:::     :::

คุยกับ "นายกเกียร์" : ในวันที่ "ต่อพิฆาต" ผงาดแชมป์

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
5,757
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
พีที ประจวบ เอฟซี ชื่อนี้เคยถูกปรามาสว่าไม่น่าอยู่รอดในไทยลีกได้ แต่พวกเขามีพัฒนาการที่น่าเหลือเชื่อ ปีที่แล้วเดบิวท์ลีกสูงสุดด้วยการจบอันดับ 6 และปีนี้คว้า แชมป์ลีกคัพ แชมป์ถ้วยแรกในประวัติศาสตร์สโมสรไปแล้ว ภายใต้การตั้งไข่สโมสรมาไม่เต็ม 10 ปี ในการบริหารงานโดย "นายกเกียร์" ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ ประธานสโมสร อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จที่เหมือนดั่งเทพนิยาย วัฒนธรรมและปรัชญาของสโมสรคืออะไร เพราะเหตุใด "ต่อพิฆาต" จึงล้มยักษ์หักด่านอรหันต์ มากมายจนประสบความสำเร็จได้อย่างน่าทึ่ง วันนี้ผมมีคำตอบผ่านบทสัมภาษณ์กับผู้ชายที่หลายๆ คนเรียกเขาติดปากว่า "นายกเกียร์" มาฝากกัน

แมน : สวัสดีครับนายกเกียร์ ผมโทรหาพี่น่าจะทราบแน่ๆ เลยใช่มั้ยครับว่าต้องเป็นเรื่องที่ พีที ประจวบ คว้าแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ

ทรงเกียรติ : ครับ ก็เป็นความรู้สึกที่ภูมิใจที่ในที่สุดเราก็คว้าแชมป์แรกให้กับสโมสรให้กับจังหวัดของเราได้เสียทีครับ


แมน : ประจวบก่อตั้งมากี่ปีแล้วนะครับ

ทรงเกียรติ : พี่ทำทีมมาประมาณ 10 ปีได้แล้วครับ

แมน : ปีที่แล้วเพิ่งจะขึ้นมาเล่นไทยลีกได้เป็นครั้งแรก แล้วปีต่อมาก็คว้าแชมป์บอลถ้วยได้เลย มันเป็นความสำเร็จที่ก้าวกระโดดมากๆ เลยนะครับ แบบนี้ปีต่อไป ความคาดหวังจากแฟนบอลอาจจะยิ่งสูงขึ้น ว่าประจวบจะต้องก้าวขึ้นมาเป็นบิ๊กทีมเพื่อลุ้นแชมป์แล้วหรือเปล่า

ทรงเกียรติ : ผมบอกกับแฟนบอลประจวบมาตลอดครับ ว่าอย่าคาดหวังกับสโมสรมากเกินไปจนกลายเป็นการสร้างความกดดัน เพราะเราไม่ใช่สโมสรใหญ่ เราเป็นเพียงทีมของจังหวัดเล็กๆ ที่ทำในสิ่งที่พวกเราฝันเอาไว้ได้สำเร็จ นักเตะของทีมเราไม่มีใครเป็นชาวประจวบเลย แต่ทุกคนพอลงไปเล่นก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขารักสโมสรแห่งนี้ และพยายามสร้างความสุขให้กับแฟนบอลชาวประจวบ หลายๆ คนก็อายุมากแล้ว อย่างกัปตันของเรา (อดุลย์ หมื่นสมาน) อายุกำลังจะ 38 แล้ว คนอื่นๆ ก็ 30 กว่าหลายคน ทีมของเรากำลังเติบโต แต่แม้ไม่ใช่ทีมใหญ่เราก็มีความเชื่อว่าพวกเราทำได้ เราเป็นทีมรองบ่อนมาทุกรอบครับ อย่างตอนรอบรองเราสู้กับ เชียงราย จนถึงการดวลจุดโทษ แล้วชนะมาได้ มาเจอบุรีรัมย์ ใครก็คิดว่าไม่รอด แต่เราก็ยื้อเขาได้จนจบ 90 นาที จนจบ 120 นาที แล้วก็ดวลจุดโทษชนะได้สำเร็จ มันแสดงให้เห็นว่าทุกๆ คนในทีมมีความเป็นนักสู้มากแค่ไหน


แมน : เตรียมตัวสำหรับนัดชิงกับ บุรีรัมย์ มาเต็มที่มั้ยครับ

ทรงเกียรติ : เราไปเก็บตัวที่ ม.กรุงเทพธนบุรี ตั้งแต่ก่อนไปเยือน ตราด ในไทยลีก พอแข่งกับตราดเสร็จก็กลับไปซ้อมที่ ม.กรุงเทพธนฯ ต่อ พอแข่งกับบุรีรัมย์เสร็จ เราก็ยังเก็บตัวอยู่ที่เดิมก่อนไปเยือน สุพรรณบุรี ในเกมหน้า เราเตรียมความพร้อมมาประมาณเกือบ 2 อาทิตย์เพื่อเกมนี้

แมน : ได้ข่าวว่าพี่เกียร์ให้เงินอัดฉีด 1 ล้านบาท ถ้าล้มบุรีรัมย์ ได้สำเร็จ

ทรงเกียรติ : เงินรางวัล 5 ล้านบาท พี่ให้นักเตะหมดเลย  มีที่สปอนเซอร์ พีที ให้อีก 5 แสน เท่ากับว่า 5 ล้าน 5 แสน เป็นของนักเตะและทีมสตาฟฟ์ทั้งหมด

แมน : สโมสรไม่เอาเงินรางวัลเลยหรอครับ

ทรงเกียรติ : พี่คุยกับนักเตะและทีมงานก่อนเกมแล้วว่า ถ้าพวกเอ็งชนะก็เอาเงินรางวัลทั้งหมดไปแบ่งกันเลย แต่ถ้าแพ้พี่ไม่ให้เอ็งซักบาทเลยนะ

แมน : เป็นการกระตุ้นให้เกิดความฮึกเหิมอะนะครับ ก่อนเกม, หลังจบครึ่งแรก จนถึงช่วงต่อเวลาและการดวลจุดโทษ พี่ได้พูดอะไรกับนักเตะและทีมงานบ้างครับ

ทรงเกียรติ : ก็พยายามทำทุกอย่างให้ทุกคนมีความฮึกเหิมกับเกมนี้ พี่ก็พูดว่าสู้ๆ เว้ย เอาหน่อยเว้ย พวกเราทำได้ อะไรประมาณนี้

แมน : เห็นพอจบเกม นักเตะกระโดดโลดเต้น บางคนร้องไห้ไปกับแฟนบอล ตัวพี่เกียร์เองมีร้องไห้ด้วยมั้ยครับ

ทรงเกียรติ : ก็ร้องเหมือนกันแหละ เพราะมันคือความรู้สึกปลาบปลื้มใจน่ะ เราสู้ด้วยความเป็นรองมาตลอด แล้วในที่สุดเราก็เป็นแชมป์

แมน : นักเตะหลายๆ คนโชว์ฟอร์มโดดเด่นในซีซั่นนี้นะครับ อย่าง ปีโป้ (สิโรจน์ ฉัตรทอง), บอย สุพจน์ (จดจำ) หรือ นะ รัชพล (นาวันโน)

ทรงเกียรติ : พี่บอกนักเตะทุกคนแหละว่า เอ็งจะไปอยากอยู่ทีมใหญ่ๆ กันทำไม บางคนที่เราเคยสนใจ เขาอยากไปอยู่เมืองทอง, บุรีรัมย์ พี่ก็บอกว่าเอ็งไปแล้วได้แต่นั่งดูเขาเล่นน่ะ มีความสุขหรอ นักฟุตบอลทุกคนนะถ้าไม่ได้เล่นมันก็จบ จังหวะหายหมด อย่าง ปีโป้ เขาไปอยู่เมืองทองเกือบ 2 ปี แทบไม่ได้เล่นเลย แต่ถ้าเขาอยู่กับเราเขาได้เล่น สิ่งที่พี่บอกกับนักเตะตลอดก็คือ ถ้าอยู่กับทีมเล็กแต่อยู่อย่างราชา ไปอยู่ทีมใหญ่แต่คนแทบไม่จดจำ เอ็งจะเลือกอะไร


แมน : การไปอยู่ทีมใหญ่ นักเตะอาจจะอ้างว่าเพื่อโอกาสคว้าแชมป์ แต่บางทีการคว้าแชมป์นั้นเขาอาจแทบจะไม่มีส่วนร่วมเลยก็ได้

ทรงเกียรติ : ใช่ การอยู่กับประจวบมีส่วนร่วมช่วยทีมคว้าแชมป์ได้ กับไปอยู่ทีมใหญ่ ได้ชูถ้วย แต่ไมได้เล่นเลย แล้วมันมีผลต่ออนาคตการเล่นฟุตบอลของเขาด้วยนะ ถ้านั่งอย่างเดียวนานๆ กลับมาจังหวะมันก็หายหมด

แมน : อย่างนี้เรื่องสัญญาฉบับใหม่กับนักเตะได้คุยบ้างหรือยังครับ ทั้งไทยและต่างชาติ เพราะทราบว่าส่วนใหญ่ทำสัญญากันไว้ระยะสั้น และอาจจะมีทีมใหญ่ติดต่อทาบทามเข้ามา แล้วตัวต่างชาติเอง นอกจาก อัดนาน (โอราโฮวัช) คนอื่นๆ ก็เหมือนยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่

