปล่อยอารมณ์อย่างเต็มที่ หลังกัดเล็บลุ้นนานกว่า 2 ชั่วโมง

จากทีมที่ไม่เคยเข้าใกล้ หรือแม้แต่เฉียดแชมป์ฟุตบอลถ้วย วันนี้ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล และทีมงานช่วยกันเสกโทรฟี่ กลับ สามอ่าว สเตเดียม ได้สำเร็จ

แท็คติก จังหวะฟุตบอล โชคดวง คือสิ่งที่ พีที ประจวบ มีทั้งหมดในฟุตบอลรายการนี้

ไล่ตั้งแต่รอบ 32 ทีม พวกเขาเจอสโมสรต่ำดิวิชั่นกว่าอย่าง ราชนาวี และเอาชนะมาได้อย่างไม่ยากเย็น เช่นเดียวกับในรอบ 16 ทีม ที่ดวงเฮงจับสลากมาพบทีมจาก ไทยลีก 4 อย่าง มหาวิทยาลัยธนบุรี ขณะที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ก็ยังได้เตะในบ้านพบ โปลิศ เทโร อีก

รอบตัดเชือกโคจรมาพบกับ “แชมป์เก่า” สิงห์ เชียงรายฯ ก็สามารถยื้อจนชนะจุดโทษไปได้

รอบชิงชนะเลิศ “โค้ชวัง” รู้สถานะทีมตัวเองดี ว่าศักยภาพไม่ดีเท่าคู่แข่งอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แถมยังไร้ผู้เล่นหลัก ฉะนั้นการใช้วิธี “ซื้อรถบัสมาจอดหน้าปากประตู” จึงเป็นแท็คติกที่เลือกจับมาใช้

ระบบ 4-2-3-1 ถูกกางบนฟลอร์หญ้า เอสซีจี สเตเดียม แม้จะยืนเกมรับเป็นหลัก แต่บางจังหวะก็ดันไลน์ขึ้นไปไม่ให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เซตบอลได้ง่าย จนบ่อยครั้งที่ ฮาจิเมะ โฮโซไก ต้องถอยต่ำลงมารับบอลเอง

ครั้นจะเจาะตรงกลาง ก็ถูกสองมิดฟิลด์อย่าง ภานุวัฒน์ จินตะ และ ภูริทัต จาริกานนท์ ถวายเกมหนักใส่ตลอด

ขณะที่เกมด้านข้าง “โค้ชวัง” เลือกปิดผนึกตัวริมเส้นคู่แข่งเกือบหมด นักเตะอย่าง เมารินโญ และ สิโรจน์ ฉัตรทอง ลงมาช่วยซัพพอร์ตแบ็กสองฝั่งได้อย่างดี จนเกมของ “ปราสาทสายฟ้า” เจาะไม่เข้า ต้องอาศัยการเซตเปลี่ยนบอลไปมา




เมื่อหาวิธีโจมตีไม่เข้าก็ใช้การโยนยาวเข้าเขตโทษ ลูกๆของ เนวิน ชิดชอบ ก็ต้องไปชนกับ 2 เซ็นเตอร์ต่างชาติอย่าง อัดนาน โอลาโฮวัช และ อาร์ตยอม ฟิลิโปสยาน อีก

ส่วนประตูแรกที่ได้ช่วงต้นครึ่งหลัง ก็มี “ความเฮง” มาผสมเล็กน้อย เพราะไลน์แมนดัน “ตาไม่ดี” มองไม่เห็นว่าเป็นลูกล้ำหน้าแบบเต็มๆ

อย่างไรก็ตามเกมรับ ประจวบ เหมือนจะทำงานได้ราว 70 นาทีเท่านั้น ด้วยสภาพร่างกายคนหนุ่มที่มีมากกว่า บุรีรัมย์ ดื้อเจาะไปเรื่อยๆ จนสามารถพังทำนบได้สำเร็จ และเป็นที่มาของประตูตีเสมอจาก ศุภชัย ใจเด็ด

“โค้ชวัง” รู้สมรรถภาพทางกายนักเตะดี เมื่อเกมรับริมเส้นฝั่งซ้ายถูกพาทัวร์บ่อยครั้ง จึงตัดสินใจเปลี่ยน วีรวุฒิ กาเหย็ม มาช่วยซัพพอร์ต อดุลย์ หมื่นสมาน ในวัย 38 ปี พร้อมตั้งโซนลึกบีบให้คู่ต่อสู้ พาบอลเข้าเขตโทษได้ยากลำบากที่สุด

ด้านกองกลางอย่าง รัชพล นาวันโน แมตช์นี้สามารถเก็บบอลจังหวะสองหน้าเขตโทษได้อย่างดี รวมถึงประสานงานกับเพื่อนคอยปัดกวาด ไม่ให้คู่แข่งมีพื้นที่ยิงไกล

ตั้งแต่ถูกตีเสมอยันจบ 120 นาที พีที ประจวบ “ซื้อเกมรับ” ด้วยแผนรถบัสอย่างชัดเจน เพราะอย่างน้อยหากเอาตัวรอดไปถึง “จุดโทษ” ได้ ก็ยังมีโอกาสในการจับโทรฟี่มากกว่า

สุดท้าย “รถบัส” คันนี้ก็แน่น และคุ้มค่าพอให้พาทีมคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ไปครองได้สำเร็จ




ผู้เขียนเชื่อว่า ตั้งแต่สโมสรลืมตาป้าปากขึ้นมาไทยลีก ค่ำคืนที่ผ่านมาอาจเป็นวันที่เหล่า “ต่อพิฆาต” และสโมสรฉีกยิ้มได้กว้างที่สุด

ไม่นานมานี้ โค้ชท่านหนึ่งเคยบอกผู้เขียนไว้ว่า สูตรสำเร็จของฟุตบอล ไม่ใช่แค่ฝีตีนหรือแท็คติกอย่างเดียว แต่ โชคชะตา ดวง ย่อมมีส่วนในการกำหนดชัยชนะด้วย ซึ่งสิ่งที่ พีที ประจวบ มีในฟุตบอลรายการนี้ มีทั้ง ฝีมือ และ ดวง

หลายคนอาจเยาะเย้ย ไม่โอเคกับฟุตบอลสไตล์ “เกมรับ” ที่ซื้อรถบัสมาจอดอุดหน้าปากประตู เพื่อแลกกับผลการแข่งขันที่ต้องการ จนเกมฟุตบอลน่าเบื่อ

แต่ฟุตบอลไม่ใช่ยิมนาสติกลีลา ที่นับคะแนนจากท่วงท่า ความสวยงาม ผลการแข่งขันต่างหากคือตัวกำหนดทุกสิ่ง

และวันนี้ พีที ประจวบ สามารถขับรถบัสไปรับถ้วยได้สำเร็จ     

   

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด