อย่างที่เห็นกันไปในหลายๆนัดที่ผ่านมาว่ามันช่างน่าหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์โดยเฉพาะแฟนบอลปิศาจแดงที่กว่าจะลุ้นประตูแต่ละครั้งมันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน

นั่นคือปัญหาที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องรับไปเต็มๆแบบไม่มีข้อแก้ตัว เพราะเขาเลือกที่จะทั้ง โรเมลู ลูกากู กับ อเล็กซิส ซานเชซ ออกไปโดยที่ไม่หาตัวมาเสริม แม้ว่าเขาจะมั่นใจในศักยภาพของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล รวมไปถึง เมสัน กรีนวูด แต่พอถึงช่วงเวลาที่นักเตะบาดเจ็บหรือผลงานไม่เป็นตามที่หวังผลก็ออกมาอย่างที่เห็น

จึงไม่แปลกใจที่บรรดาสื่อในยุโรปต่างโยงเป้าหมายใหม่ของ ผีแดง ว่าเป็นกองหน้าแน่นอนซึ่งอยู่ที่ว่าจะเป็นใครก็ต้องไปตามลุ้นกัน แต่พวกเขาก็ได้เผยรายชื่อของความเป็นไปได้ออกมามากมาย

ช่วงที่ผ่านมาหลายคนจึงเห็นทั้งข่าวและสกู๊ปของสื่อในอังกฤษที่จับโยงบรรดาแนวรุกที่กำลังทำผลงานได้ดีเข้ามาเอี่ยวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ตลอด

เอาเป็นว่าที่ผ่านมามีใครกันบ้าง แล้วพวกเขาคือใคร และถูกใจแฟนบอลหรือไม่ลองไปสำรวจกัน

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (ซัลซ์บวร์ก)

ดังเปรี้ยงปร้างในชั่วข้ามคืนหลังจากสอยประตูในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จนถูกสื่อยกยออย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าเขาถูกโยงกับทีมใหญ่และที่หนีไม่รอดคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นเอง

ข่าวกับปิศาจแดงดูจะมีน้ำหนักขึ้นมาทันทีเพราะมีชายชื่อ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เคยทำงานกับ ฮาแลนด์ ในสโมสรโมลด์มาก่อน แถมนักเตะก็ยกย่องกุนซือรายนี้ด้วยว่าเป็น 'ผู้มีพระคุณ' ในวงการฟุตบอล และยังเป็น 'ต้นแบบ' ในการเล่นฟุตบอลของตนเอง

รูปร่างที่สูงใหญ่ จบสกอร์ได้ดี แถมยังเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว จึงเป็นคุณสมบัติที่น่าจะเข้ากับการเล่นในแนวรุกให้กับทีมของ โซลชา 

ถึงจะเป็นอย่างที่นักเตะบอกมา แต่บางครั้งเส้นทางฟุตบอลก็ยากที่บรรจบกันได้ แมนฯ ยูไนเต็ด คงต้องใช้แรงอยากหนักในการฉุดกระชากหอกรายนี้ (ถ้าอยากได้จริงๆ) เพราะกับผลงานที่แสดงออกมามันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องแข่งขันกับทีมอื่นๆ 

มุสซ่า เดมเบเล่ (โอลิมปิก ลียง)

เป็นอีก 1 กองหน้าที่ตกเป็นข่าวกับ ปิศาจแดง มาโดยตลอด และเคยมีรายงานว่าถึงขั้นที่สโมสรดังของแมนเชสเตอร์มอบเงิน 40 ล้านยูโร (หรือ 35 ล้านปอนด์) ไปสู่ขอ แต่ว่า โอลิมปิก ลีย งปฏิเสธ

สำหรับ เดมเบเล่ แล้ว ฟุตบอลอังกฤษหรือในแถบสหราชอาณาจักรไม่ใช่ของแปลกหน้าเพราะแข้งวัย 23 ปีเคยมีประสบการณ์กับ ฟูแล่ม และประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ เซลติก มาแล้ว จึงไม่มีปัญหากับการปรับตัว

แต่ปัญหาที่สำคัญคือทาง ลียง ที่มีประธานชื่อ ฌอง-มิเชล โอลาส ซึ่งถือเป็นคนที่คุยธุรกิจด้วยยากเพราะเขาพร้อมที่จะทำกำไรและให้สโมสรของตนเองได้ประโยชน์มากที่สุดกับการปล่อยนักเตะออกไปสักหนึ่งราย

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อยู่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่าจะเอาจริงสักแค่ไหน และมันขึ้นอยู่กับผลงานในซีซั่นนี้ของ เดมเบเล่ ด้วยว่าจะดีเยี่ยมจนที่สโมสรสามารถขูดรีดเม็ดเงินจากทีมที่สนใจได้ด้วยหรือไม่

วิคเตอร์ โอซิมเฮน (ลีลล์)

แข้งโนเนมที่ไม่มีคนรู้จักแต่กลับกลายมาเป็นแกนหลักของ ลีลล์ พร้อมกับสร้างผลงานโดดเด่นในช่วงต้นฤดูกาล 

10 นัดที่ผ่านมาเขาทำได้ถึง 7 ประตู และล่าสุดก็เพิ่งโขกใส่ เชลซี ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแบบสดๆร้อนๆ

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ลีลล์ ถึงยอมจ่ายเงินมากกว่า 12-13 ล้านยูโรเพื่อดึงกองหน้าวัย 20 ปีรายนี้มาจาก ชาร์เลอรัว ในลีกเบลเยียม เพื่อเอามาแทนที่ ราฟาเอล เลเอา ที่พวกเขายอมปล่อยไปให้ เอซี มิลาน

ทุกอย่างถูกเฉลยในสนามเพราะกองหน้าทีมชาติไนจีเรียทำผลงานได้คุ้มค่าเงินมาก และกลายมาเป็นหัวใจในแนวรุกของทีม 'ตราหมา' ในซีซั่นนี้

สไตล์กองหน้าที่มีทุกรูปแบบ ความเร็ว, การจบสกอร์ และยังมีลูกกลางอากาศที่ถือเป็นทีเด็ดได้เช่นกัน ทำให้หัวหอกรายนี้ถูกโยงกับ ปิศาจแดง ในช่วงที่ผ่านมา

คัลลั่ม วิลสัน (บอร์นมัธ)

เป็นอีก 1 ตัวเลือกที่ถูกเสนอชื่อจากบรรดาสื่อในอังกฤษ โดยเฉพาะ เดลี่ เมล์ ที่รายงานว่าอาจจะได้ย้ายมาเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงหน้าหนาวนี้

กองหน้าวัย 27 ปีคือแกนหลักของ บอร์นมัธ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้จะเคยผ่านอาการบาดเจ็บที่รุนแรงมาแล้ว แต่เขาก็สลัดอาการที่ว่าและกลับมายึดหัวหาดเป็นกำลังสำคัญของ เดอะ เชอร์รี่ส์ 

สถิติที่ผ่านมาถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับกองหน้าจากทีมเล็กๆ เพราะช่วง 5 ซีซั่นที่ผ่านมาเขาทำได้ 38 ประตูจากการลงเล่นพรีเมียร์ลีก 98 นัด ซึ่งเฉลี่ยแล้วตกที่ 2.6 เกมต่อ 1 ประตู

แม้ค่าเฉลี่ยอาจจะสูงอยู่แต่สิ่งที่เขาน่าจะเข้ามาเติมเต็มได้ (หากมีโอกาสย้ายจริงตามข่าว) คือการพักบอลในแนวรุกที่กองหน้าชุดนี้ของ ปิศาจแดง ทำไม่ได้ ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน

มาริโอ มานด์ซูคิช (ยูเวนตุส)

หัวหอกตัวเก๋าชาวโครเอเชียเกือบจะได้ย้ายมาเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา แต่การเจรจาก็ไม่เป็นผล

แม้จะมีข่าวว่าทีมจาก กาตาร์ สนใจดึงไปร่วมทัพแต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เกิดขึ้นทำให้สื่อกลับมาโยงแข้งวัย 33 ปีรายนี้กับ ผีแดง อีกครั้งซึ่งมีโอกาสกลับมาเจรจาและลงเอยในช่วงเดือนมกราคม

แต่ ... ปัญหาใหญ่คงเป็นค่าเหนื่อยของ มานด์ซูคิช ที่เป็นปัญหาก่อนหน้านั้นและส่งผลกับการเจรจา เพราะทาง ผีแดง มองว่ากับนักเตะวัย 33 ปี ค่าเหนื่อย 6 ล้านปอนด์ ดูจะแพงไป แถมยังต้องมาเจรจาค่าตัวกับ ยูเว่ อีก ทำให้บอร์ดบริหารต้องคิดหนัก

มันขึ้นอยู่กับทีมเจรจาของปิศาจแดงแล้วล่ะว่าจะแสดงศักยภาพได้ดีเพียงใดเพราะช่วงที่ผ่านมาก็โดนแฟนบอลด่ายับเยินกับกรณีการเจรจาดึงนักเตะไม่ว่าจะเป็นความล่าช้า, ไม่เอาจริงเอาจัง และบางครั้งก็ต้องเสียเปรียบแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส)

ไหนๆก็จะหากองหน้าตัวปิดบัญชีรายใหม่ทำไมไม่ลองยื่นข้อเสนอเพื่อขอดึง แฮร์รี่ เคน จาก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แบบจริงจังไปเลย

หลังจากเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์มานานหลายปี นี่อาจจะเป็นเวลาที่เอาจริงสักทีในการยื่นข้อเสนอก้อนโตไปให้ ไก่เดือยทอง พิจารณาถึงการปล่อยหัวหอกเบอร์ 1 ทีมชาติอังกฤษออกมา

แม้จะเป็นไปได้ได้ยากแต่กับการที่ตอนนี้ สเปอร์ส มีปัญหาหลายอย่างทั้งผลงานการเล่นของทีม ไหนจะอนาคตของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จึงน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ ปิศาจแดง น่าจะลองสอบถามไปดู

เงินก็มีเยอะแยะจากการทำการตลาดที่ผ่านมา ลองยื่นไปในจำนวนที่เกิน 100 ล้านปอนด์ และรอดูปฏิกิริยาจาก ไก่เดือยทอง อีกครั้งก็ไม่เสียหาย ตามนิยาม 'เงินมาผ้า(อาจจะ)หลุด'

ของแบบนี้ไม่ต้องกลัวเสียหน้าลองสอบถามดู ไม่ได้ไม่เป็นไร แต่หาก สเปอร์ส เกิดเล่นด้วยก็ถือว่าเป็นข่าวดี

ทิโม แวร์เนอร์ (แอร์เบ ไลป์ซิก)

อีกหนึ่งกองหน้าฝีเท้าดีของเยอรมันที่ตกเป็นข่าวกับหลายสโมสร แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจต่อสัญญากับ ไลป์ซิก ออกไปจนถึงปี 2023

อย่างไรก็ตาม แข้งวัย 23 ปีก็ยังคงตกเป็นข่าวย้ายทีมอยู่ดี โดยเฉพาะ บาเยิร์น มิวนิค ที่แสดงเจตจำนงว่าต้องเอาให้ได้มาตลอด และนักเตะก็ไม่ปิดบังกับการเล่นให้ เสือใต้

ถึงนักเตะจะมีใจให้ พี่เสือ แต่สื่อก็มองว่ามีโอกาสที่ แวร์เนอร์ อาจจะได้เก็บกระเป๋าเดินทางออกจากเมืองเบียร์เพื่อไปลองใหม่ๆดูบ้าง

หนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถูกโยงกับนักเตะ (อีกตามเคย) โดยสื่อระบุว่าแข้งวัย 23 ปีมีค่าฉีกสัญญาสดถูกเพียง 30 ล้านยูโร (ราว 26.59 ล้านปอนด์) ทำให้บรรดาทีมที่สนใจยังคงมีหวัง

ปิศาจแดง ก็น่าจะลองดูแม้โดยรวมแล้วสไตล์การเล่นจะไม่ต่างจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แต่บรรดาสื่อยกให้จังหวะจบสกอร์ดีกว่าสองแข้งที่ว่ามาอย่างมาก