ทรงเกียรติ : ยังไม่ได้คุยกับใครเลยครับ ผมว่าเรื่องนี้มันจะมีผลต่อความรู้สึก ถ้าเราคุยกับบางคนแล้วพวกที่ยังไม่ได้คุยก็อาจเสียขวัญกำลังใจ รอให้จบฤดูกาลแล้วคุยทีเดียวดีกว่าครับ ตัวต่างชาติก็ค่อนข้างหาลำบากครับ ด้วยความที่เราเป็นจังหวัดเล็ก ไม่มีสนามบินนานาชาติ จะเดินทางไปไหนมาไหนก็ต้องต่อรถบัส อย่างไปเก็บตัวม.กรุงเทพธนฯก็นั่งรถบัส นักเตะต่างชาติก็ปฏิเสธเราด้วยเหตุผลนี้มาหลายคนแล้วครับ

แมน : กับพี่วังล่ะครับ มีกระแสข่าวว่าปีหน้าพี่วังอาจจะไม่ทำประจวบต่อ

ทรงเกียรติ : มันก็เป็นกระแสข่าวกันไปนะครับ แต่ผมยังมองไม่เห็นเหตุผลเลยว่าทำไมเราจะไม่แฮปปี้ที่โค้ชวังอยู่กับเราต่อ ตัวโค้ชวังเองก็ไม่เห็นเหตุผลเลยว่าอยู่ที่นี่จะไม่มีความสุขตรงไหน เพราะผมไม่เคยยุ่งกับเรื่องการทำทีมของเขาเลย ตัวผู้เล่นผมจะรู้ก็คือตอนกำลังจะแข่งนั่นแหละ เราไม่เคยก้าวก่าย ให้อิสระในการทำงานทุกอย่างอยู่แล้ว และผมกับวังไม่ได้มีสัญญา แต่เป็นสัญญาใจ ถ้าเขาได้รับข้อเสนอที่ดีกว่า และคิดว่าดีต่อชีวิตการทำงานของเขาเราก็ไม่คิดขวางอยู่แล้ว


แมน : นักเตะบางคนบอกว่ามีทีมในเจลีกจะเรียกไปเทสต์ พี่เกียร์คิดยังไงครับ

ทรงเกียรติ : ไปเลยครับ ผมสนับสนุนอยู่แล้ว ถ้าใครจะมีโอกาสเติบโตมากขึ้น ผมมีแต่จะช่วยผลักดันครับ ขอแค่มาบอกกันสักหน่อยก็พอ

แมน : นักเตะอาเซียนเคยเห็นมีพม่า นันดา ลิน จอ ชิต แต่หลังจากนั้นไม่มีอีกเลย ปีหน้าจะดึงเข้ามาอีกมั้ยครับ

ทรงเกียรติ : แน่นอนครับเราสนใจนักเตะพม่าอยู่แล้ว เพราะคนพม่าเดินทางเข้ามาดูที่สามอ่าวแค่แปํบเดียว แต่ปัญหาก็คือเรายังหานักเตะที่ตรงตามความต้องการไม่ได้ บางทีฝีเท้าอาจไม่ต่างกับตัวไทยมาก ค่าจ้างก็พอๆ กัน หรือแพงกว่าด้วยซ้ำ ผมก็เลือกนักเตะไทยดีกว่า อย่างที่ถือว่าท็อปสุดของพม่า ก็คงเป็น อ่อง ตู หรือ จอ โก โก แต่หลังๆ มานี่ คนแทบลืมไปแล้วมั้งว่ายังอยู่

แมน : ช่วงก่อนเริ่มเลก 2 เคยมีข่าวว่าประจวบจะคว้า อ่อง ตู นี่จริงมั้ยครับ

ทรงเกียรติ : จริงครับ แต่เพราะจังหวัดเราไม่มีสนามบินนี่แหละครับ เขาถึงไม่มา เงื่อนไขในการเดินทางที่ลำบากกว่าทีมอื่นๆ ก็เป็นอุปสรรคที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ

แมน : เห็นนักเตะเคยเล่าให้ผมหังว่า เวลาว่างจะไปริมอ่าว นั่งตกปลากันเป็นงานอดิเรก

ทรงเกียรติ : จังหวัดเราจะไปเที่ยวที่ไหนได้แค่ไหนกัน เต็มที่ก็ล่องแพ ตกปลา ส่องหมึก แต่คนที่นี่ก็น่ารัก ด้วยความเป็นจังหวัดเล็กๆ เวลานักเตะไปทานข้าวหรือเข้าร้านค้าต่างๆ พ่อค้าแม่ค้าก็จำได้ ก็เหมือนเป็นลูกเป็นหลาน เขาไม่ให้นักบอลจ่ายเงินเลย คงจะมีแค่เวลาเข้าเซเว่นที่ต้องจ่ายตามระบบการคิดเงิน คนประจวบกับนักบอลรักและผูกพันกันมากๆ ครับ นี่คือข้อดีของเราเลย

