เมื่อตอนที่ แจ็ค บัตแลนด์ อายุได้ 19 ปี เขาย้ายไปร่วมทีม สโต๊ค เมื่อปี 2011 พร้อมความความคาดหวังอันสวยหรูสำหรับอนาคตทีมชาติอังกฤษบนถุงมือคู่ใหญ่ของเขา

    เวลาเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ 8 ปีแล้ว เขากลับใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ในแชมเปี้ยนชิพไม่เหมือนกับภาพฝันที่เจ้าตัวหวังจะได้ค้าแข้งอยู่กับทีมระดับ 'ท็อปซิกซ์' ในปัจจุบัน

    จากอนาคตมือหนึ่งทัพสิงโตคำราม บัตแลนด์ กลับตายจากความหวังนั้นไปแล้วในขณะที่เขาทำได้เพียงวนเวียนอยู่ในลีกระดับล่างของเมืองผู้ดีอย่างน่าตกใจ

    แม้ สโต๊ค จะตกชั้นในปี 2018 แต่เวลานั้นชื่อเสียงของผู้รักษาประตูดีกรีติดทีมชาติชุดใหญ่ 9 นัดก็ยังไม่ได้จมลงพร้อมทีม และถูกคาดหมายว่าจะได้กลับมาโลดแล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกในอีกไม่นาน

    น้ำตาในเกมสุดท้ายของฤดูกาลนั้นทำให้อนาคตในถิ่นเบ็ท 365 สเตเดี้ยม ของเขาเป็นที่สงสัยบ แต่ในที่สุด บัตแลนด์ ก็อยู่กับ สโต๊ค ต่อไป หลังจากที่ต้นสังกัดตั้งราคาค่าตัวของเขาแพงจนหูฉี่

    ข่าวลือของเขาในการรีเทิร์นสู่พรีเมียร์ลีกกลับมาดังอีกครั้ง หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในแชมเปี้ยนชิพ และกลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของช่างปั้นหม้อในซีซั่น 2018-19

    แอสตัน วิลล่า มีการแอบเหล่เล่นหูเล่นตากับนายทวารวัย 26 ปีรายนี้ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ท้ายที่สุดแล้วสิงห์ผงาดก็เลือก ทอม ฮีตัน ของ เบิร์นลี่ย์ แทน และมันทำให้ บัตแลนด์ ถูกปฏิเสธโอกาสวาดลวดลายในพรีเมียร์ลีกของเขาอีกครั้ง

    มันอาจทำให้ในหัวของเขาเริ่มคิดมาก และสับสนจนเหมือนเป็นคนละคนในฤดูกาลนี้ ข้อผิดพลาดจำนวนมากที่เราไม่เคยเห็นก็เกิดขึ้นจากเขาหลายครั้ง และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้อันดับของเดอะ พ็อตเตอร์ส จมอยู่ในโซนท้ายของตารางคะแนน

    เนธาน โจนส์ กุนซือของ สโต๊ค ได้อ้างว่าข่าวคราวการย้ายทีมต่างๆ นาๆ ที่เกี่ยวข้องกับมือกาววัย 26 ปีมันเริ่มส่งผลเสียกับตัวของ บัตแลนด์ มาถึงฟอร์มการเล่นในสนาม

    ที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือการถูกหมางเมินจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ

    เซาธ์เกต เหมือนจะตัด บัตแลนด์ ออกไปจากสารบบของเขาเรียบร้อยแล้ว เมื่อทีมชุดล่าสุดที่ประกาศออกมา เมื่อเดือนก่อนมี จอร์แดน พิคฟอร์ด, ฮีตัน และ นิค โป๊ป ที่เข้ามาเป็นตัวเลือกในตำแหน่งของเขา

    เวลานี้ บัตแลนด์ นั้นกำลังอยู่ในพื้นที่อันตรายที่อาจจะต้องทนทุกข์ทรมานกับชะตากรรมเช่นเดียวกับที่ โจ ฮาร์ท พบเจอมาโดยตลอด

    เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย และรางวัลถุงมือทองคำอีก 4 ครั้งได้กลายเป็นคนที่โลกลืม เมื่อทำได้เพียงนั่งตบยุงอยู่บนม้านั่งสำรองของเดอะ คลาเร็ตส์ จนตูดด้าน

    อาชีพของ ฮาร์ท นั้นดูไม่มีทางที่จะกลับมารุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง และตอนนี้ บัตแลนด์ ก็กำลังสุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นดาวรุ่งที่ล้มเหลวในการทะลุขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูระดับชั้นนำ

    ด้วยอายุที่เพิ่งจะ 26 ปี นั้นยังถือว่าเด็กสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู และมันก็ยังมีความเป็นไปได้ที่เราจะวาดฝันภาพที่เขาจะได้กลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในอนาคต

    แต่สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้เลยก็คือจิตใจของเขา เขาต้องเร่งปรับปรุงมันอย่างเร่งด่วนก่อนที่อะไรจะสายเกินไป เพราะเหมือนว่าด้วยฟอร์มที่ตกลงอย่างน่าใจหายนั้น บัตแลนด์ ได้กลายเป็นตัวสำรองของ อดัม เฟเดริชี่ ในทีม สโต๊ค ไปแล้ว

    ถ้า บัตแลนด์ จะต้องกลายเป็น 'นิว ริชาร์ด ไรท์' มันก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายจริงๆ

    พาสต้า