แมน : แล้วปีหน้า วางแผนเป้าหมายของประจวบไว้อย่างไรบ้างครับ

ทรงเกียรติ : ปีแรกในไทยลีกเราจบอันดับ 6 ทั้งที่คนฟันธงแต่แรกว่าเราตกชั้นแน่นอน แต่เราแทบไม่แพ้ใครในบ้านเลย ฤดูกาลนี้โอเคเราอาจจะพลาดสะดุดอยู่ช่วงนึง แต่สุดท้ายเราคว้าแชมป์บอลถ้วยได้ บอลลีกก็อยู่รอดแบบไม่ต้องลุ้นมาก ปีหน้าผมก็ยังไม่อยากตั้งความหวังอะไรไว้ก่อนครับ ดูกันนัดต่อนัด แล้วแต่สถานการณ์ในตอนนั้นดีกว่า เราโชคดีที่แฟนบอลของเราไม่ด่าสโมสรหรือออกมาขับไล่ใครเวลาทีมผลงานไม่ดีเลย และตัวนักเตะเองผมก็ยังไม่เคยเห็นใครบอกว่าอยากย้ายออกจากประจวบเลยครับ

แมน : คงจะมีแค่ โชนาธาน เฮส คนเดียวมั้ยครับ

ทรงเกียรติ : เคสนั้นก็คงเป็นเรื่องของผลตอบแทนและเอเจนต์ของเขาครับ แต่คนอื่นๆ ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้เลยครับ

แมน : นักเตะที่ยืมมาจาก บุรีรัมย์ ล่ะครับ อย่าง ขวัญชัย สุขล้อม, จิตปัญญา ทิสุด, นัสตพล มาลาพันธุ์ หรือ อภิชาติ เด็นหมาน จะซื้อขาดเลยหรือจะเจรจาเพื่อขอยืมต่อมั้ย


ทรงเกียรติ : นัดล่าสุดที่เราชนะบุรีรัมย์ เราก็ส่งทั้ง 4 คนลงไม่ได้นะครับ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่บุรีรัมย์กับเราถือเป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว ก็คงต้องรอให้จบฤดูกาลก่อนแล้วค่อยมาดูสถานการณ์กันอีกทีครับ

แมน : พี่วัง ชม วันเฉลิม ยิ่งยง ว่าเป็นนักเตะที่เก่งมาก และดีพอที่จะติดทีมชาติไทย ปีก่อนก็ชม กฤษณนน ศรีสุวรรณ พี่เกียร์เห็นด้วยมั้ยครับ

ทรงเกียรติ : ผมยังไม่เห็นว่าตอนนี้จะมีมิดฟิลด์ตัวรับคนไหนในประเทศไทยเก่งกว่าเจ้านัท (กฤษณนน) เลยนะ แต่เขาก็ยังไม่ถูกเรียกติดทีมชาติ กิ๊บ (วันเฉลิม) ก็ดีมาก ถ้าได้เล่นคู่กันจะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ก็แล้วแต่โค้ชทีมชาติว่าเขาจะมองว่าคนไหนเหมาะสมครับ


แมน : เขาอาจจะยังเห็นฟอร์มไม่ทั่วถึงก็ได้ครับ หรืออย่าง ปีโป้ จริงๆ ตอนนี้ก็มีกระแสว่าน่าจะได้รับโอกาสเหมือนกัน เพราะผมเชื่อว่าโค้ชทุกคนย่อมอยากได้ผู้เล่นในสไตล์ที่แตกต่าง ซึ่งสไตล์แบบปีโป้ก็หาไม่ได้ในไทยแล้ว

ทรงเกียรติ : ครับก็อาจจะเป็นเพราะยังเห็นไม่ทั่วถึง ปีโป้นี่ผมว่าตั้งแต่เห็นนักเตะไทยมา ยังไม่เคยมีใครมีร่างกายที่แข็งแกร่งเท่าเขาเลย ช่วงนี้เขาได้ลงเล่นต่อเนื่องด้วยครับ ทำให้ความมั่นใจเริ่มมา ถ้าเขาไม่ได้เล่น หรือยังอยู่กับทีมใหญ่ๆ คนก็อาจลืมเขาไปแล้วครับ  

แมน : ขอบคุณมากครับพี่เกียร์ เดี๋ยวผมเขียนเสร็จแล้วจะฝากพีอาร์เอาบทความไปให้อ่านนะครับ

ทรงเกียรติ : ยินดีครับๆ ขอบคุณครับ

 

ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด